ผมพยายามอย่างเต็มที่ ! และความผิดพลาดต่างๆทำให้ผมได้มาอยู่ในที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ และผมภูมิใจกับมัน ! ผมเขียนเรื่องราวของตัวเอง และระหว่างเรา มันจบลงแล้ว” 

อย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนล้วนตีความในแบบเดียวกันว่า คำว่า ‘เรา’ ในที่นี้หมายถึงระหว่างเขากับทีมชาติ และนี่คือคำประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการของ เบนเซม่า หลังจากที่ต้องออกจากแคมป์เลส์ เบลอส์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริง

ลือกันแซ่ดว่า ก่อนเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ฟุ ตบอลโลก เบนซ์ มีอาการบาดเจ็บจริงซึ่งเป็ นอาการเจ็บที่ติดตัวมาจากการเล่ นให้ เรอัล มาดริด แต่เจ้าตัวมั่นใจว่ าเขาสามารถหายทันเวลา จึงขออยู่กับทีมต่อ เพราะมั่นใจว่า ฝรั่งเศส ไม่ได้เล่นแค่ 3 เกมในรอบแรกอย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม ทาง เดส์ช็องส์ กับทีมแพทย์ลงความเห็นว่า เบนเซม่า ควรกลับไปรักษาตัวที่ มาดริด เนื่องจากเครื่องมือและอุปกรณ์ ในการรักษาภายในแคมป์(ที่กาตาร์ ) ไม่เอื้ออำนวย 

ตรงนี้อาจตีความได้ว่า “บีบกลายๆให้ออกจากแคมป์” 

สุดท้าย เบนเซม่า จึงเก็บของกลับออกมา และบินกลับไปรักษาตัวที่ มาดริด ต้นสังกัดซึ่งจากนั้นไม่นานสื่ อฝรั่งเศสอย่าง เลอ กิ๊บ ก็เล่นประเด็นว่ามีความขัดแย้ งระหว่างเขากับ เดส์ช็องส์ อีกทั้งนักเตะส่วนใหญ่ก็รู้สึ กพอใจที่ทีมไม่มี เบนเซม่า ซึ่งต่อมาข่าวได้มีการพูดถึงว่า 2 แข้งในนั้นก็คือ อองตวน กริซมันน์ กับ อูโก้ โยริส กัปตันทีม 

สุดท้าย ฝรั่งเศส ไม่ได้เล่นแค่ 3 นัดอย่างที่ข่าวลือ ระบุว่า เบนเซม่า คาดไว้จริงๆ โดยตะลุยไปได้ไกลถึงรอบชิ งชนะเลิศอีกครั้งเหมือน แต่ก็พ่ายจุดโทษต่อ อาร์เจนตินา อย่างสุดมัน 2-4 (3-3) 

ก่อนเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ่ยปากชักชวนให้ เบนเซม่า ให้บินไพรเวทเจตมาด้วยกันเพื่ อร่วมชมเกม ทว่ากองหน้าชุดขาวปฏิเสธ 

เมื่อรวมกับทวีตล่าสุดก็เท่ากั บว่าระหว่างเขากับทีมชาติฝรั่ งเศส นั้นสิ้นสุดความสัมพันธ์กันเพี ยงเท่านี้แล้วจริงๆ ไม่มีไปต่อ

ในวัย 35 ปี ของ ‘คิงคาริม’ ลงเล่นให้ฝรั่งเศสทั้งสิ้น 97 เกม ยิง 37 ประตู โดยถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2006 เกมพบกับ กรีซ ในยุคของ เรย์มองด์ โดเมเน็ค แต่ 2 วันต่อมาก็ต้องถอนตัวเนื่ องจากบาดเจ็บต้นขาจากการเล่นให้ ลียง ต้นสังกัด ก่อนจะกลับมามีชื่อได้และได้ ลงเล่นสนามครั้งแรกวันที่ 28 มีนาคม 2007 นัดพบ ออสเตรีย ซึ่งเจ้าตัวสามารถยิงได้ทันที และเป็นประตูชัยให้ ฝรั่งเศส เฉือนชนะไป 1-0

เส้นทางของ เบนเซม่า กับทีมชาติมีอันต้องสะดุดลงในข่ วงปลายปี 2015 จากกรณี ‘เซ็กซ์เทปฉาววัลบูเอน่า’ ที่เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่ งในกลุ่มคนที่พยายามแบล็คเมลล์ เพื่อนร่วมทีมชาติ จนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ไปทั้ งโลก ซึ่งทำให้ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ตัดสินใจไม่เรียกเขาติดทีมชาติ กระทั่งคดีเข้าสู่กระบวนการยุติ ธรรมแล้ว และศาลตัดสินออกมาว่า เบนเซม่า พ้นผิด แต่นายใหญ่ ‘ตราไก่’ ก็ยังเมินเฉย 

กระทั้งเวลาผ่านไปเกือบ 6 ปี เดส์ช็องส์ ก็ใจอ่อนยอมเรียก เบนเซม่า ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างร้ อนแรงในการเล่นกับ เรอัล มาดริด กลับคืนทีมชาติอีกครั้งเมื่อวั นที่ 18 พฤษภาคม 2021 ซึ่งทำให้ เบนซ์ ได้กลับมาเล่นฟุ ตบอลรายการเมเจอร์ระดับชาติอี กครั้งใน ยูโร 2020 (เล่นปี 2021) แต่เส้นทางของ ฝรั่งเศส ก็ไปได้ไกลสุดแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น เมื่อตกรอบด้วยน้ำมือของ สวิตเซอร์แลนด์ 

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปี เบนเซม่า ก็มาไล่คว้าเกียรติยศระดับชาติ มาครองจนได้เมื่อช่วย ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ เนชั่นส์ลีก 

นักเตะระดับเบนซม่ากับการเล่ นให้ชาติใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส นับเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่ างมากที่เหตุการณ์มันออกมาเช่ นนี้

เบนซม่า ก็น่าจะมีเกียรติยศความสำเร็ จมากกว่านี้ เช่นเดียวกับ ฝรั่งเศส ก็คงจะแข็งแกร่งและน่ากลัวยิ่ งกว่านี้ 

ระหว่าง 2015-2021 ห้วงเวลาที่หายไป เบนเซม่า พลาดฟุตบอลโลกไป 1 ครั้ง และพลาดยูโรไปถึง 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งมันก็ยากที่จะพูดว่าหากมี เบนเซม่า อยู่ ฝรั่งเศส จะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็ นอยู่ในปัจจุบัน ทว่าหากทุกอย่างดำเนิ นไปตามครรลองทั้งสองฝ่ายก็น่ าจะเกื้อหนุนกันและกันจนมี อะไรดีๆให้แฟนๆได้ชื่นชมกัน 

แต่ฟุตบอลไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ จริงๆครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ไม่อาจย้อนคืน เหมือนความสัมพันธ์ที่แตกหั กไปแล้ว แม้พยายามจะรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ มันก็ไม่มีทางเหมือนเดิม  

เบนเซม่า อาจรู้สึกว่าทีมชาติไม่ใช่ที่ที่ ของเขาอีกต่อไปแล้ว และทีมชาติในปัจจุบันก็ คงมองในแบบเดียวกัน ซึ่งพอตัดสินใจออกมาแบบนี้แล้ว ผมเองว่าก็ดีเหมือนกันครับ ถ้าอยู่กันแล้ว มันไม่แฮปปี้ ก็ทางใครทางมัน เอาเวลาที่เหลือไปเขียนเรื่ องราวของตัวเองดีกว่า จะจบแบบไหน ก็แล้วแต่จะออกแบบเลย 

เจมส์ ลา ลีกา