:::     :::

จังหวะปัญหาที่กลายเป็นจุดเปลี่ยน

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
963
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชัยชนะและ 3 คะแนนเหนืออริร่วมเมืองเป็นสิ่งเรื่องหอมหวาน ยิ่งเป็นเกมที่พลิกแซงชนะยิ่งช่วยเพิ่มความเร้าใจและปลาบปลิ้มให้กองเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกเท่าตัว

ย้อนกลับไปก่อนศึกใหญ่ ณ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เหล่าสาวกปิศาจแดงดูมั่นใจกับการรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะลูกทีม เอริก เทน ฮาก กำลังทำผลงานได้ดีจึงไม่แปลกที่หลายคนหมายมั่นในการเอาคืน เรือใบสีฟ้า

รูปเกมที่ออกมาใน 45 นาทีแรกดูจะเป็นเช่นนั้น เพราะขุนพลยูไนเต็ดปิดกันโอกาสฝั่งซิตี้ได้ดี แถมมีจังวะเข้าทำจะแจ้งกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าสกอร์อยู่ที่ 0-0 เมื่อเข้าสู่ช่วงพักครึ่ง

'อีทีเอช' พึงใจผลงานโดยรวมของครึ่งแรกมาก แต่เมื่อกลับมาลงสนามในครึ่งหลังหลายๆ อย่างไม่เป็นไปตามที่ต้องการเพราะนักเตะหยุดเล่นไปดื้อๆ บวกกับ เรือใบสีฟ้า ดันเกมและกดดันมากขึ้นจนสามารถพังตาข่ายออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ทีมเยือนสมควรได้เฮเพราะก่อนหน้านั้น ผีแดง ง่อนแง่นโอนเอนเหมือนต้นไม้โดนพายุโหม จนในที่สุด แจ็ค กรีลิช โขกฝังให้ทีมสีฟ้ายิ้มกริ่ม

ณ เวลานั้นดูเหมือนว่าเกมจะเทไปทาง แมนฯ ซิตี้ อย่างชัดเจน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำชับให้ลูกทีมพยายามสกัดกั้นจังหวะสวนกลับเร็วอันเป็นทีเด็ดของปิศาจแดง ซึ่งแนวรับและแดนกลางทีมเยือนทำได้ดีมากในการไม่ปล่อยให้แนวรุกอันรวดเร็วฝั่งเจ้าถิ่นมีพื้นที่ ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือแม้แต่ อันโตนี่ (ในครึ่งหลัง) แทบไม่มีช่องให้วิ่ง พอถึงจังหวะมีโอกาสแต่ก็โดนบีบเร็วในทันที

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมความมั่นใจของ แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่มขึ้น แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อมาถึงจังหวะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สอยตาข่าย




ไม่แปลกที่ปฏิกิริยาของนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะหงุดหงิดไม่พอใจกับการตัดสินจังหวะดังกล่าว เพราะหากดูจากสายตาช่วงถ่ายทอดสด แรชฟอร์ด (เหมือนว่า) ล้ำหน้าชัดเจน และไม่ต้องไปปรึกาหรือพิจารณาผู้ช่วยให้มากความ

เมื่อความเห็นของทั้งสองทีมไม่ตรงกันการถกเถียงจึงเกิดขึ้น และท้ายที่สุดต้องมีฝ่ายหนึ่งที่ได้เฮซึ่งเป็นทีมสีแดงรับผลประโยชน์จากจังหวะกังขา

กลายเป็นข้อถกเถียงที่ผ่านมาเกือบวันก็ยังไม่จบสิ้น ฝ่ายเสียประโยชน์มองว่าเป็นจังหวะ 'ล้ำหน้า' แน่นอน ทั้งในมุมแฟนบอล, นักเตะและผู้จัดการทีม หรือคนดูที่ติดตามจากทุกช่อง

เอาจริงๆ โดยส่วนตัวขณะดูถ่ายทอดยังคิดว่าผู้ตัดสินคงริบคืนประตูของ บรูโน่ ตามที่ผู้กำกับเส้นตีธงขึ้นมาในทีแรก เพราะ แรชฟอร์ด มีส่วนกับการเล่นชัดเจนแม้ว่าจะไม่สัมผัสบอลก็ตาม

ทว่าผู้ตัดสินให้เป็นประตู และกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกสถานการณ์เพราะหลังจากนั้น ยูไนเต็ด ฉวยโอกาสตอน แมนฯ ซิตี้ เสียสมาธิและกำลังหงุดหงิดเล่นงานในจังหวะสวนกลับอีกครั้ง

ประตูที่สองต้องขอชมเชยการเล่นที่ลงล็อกทั้งการจ่ายตัดมุมของ บรูโน่ มายังเจ้าหนูการ์นาโช่ รวมไปถึงการปาดบอลมาให้ แรชฟอร์ด จบสกอร์ 

ณ ตอนนั้นความฮึกเหิมฝั่ง ปิศาจแดง ดีดตัวพุ่งสูงขึ้น และช่วงเวลาที่เหลือแทบจะมั่นใจได้เลยว่านักเตะในสนามจะสามารถยืนหยัดต้านทานการเข้าทำและกดดันของ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างแน่นอน




นับเป็น 3 คะแนนที่ล้ำค่าของ เทน ฮาก และลูกทีมแม้จะมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งในมุมผู้แพ้เหมือนกับโดนตบหน้าฉาดใหญ่จนมึนงง และส่งผลต่อเกมโดยตรง

การตัดสินของกรรมการในจังหวะประตูตีเสมอมีส่วนอย่างมากและมันได้กำหนดทิศทางหลังจากนั้นโดยสิ้นเชิง

ย้อนกลับไปในมุมผู้แพ้ แน่นอนว่าพวกเขาผิดหวังกับการปราชัยและที่สำคัญคือจังหวะเสียประตูตีเสมอที่ถูกมองว่า 'ล้ำหน้า' ชัดเจน

มานูเอล อาคานยี่ หรือแม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ออกมาพูดหลังจบเกมต่างให้เห็นความตรงกัน เพราะทุกคน (ในมุมทีมสีฟ้า) มองว่า แรชฟอร์ด มีส่วนกับการเล่นชัดเจนแม้ว่าจะไม่โดนหรือสัมผัสบอลแต่การมีอยู่ของกองหน้าวัย 25 ปีส่งผลให้แนวรับทีมเยือนและผู้รักษาประตูไขว้เขวก่อนเปิดพื้นที่เข้าทำของ บรูโน่ สอดมายิง

แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินที่เกิดขึ้นไปแล้วและต้องยอมรับความเป็นจริง

ฝั่งผู้ได้ผลประโยชน์ แน่นอนว่าพวกเขาต้องออกมายืนยันความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนโดยเฉพาะสองคู่กรณี แรชฟอร์ด และ บรูโน่ เพราะคงไม่มีใครออกมาพูดหลังจบเกมทำนอง 'ใช่ผมล้ำหน้า' หรือ 'ใช่ผมพยายามเล่นแต่ผู้ตัดสินว่าอะไรนี่' หรือ 'ผู้ตัดสินพลาดเองพวกเราไม่เกี่ยว'

ณ ตอนนั้นทุกคนต้องตีมึนไว้ก่อนแล้วพูดออกมาในทิศทางคิดว่าออกมาดูดีที่สุด เพราะในมุมฝ่ายผู้ชนะซึ่งได้ผลประโยชน์จากจังหวะปัญหาไม่จำเป็นต้องจุดเชื้อไฟหรือเพิ่มประเด็นโดยใช่เหตุ

เหมือนอย่างที่ เทน ฮาก พูดแบบแทงกั๊กนั่นแหละว่าตนเองมองเห็นแค่มุมเดียวแต่มุมอื่นๆ ไม่ทราบ คงไม่มีใครคิดหรือคาดไว้หรอกว่ากุนซือชาวเนเธอร์แลนด์จะออกมาบอกโต้งๆ ว่าลูกทีมล้ำหน้าในจังหวะดังกล่าว





ทุกอย่างเลยตกไปที่อยู่ที่การตัดสินของกรรมการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจังหวะดังกล่าวอำนาจการตัดสินใจอยู่ในมือพวกเขาแล้วที่จะให้หรือไม่ให้ประตู และผลก็ออกมาอย่างที่เห็น

กระนั้นหากมองในมุมกลับกันถ้าเป็นทาง ปิศาจแดง เสียประตูในลักษณะแบบนั้นแฟนบอลก็คงหัวร้อนหงุดหงิดไม่ต่างกัน โดยกรณีนี้ 'อีทีเอช' ได้เอ่ยหลังจบเกมว่าคงหัวเสียหากทีมโดนกระทำเช่นนั้น และเมื่อเสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้นทุกคนคงแก้ไขอะไรไม่ได้อีกต่อไปเพราะผลการตัดสินออกมาแล้ว

ณ จุดนี้ในฐานะแฟนบอลปิศาจแดงก็ขอดื่มด่ำกับชัยชนะและ 3 คะแนนเหนืออริร่วมเมืองที่ห่างหายไปนาน ซึ่งหลังจากนั้นต้องตามเชียร์ เทน ฮาก และนักเตะกันต่อไปในช่วงกลางสัปดาห์เพราะมีคิวออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ

ส่วนจังหวะปัญหาคงได้แต่หวังว่าผู้ตัดสินอังกฤษจะมีความแน่นอนเด็ดขาดกว่านี้และมีบรรทัดฐานมากขึ้นไม่ปล่อยให้เป็นประเด็นทุกสัปดาห์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ 

ที่สำคัญคงไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นกลับมาเล่นทีม ปิศาจแดง ในอนาคต เพราะหากเกิดขึ้นเชื่อว่าทีมอื่นๆ รอทับถมถ่มถุยสะใจอยู่แน่นอน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด