:::     :::

ปฏิบัติการสิงห์ปาดปืนคว้า 'มูดริค'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความพยายามของ อาร์เซน่อล ในการไล่ล่า มิไคโล มูดริค ปีกดาวรุ่งตัวเก่งของ ชัคตาร์ โดเนทส์ค จบลงด้วยความล้มเหลวเมื่อสุดท้ายเป็น เชลซี ปาดหน้าคว้าตัวไปครอง

อาร์เซน่อล แสดงออกชัดเจนต้องการตัว มูดริค และพยายามอย่างเต็มที่พร้อมกับยื่นข้อเสนอซื้อตัวถึง 3 รอบ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของทีมดังแห่งยูเครน 

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือทีมปืนใหญ่อยากได้ตัวรุกริมเส้นในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้เพื่อแบ่งเบาภาระของ บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และเพื่อเพิ่มโอกาสในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบเกือบยี่สิบปี 

ทีมปืนใหญ่มีโอกาสดีมากในการกลับมาคว้าแชมป์ลีกให้ได้อีกครั้งหลังยืนระยะนำเป็นจ่าฝูงจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังอยู่ในเส้นทางของฟุตบอลสองรายการทั้งยูโรปา ลีก และเอฟเอ คัพ ดังนั้นการเสริมทัพจึงเป็นสิ่งที่ อาร์เตต้า รวมถึง เอดู ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรมองว่า "จำเป็น" 

พวกเขาติดตามดูฟอร์มและพัฒนาการของ มิไคโล มูดริค มานานหลายเดือนทำให้มั่นใจว่าจะเป็นผู้เล่นที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมได้

มูดริค เคยอยู่กับในทีมเยาวชนของ เมตาลิสต์ คาร์คีฟ และ ดนิโปร ก่อนมาอยู่กับ ชัคตาร์ ในปี 2016 และได้ลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในอีก 2 ปีถัดมาขณะอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น 

ช่วงแรกในทีมชุดใหญ่ ปีกดาวรุ่งอนาคตไกลรายนี้ถูกส่งไปเก็บประสบการณ์ด้วยสัญญายืมตัวกับ อาร์เซน่อล เคียฟ และ เดสน่า เชอนิคีฟ ก่อนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในฤดูกาล 2021/22 ที่ได้ลงสนามรวม 19 นัด

ท้ายฤดูกาลนี้เองที่ฟอร์มของ มูดริค โดดเด่นขึ้นอย่างมากและได้รับการจับตามองจาก อาร์เซน่อล รวมถึง เซบีย่า จากสเปน 

จนกระทั่งมาถึงฤดูกาลนี้ มูดริค ยกระดับฝีเท้าขึ้นอย่างมากจนกลายเป็นตัวหลักในเกมรุกที่ทีมขาดไม่ได้หลังกระหน่ำไปแล้ว 10 ประตูกับทีมอีก 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 18 นัดในทุกรายการ


เป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาสำหรับผู้เล่นอายุเพียง 21 ปี และเล่นในตำแหน่งริมเส้น ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า 

อาร์เซน่อล จึงมั่นใจมากยิ่งขึ้นในตัว มูดริค และเชื่อว่าสามารถพัฒนาให้เก่งได้อีกมากเพราะอายุยังน้อย มีคุณสมบัติหลายอย่างตรงตามแผนงานของสโมสร 

ทีมปืนใหญ่เดินหน้าเจรจากับ ชัคตาร์ โดเนทส์ค มาอย่างต่อเนื่องในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้ และตัวของ มูดริค เองก็มีใจให้ทีมปืนใหญ่อย่างมากหลังแสดงออกผ่านทางสื่อโซเชียลในหลายต่อหลายครั้ง

ข้อเสนอสองครั้งแรกถูกปฏิเสธเช่นเดียวกับครั้งที่สามในตัวเลขที่ขยับไปถึง 95 ล้านยูโรซึ่งเป็นสถิติค่าตัวแพงสุดของ อาร์เซน่อล แซงหน้า นิโกล่าส์ เปเป้ ที่เคยย้ายมาในราคา 80 ล้านยูโร เมื่อปี 2019 

ชัคตาร์ โดเนทส์ค ตั้งธงชัดเจนว่าต้องได้อย่างน้อย 100 ล้านยูโรสำหรับค่าตัวของ มูดริค ที่ลงสนามให้ชุดใหญ่ไปแล้ว 44 นัด และเพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ของสโมสรไปครอง 

แต่แล้วในระหว่างที่ อาร์เซน่อล พยายามต่อรองให้ ชัคตาร์ ยอมรับค่าตัว 95 ล้านยูโรซึ่งแบ่งเป็นค่าตัวก้อนแรก 70 ล้านยูโร และอีก 25 ล้านยูโรตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน เชลซี ก็โผล่เข้ามากลางวงเพื่อปฏิบัติการชิงตัวปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีไปร่วมทีม 

ตามที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ และ เดวิด ออร์นสตีน สองนักข่าวดังรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาคือ เชลซี บินไปเจรจากับ ชัคตาร์ พร้อมด้วยข้อเสนอ 100 ล้านยูโร 

จากนั้นไม่นาน ชัคตาร์ ก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไรนาต อัคเมดอฟ ประธานสโมสร ชัคตาร์ และ เบห์ดาด เอ็กบาลี เจ้าของร่วมของ เชลซี กำลังเจรจาในการย้ายทีมของ มูดริค พร้อมระบุว่าทั้งสองทีมกำลังตกลงกันได้


เอดู และ อาร์เตต้า ทำสุดความสามารถแล้วในดีล มูดริค

เช่นเดียวกับ เชลซี ที่ออกแถลงการณ์เช่นกันว่าทั้งสองสโมสรกำลังเจรจาตกลงในดีลนี้ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนของ มูดริค ในการคุยเรื่องสัญญาส่วนตัว 

โดยทั่วไปแล้วในขั้นตอนการซื้อขายจะไม่มีการออกแถลงการณ์จากทั้งสองสโมสรว่ากำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพราะเป็นเรื่องที่คุยกันเองระหว่างทั้งสองฝ่าย ส่วนใหญ่จะมีแถลงการณ์ก็ต่อเมื่อตกลงกันได้เป็นที่เรียบร้อย 

แต่การที่ ชัคตาร์ และ เชลซี ออกมายืนยันพร้อมกับใช้คำว่า "discussing" ก็น่าจะเพื่อให้ข่าวโดยตรงจากสโมสรเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา อาร์เซน่อล คือทีมที่ตามจีบ มูดริค อย่างจริงและข้อเสนอถึงสามรอบ แต่แล้วกลับเป็น เชลซี ที่โผล่มาทีหลัง 

ขณะเดียวกันก็มีการวิเคราะห์ว่าอาจเป็นกลยุทธิ์ทางการตลาดของ ชัคตาร์ ที่ต้องการกระตุ้นให้ อาร์เซน่อล ยอมสู้อีกยกด้วยข้อเสนอที่มากกว่า 100 ล้านยูโรของ เชลซี

อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่ ไม่ต้องการต่อสู้กับ เชลซี ในดีลนี้เพราะมีจุดยืนชัดเจนในการแนวทางใหม่ของสโมสรเกี่ยวกับการเสริมทัพ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ใช้คำว่าไม่เอาด้วยกับ "crazy fights" หรือแปลง่ายๆ ว่าไม่อยากบ้าไปตาม เชลซี หลังเห็นข้อเสนอ 100 ล้านยูโรของทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน 

ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล พยายามอย่างเต็มที่แล้วในดีลของ มูดริค และข้อเสนอสุดท้ายที่ตัวเลข 95 ล้านยูโรก็เป็นจำนวนมหาศาลเกินกว่าที่ตั้งเอาไว้ตอนแรกอย่างมาก หากยังเดินหน้าสู้ต่อก็อาจจะไม่จบที่ร้อยล้านยูโรเพราะมีโอกาสที่ เชลซี จะเกทับให้ค่าตัวพุ่งสูงไปไกลอีกเรื่อยๆ

สุดท้ายจึงเป็น เชลซี ที่ปาดหน้าคว้าตัว มิไคโล มูดริค ไปครองทั้งที่ อาร์เซน่อล เป็นตัวเต็งมาโดยตลอด


แกรม พ็อตเตอร์ ต้องการกำลังเสริมอย่างเร่งด่วน

ถามว่า เชลซี จำเป็นมากเพียงใดกับการต้องยอมทุ่ม 100 ล้านยูโรเพื่อดึง มิไคโล มูดริค ในตลาดรอบนี้ 

