:::     :::

จู๊ด เบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์ในฝันของ เรอัล มาดริด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้รู้ดีว่าสงครามแย่งชิง จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไม่มีทางง่าย แต่ เรอัล มาดริด ก็มองว่าตัวเองอยู่ในเส้นทางที่ดี ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษกำลังดำเนินไปอย่างที่ควร ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่าง ลิเวอร์พูล ยังไม่มีสัญญาณใดๆว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า

บอร์ดบริหารของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทราบความปรารถนาของ เบลลิ่งแฮม อย่างชัดเจน ตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ จะเริ่มขึ้นว่าเจ้าตัวต้องการที่จะก้าวไปสู่อีกขั้นของอาชีพ แม้ว่าจะรู้สึกขอบคุณสโมสรที่เปิดโอกาสให้ได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุย่าง 17 ก็ตาม 

ในดีลของ เบลลิ่งแฮม นั้น เรอัล มาดริด แสดงออกให้เห็นถึงความจริงจังโดยใช้เวลาในการติดตามฟอร์มการเล่น,พูดคุยกับตัวนักเตะและคนรอบข้างมานานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อของ เบลลิ่งแฮม ซึ่งถัดจากนี้ไปนับเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของดีล


สถานการณ์เวลานี้ที่ทำให้ เรอัล มาดริด ค่อนข้างพึงพอใจก็คือ 

1. เบลลิ่งแฮม ยังไม่ต่อสัญญากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

และ 2.ยังไม่ได้เจราจาหรือตอบรับข้อเสนอจากสโมสรอื่นๆ ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึงตัวพ่อของเขาและทางเอเยนต์ด้วย 


ในเรื่องของค่าตัว ไม่เป็นที่สงสัยว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งดีลที่อยู่ในระดับ centenario หรือหลัก 100 ล้าน ต่อจาก แกเร็ธ เบล และ เอแดน อาซาร์ จุดสตาร์ทจะอยู่ที่ตัวเลข 100 ล้าน แต่จะไปจบตรงไหน ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ว่ากันว่านี่เป็นดีลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์การขายของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

อีกหนึ่งข้อที่ มาดริด คิดว่าพวกเขามีเปรียบคู่แข่งรายอื่นๆก็คือความสัมพันธ์อันดีระหว่าง อาคี วัตซ์เก้ ประธานสโมสรดอร์ทมุนด์ กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ และ โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ ที่รู้จักกันมานาน 


ข้อนี้ ไม่ได้หมายความว่า วัตซ์เก้ จะตอบรับแค่ข้อเสนอของ เรอัล มาดริด แล้วบอกปัดรายอื่นๆ 

โดยหลักการแล้ว ดอร์ทมุนด์ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะพวกเขาเป็นสโมสรที่อยู่ในรูปแบบบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงไม่สามารถปิดบังความเคลื่อนไหวของตัวเองได้ ทุกการกระทำจะต้องโปร่งใส 


สถานการณ์ของ เบลลิ่งแฮม ถูกจับตามองอย่างมาก และ วัตซ์เก้ จะต้องหาทางออกที่ดีที่สุดในการตัดสินใจ ซึ่งจะต้องสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ถือหุ้น 

เพียงแต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้การพูดคุยเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งช่วยให้ฝั่ง มาดริด เข้าใจสถานการณ์ชัดเจนว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไร และต้องทำอย่างไร 

ยามนี้ อาจปรากฏแค่ชื่อของ ลิเวอร์พูล เท่านั้นที่เป็นคู่แข่งสำคัญ หากแต่เมื่อใกล้ถึงเวลาตลาดซัมเมอร์เปิดฉาก มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าทีมใหญ่ๆอย่าง เปแอสเช และ แมนฯซิตี้ จะตัดสินใจกระโจนเข้ามาร่วมวงประกวดราคาด้วย 


หากเป็นอย่างที่คาด มาดริด ก็คงจะต้องใช้กำลังภายในไม่น้อยในการไล่ล่าลายเซ็นของ เบลลิ่งแฮม มาครอบครอง เพราะ 2 ยักษ์ใหญ่ที่ว่ามีอำนาจทางการเงินสูง พร้อมจ่ายในราคาที่ทัดเทียม หรืออาจมากกว่าข้อเสนอที่ มาดริด ยื่นให้ 

เช่นนี้แล้ว เชื่อกันว่าลำพังแค่เงิน ไม่น่าจะเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้คว้าลายเซ็นของ เบลลิ่งแฮม มาครอง หากแต่ มาดริด จะต้องสม่ำเสมอ แสดงออกถึงความจริงใจ และมีโปรเจคต์ที่น่าตื่นเต้นพอจะโน้มน้าวใจของ เบลลิ่งแฮม 

………………………..

ทำไม มาดริด ถึงอยากได้ เบลลิ่งแฮม ?

เรื่องนี้นั้นชัดเจนอยู่แล้ว ถึงแม้ มาดริด จะเพิ่งคว้าตัว เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า กับ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ สองมิดฟิลด์ดาวรุ่งฝรั่งเศสมาไว้ในครอบครอง อีกทั้งยังมี เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ กองกลางพลังไดนาโมอยู่อีกราย 


แต่แผงกลางในปัจจุบันของทีม ลูก้า โมดริช กำลังเดินทางมาถึงช่วงปลายสุดของอาชีพค้าแข้ง ประเมินกันว่าอีกไม่เกิน 1 ฤดูกาล หรือหลังจบฤดูกาลปัจจุบัน ก็อาจจะสิ้นสุดการเดินทางของเพลย์เมกเกอร์โครแอต


ด้าน โทนี่ โครส ก็เพิ่งจะอายุ 33 ไปเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวแสดงความไม่แน่นอนออกมาว่าจะเอาอย่างไรกับสัญญาฉบับปัจจุบันที่เหลืออยู่ถึงปี 2023 

ในยามที่ โมดริช กับ โครส ย้ายออกไป เรอัล มาดริด ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบในการเปลี่ยนถ่ายครั้งใหญ่ สโมสรเคยได้รับบทเรียนมาแล้วจากเมื่อครั้งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกจากทีมไปเมื่อปี 2017 และตัดสินใจเดิมพันกับนักเตะที่มีอยู่อย่าง แกเร็ธ เบล ก่อนที่สุดท้ายจะพังไม่เป็นท่า 


เหตุนี้การมองหาตัวแทนที่เหมาะสมแต่เนิ่นๆ ของทั้ง โมดริช และ โครส จึงเป็นงานที่สำคัญอย่างมาก และ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ก็คือคนที่ทีมมองว่าใช่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่น,ระดับฝีเท้าที่เก่งเกินวัย อายุที่ยังน้อยเพียง 19 ปีซึ่งยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล 


เมื่อรวมเข้ากับกลุ่มนักเตะอายุน้อยที่ทีมครอบครองอยู่ในปัจจุบันอย่าง กามาวินก้า,ชูอาเมนี่,โรดรีโก้,วินิซิอุส จูเนียร์ รวมถึงแข้งใหม่ในอนาคตที่จะย้ายมาในปี 2024 อย่าง เอ็นดริก ก็ทำให้ มาดริด มีขุมกำลังแห่งอนาคตที่น่ากลัวเอามากๆ

กล่าวได้ว่า จู๊ด เบลลิ่งแฮม คือส่วนเติมเต็มในโปรเจคต์แห่งอนาคตของ มาดริด อย่างที่ไม่มีใครจะมาทดแทนได้ หากได้มา มาดริด จะสามารถยืนระยะเป็นสุดยอดทีมของโลกได้อีกนับ 10 ปีเลยทีเดียว 


เจมส์ ลา ลีกา 





ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด