นักเตะตัวปล่อยยืมในปีนี้ของแมนยูไนเต็ดประสบความสำเร็จมากๆในหลายดีล หนึ่งในนั้นคือ "Dean Henderson" ผู้รักษาประตูตัวจี๊ดของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ล่าสุดเมื่อคืนวานก็โชว์ฟอร์มระดับแมนออฟเดอะแมตช์ เซฟรัวๆในเกม90นาที และซัดอีก "สองเซฟ" ในการพุ่งไปปัดตัวเก๋าๆอย่างรูเบน เนเวส ที่เป็นมือสังหารอันดับหนึ่งของทีมหมาป่า เล่นซะเนเวสเสียทรง

ก่อนที่ดีโน่จะพุ่งเซฟคนยิงคนที่ห้าอย่าง โจ ฮอดจ์ อีกหนึ่งลูก และพุ่งไปสไลด์เข่าต่อหน้าแฟนบอลฟอเรสต์อย่างสะใจ พร้อมท่าอุดหูที่ยั่วกันไปยั่วกันมาระหว่างนักเตะและแฟนบอลของทั้งสองทีม

ถ้าแฟนบอลจำกันได้ ฤดูกาลนี้ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟจุดโทษเป็นว่าเล่น เรียกได้ว่าเป็นจอมเซฟจุดโทษคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ โดยที่เจ้าตัวโดนจุดโทษไปทั้งหมด 5 ครั้ง เสียประตูไป 2 และเซฟจุดโทษได้ 2 ครั้ง รวมกับที่คู่แข่งยิงพลาดอีกหนึ่ง ดังนั้นเรทการเซฟจุดโทษของดีโน่จึงอยู่ที่ 50% แต่ถ้านับรวมลูกที่คู่แข่งยิงออกไปถือเป็นการไม่เสียประตูแล้ว ดีน เฮนเดอร์สัน ป้องกันประตูไว้ได้ถึง 60% จากการโดนล่อเป้าทั้งหมด 5 ครั้ง

ช็อตจำคงหนีไม่พ้นลูกเซฟเดแคลน ไรซ์ ที่ทำให้ฟอเรสต์เอาชนะเวสต์แฮมไปได้อย่างสุดมันส์ 1-0, การเซฟจุดโทษแฮรี่ เคน ในเดือนเดียวกัน(สิงหาคม) ที่สุดท้ายแล้ววันนั้นฟอเรสต์จะแพ้ไป 0-2 แต่ก็เป็นการเซฟสวยๆอีกครั้งของเขา

ส่วนลูกที่คู่แข่งยิงออกคือช่วงก่อนฟุตบอลโลก วิลฟรีด ซาฮา ยิงออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย เป็นการรักษาคลีนชีทของดีนได้อีกด้วยในวันนั้น

ปีนี้เขาเซฟจุดโทษไปแล้ว 3 ครั้งในพรีเมียร์ลีก แต่ตลอดอาชีพการเป็นผู้รักษาประตูของดีน เฮนเดอร์สัน เขาเซฟไปทั้งหมด 11 ประตูด้วยกัน โดยเซฟให้กับ Shrewsbury Town ในลีกวันไป 3 เซฟ, กับทีมชาติอังกฤษชุด U-21s อีก 2 เซฟ, เซฟให้ทีม Sheffield United ไปอีก 1 ครั้งตอนไปยืมตัว, กับแมนยูได้ไป 1 เซฟในยูโรปาลีกปีโอเล่ ก่อนที่ฤดูกาลนี้ จัดไป 3 เซฟอย่างที่เห็นกัน

นอกจากเรื่องการเซฟจุดโทษแล้ว มาดูสถิติการเล่นของเจ้าตัวโดยทั่วไปกันบ้าง โดยจะลองหยิบข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับดาวิด เดเคอา ที่อยู่กับแมนยูไนเต็ดปีนี้ดู

(แถวบน Dean Henderson , แถวล่าง David de Gea)

ข้อมูลทั่วไปเรื่องการเซฟ จะเห็นว่าอัตราการเซฟของดีน เฮนเดอร์สัน อยู่ที่ 65.5% โดนส่อง 84 ครั้งเซฟ 51

ขณะที่เดเคอา อัตราการเซฟของน้าเดอยู่ที่ 71.6% โดนส่อง 67 ครั้ง เซฟไป 47 ครั้ง เรื่องการเซฟน้าเดเหนือกว่าดีนอยู่พอควร ซึ่งก็ลามไปถึง Clean Sheet Percentage ในซีซั่นนี้ด้วยที่เดเคอาเก็บคลีนชีทได้ถึง 47.1% ดีนทำได้แค่ 29.4% แต่เรื่องคลีนชีทนี่จะโทษดีนคนเดียวไม่ได้ เพราะสถิตินี้มันสะท้อนเรื่องของเกมรับทั้งแผง บางครั้งผู้รักษาประตูก็จนปัญญาจะเซฟ ถ้าแนวรับของทีมไม่ดี

[ดีนเสียประตูไปทั้งหมด 31 ประตู ส่วนเดเคอาเสีย 20 จากMatch Played 17 เกมเท่ากัน]

ส่วนทางขวาสุด Penalty save percentage อย่างที่กล่าวไว้แล้ว ดีโน่มีอัตราเซฟได้สำเร็จ 50% (ถ้ารวมยิงออกเองด้วยก็60) ส่วนเดเคอา ซีซั่นนี้โดนไป 1 จุดโทษยังเซฟไม่ได้

สถิติต่อมาข้างบนนี้คือเรื่องการเล่นอื่นๆของผู้รักษาประตู สังเกตได้ว่าสกิลหลายๆอย่างของดีโน่ยังคงเด่นกว่าเดเคอาอยู่ เช่นการออกมาหยุดลูกครอสสำเร็จ 6.6% ต่อเดเคอา 3.1% และการเล่นป้องกันนอกกรอบเขตโทษ เฉลี่ยต่อเกมดีน เฮนเดอร์สันออกมาป้องกันนอกกรอบ 1.41 ครั้งโดยเฉลี่ยต่อ 90นาที ส่วนเดเคอาไม่ถึง1ครั้ง แค่เกือบๆ อยู่ที่ 0.88 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

แต่ระยะทางที่ออกมาป้องกันห่างจากปากประตูนั้น เดเคอาออกมาในระยะที่ใกล้เคียงกับดีนเลย ของดีนห่างจากโกล 15.2 หลา ส่วนเดเคอาออกมาป้องกันห่างโกล 15.6 หลา เรื่องระยะทางที่ออกมาถือว่าใกล้เคียงกัน แต่แน่นอนว่าคนที่ตัดสินใจออกมาบ่อยกว่าคือดีโน่อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องความแม่นยำในการออกบอล ลูกเตะสาดยาวออกมา ดีนเตะออกมาสำเร็จ 30.4% เดเคอาเตะสาดสำเร็จ 29% จริงๆถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ระยะทางในการเตะ ดูเหมือนว่าดีนจะเตะสาดออกมาได้ไกลกว่า (38.4หลา ส่วนเดเคอา 32.8หลา)

*สรุปได้แบบง่ายๆว่า ทั้งสองคนยังคงเก่งกันในแนวทางของตนเองอยู่ดี เดเคอายังคงเป็นเทพ Shot Stopper ที่เซฟลูกยิงได้เยอะกว่าดีน เฮนเดอร์สัน ในขณะที่สกิลอื่นๆที่เป็นของ Sweeper Keeper ทั้งหลายเช่นออกมาตัดบอล เล่นนอกกรอบ การเตะออกบอล โดยรวมดีนยังดีกว่าเดเคอาอยู่

การจับสลากมาเจอกับน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ของแมนยูไนเต็ดนั้นจะต้องเล่นเกมสองเลกในรอบรองชนะเลิศแบบเหย้าเยือน ซึ่งจะเตะภายในเดือนนี้ทั้งสองนัด (24 มกราคม กับ 31 มกราคม ซึ่งสองเกมนั้นจะคั่นด้วย FA Cup กับ Reading ในวันที่ 28 อีกหนึ่งนัด) โดยสองเลกในรอบรองชนะเลิศ เราจะไปเยือนถิ่นซิตี้กราวน์ก่อนในเลกแรก และกลับมาเตะที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในเลกที่สอง

ขณะนี้ทางฟอเรสต์กำลังหาช่องโหว่เพื่อให้สามารถนำดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาให้ได้ แต่ทางแมนยูไนเต็ดก็จะไม่อนุญาตให้ดีนลงสนามเด็ดขาดในเกมนี้

คำถามก็คือ ดีโน่จะสามารถลงเล่นในเกมเจอแมนยูไนเต็ดนี้ได้หรือไม่? และลงแล้วมันมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร

แน่นอนว่าดีนคงจะอยากแสดงฝีมือให้ต้นสังกัดที่แท้จริงได้เห็นแน่นอน รวมถึงแฟนบอลด้วยว่า พวกคุณจะต้องเสียใจที่ยังไม่ให้ผู้รักษาประตูฝีมือขนาดนี้ลงสนาม ผมอยากจะบอกว่า เชื่อว่าแฟนผีส่วนใหญ่เข้าใจดีโน่ดีในประเด็นนี้ มันน่าเห็นใจและ Dilemma กลืนไม่เข้าคายไม่ออกพอสมควร เพราะฟอร์มของน้าเดก็อยู่ในระดับ Untouchable เหมือนกัน

เราเชื่อมากๆว่ามืออาชีพระดับดีน เฮนเดอร์สัน ถ้าได้ลงสนามเกมนี้จริง เขาจะใส่สุด และจะเซฟให้แมนยูปี่แตก ตกรอบรองชนะเลิศนี้ไปแน่ๆ ผมเชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน

แต่ในอีกทางหนึ่ง หากดีนลงสนามมาเจอยูไนเต็ด คำครหาจะเกิดขึ้นทันทีหากดีโน่ "พลาด" ในเกมวันนั้น หรือฟอเรสต์แพ้แมนยูไนเต็ดตกรอบ ก็จะเกิดคำติฉินนินทาอะไรขึ้นมามากมายได้ ถึงแม้ว่าต้นสังกัดอย่างฟอเรสต์จะไว้ใจ หรือดีโน่จะทำเต็มที่แล้วก็ตามที

มันห้ามปากคนไม่ได้

เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง การที่ยูไนเต็ดจะไม่ให้ดีโน่ลงสนามก็ถือว่าเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมที่ถูกต้องแล้ว แมนยูไนเต็ดก็จะได้ไม่ต้องเจอกับฟอเรสต์ที่มี "ตัวแบก" อยู่ในทีม ถือว่าทำให้ฟอเรสต์ลดความน่ากลัวลงไปเยอะ เพราะจะไม่สามารถใช้งานดีนได้เลย

ในเงื่อนไขของการยืมตัวน่าจะมีข้อบังคับนี้แนบเอาไว้ด้วยว่า Mother Club สามารถที่จะไม่ให้นักเตะลงสนามได้ หากว่าสโมสรฟอเรสต์ต้องมาลงเล่นกับแมนยูไนเต็ด คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

.. ถามว่าถ้าดีโน่ได้ลงสนามแล้ว แมนยูจะชนะฟอเรสต์ไม่ได้เลยเหรอ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นอีกเช่นกัน

ยังไงเราก็น่าจะเข้ารอบ เพราะยูไนเต็ดกับฟอเรสต์ตอนนี้มันอยู่กันคนละบรรยากาศไปแล้ว ปีศาจแดงค่อยๆยกระดับการเล่นไปเรื่อยๆพร้อมกับการเติบโตของทีม เพราะฉะนั้นต่อให้ดีน เฮนเดอร์สันจะลงหรือไม่ลง

แมนยูก็จะผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศได้อยู่ดี

ถ้วย EFL Cup ที่ตอนนี้คือ Carabao Cup นั้นแมนยูไนเต็ดคว้าแชมป์มาได้หนล่าสุดคือเมื่อปี 2017 กับดับเบิ้ลแชมป์ของโจเซ่ มูรินโญ่นั่นเอง ตอนนี้ก็เกือบๆจะเป็นเวลาหกปีแล้วที่ตู้โชว์ถ้วยรางวัลของแมนยูไนเต็ดไม่มีอะไรเข้ามาเป็นอาหารแห่งความภาคภูมิใจเลย

เชื่อว่าเราทำได้ และเราจะทำได้ดีแน่ๆ รอบชิงรอดูกันอย่างเดียวว่า เซาธ์แธมพ์ตัน หรือ นิวคาสเซิล ใครจะเป็นผู้ท้าชิงรายสุดท้ายของเราที่จะมาขวางการคว้าแชมป์มาประดับสโมสรในครั้งนี้อยู่ นัดชิงชนะเลิศจะเตะกันวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

แชมป์แรกจะมาเป็นขวัญกำลังใจแด่เอริค เทน ฮาก ในการสร้างทีมต่อจากนี้ไปอีกหลายปีหรือไม่ น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์, นิวคาสเซิล และ เซาธ์แธมพ์ตัน จะเป็นเครื่องชี้วัดความสามารถของเขาในการฝ่าฟันคู่ต่อสู้สามรายสุดท้ายนี้เอง

เชื่อว่าเราทำได้ และจะทำได้อย่างสวยงาม

ส่วนปัญหาของดีน เฮนเดอร์สัน ไม่ว่ายังไงก็ตาม โอกาสที่เขาจะได้ลงเฝ้าเสามันน้อยมากๆ ถึงแม้ว่าเอาจริงๆแล้วมันจะเป็นการดีในแง่ของการดูศักยภาพการเล่น ด้วยสายตาของผู้จัดการอย่าง เอริค เทน ฮาก โดยตรง นั่นอาจจะเป็นโอกาสปล่อยของให้เอริคได้เห็นก็ได้ เพื่อว่าฤดูกาลหน้าเขาอาจจะมีสิทธิ์กลับมาชิงตำแหน่งมือหนึ่งได้

ต่อให้เราจะรักดาวิด เดเคอามากขนาดไหน แต่การให้โอกาสดีน เฮนเดอร์สัน ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ดี และคนที่จะได้รับประโยชน์จากการมีมือหนึ่งระดับเทพสองคนนี้มาแย่งตำแหน่งกันก็คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่จะได้ใช้ผู้รักษาประตูมือดีที่สุดเพื่อเฝ้าเสาให้กับพลพรรคปีศาจแดง ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดนี้ต่อไป

ไม่ว่ายังไงก็ตาม โชว์ผลงานที่ดีที่สุดแให้ฟอเรสต์ต่อไปนะน้องดีน ฟอร์มของนายมันเจ๋งจริงๆว่ะ

-ศาลาผี-

References

https://utddistrict.co.uk/manchester-united-vs-nottingham-forest-in-the-carabao-cup-semi-final-all-you-need-to-know/11/01/2023/

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=e5a76dfe&p1yrfrom=2022-2023&player_id2=7ba6d84e&p2yrfrom=2022-2023

https://www.transfermarkt.com/dean-henderson/elfmeterstatistik/spieler/258919

https://www.transfermarkt.com/david-de-gea/elfmeterstatistik/spieler/59377