ในสถานการณ์เฉพาะหน้าปัจจุัน เชลซี ต้องการกำลังเสริมในเกมรุกโดยด่วนเพราะผู้เล่นหลายคนบาดเจ็บไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คริสเตียน พูลิซิช และ อาร์มานโด้ โบย่า 

นอกจากนี้ ชูเอา เฟลิกซ์ ตัวใหม่ที่เพิ่งยืมมาจาก แอตเลติโก มาดริด ก็จะติดโทษแบน 3 นัดหลังประเดิมสนามด้วยการได้ใบแดงโดยตรงจากการทำฟาวล์อันตรายในเกมพ่าย ฟูแล่ม 1-2

ผลงานช่วงหลังของ เชลซี ที่ย่ำแย่ต่อเนื่องชนะในลีกได้เพียงนัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุด (เกมในบ้านชนะ บอร์นมัธ 2-0) ก็เป็นอีกเหตุผลให้ทีมต้องเสริมทัพเพื่อหาจุดเปลี่ยนฝ่าวิกฤตให้ได้หลังหล่นมาอยู่อันดับ 10 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล มากถึง 19 คะแนน สุ่มเสี่ยงที่จะพลาดโควตาบอลยุโรป 

ตัวเลือกอื่นที่มีในตอนนี้และไม่ได้บาดเจ็บก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีไม่ว่าจะเป็น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ฮาคีม ซิเย็ค หรือกระทั่ง เมสัน เมาท์ ที่ผลงานดร็อปลงไปอย่างมากเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว 

ดังนั้น เชลซี จึงมองว่าต้องเสริมทัพเพิ่มแม้ตลาดหน้าหนาวนี้จะได้ตัวรุกมาแล้วสองรายคือ ชูเอา เฟลิกซ์ และ ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติไอวอรี่ โคสต์

อีกปัจจัยที่สามารถมองได้เช่นกันคือ เชลซี ไม่ต้องการให้ อาร์เซน่อล ได้นักเตะที่ต้องการไปครอง ซึ่งเมื่อพิจารณาในตลาดซัมเมอร์สองครั้งล่าสุดที่ปืนใหญ่เสริมทัพได้ค่อนข้างเข้าเป้าทั้ง อารอน แรมส์เดล, เบน ไวท์, มาร์ติน โอเดการ์ด, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, กาเบรียล เชซุส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้ เชลซี เชื่อว่า มูดริค คงผ่านการสกรีนคุณภาพมาอย่างดี ไม่งั้น อาร์เซน่อล ก็คงไม่พยายามอย่างหนักเพื่อดึงตัวให้ได้


ส่วนเมื่อถึงเวลาที่ตัวเจ็บตัวแบนกลับมาช่วยทีม ตัวเลือกในแนวรุกของ แกรม พ็อตเตอร์ จะมีเยอะนับสิบราย อาจกลายเป็นปัญหาที่ต้องหาทางปล่อยออกจากทีมบ้างในซัมเมอร์ ก็เป็นเรื่องอนาคตที่ทัพสิงห์บูลส์ยังไม่มองว่าเป็นสิ่งเร่งด่วนเท่ากับตอนนี้ที่ทีมจำเป็นต้องใช้งานทันทีด้วยตัวเลือกที่มีจำกัดทั้งคุณภาพและปริมาณ

สุดท้าย เชลซี ที่มาทีหลังแต่พร้อมทุ่มตามข้อเรียกร้องของ ชัคตาร์ โดเนทส์ค ทำให้ปาดหน้าได้ตัว มิไคโล โมดริค ไปครอง

แม้ตอนนี้ทั้งสองสโมสรจะบอกเพียงว่ากำลังเจรจา แต่เป็นที่เข้าใจกันว่าหลังฉากตกลงกันได้แล้ว และตัวของ มูดริค ก็กำลังมุ่งหน้าสู่ลอนดอนเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการยาว 7 ปีครึ่ง หรือจนถึงซัมเมอร์ 2030

ปฏิบัติการปล้นของ เชลซี จึงสำเร็จ ขณะที่ อาร์เซน่อล จำต้องมองหาตัวเลือกอื่นหลังพลาดเป้าที่เล็งแล้วเล็งอีกมานาน 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด