อองตวน กรีซมันน์ อาจนิ่งเงียบเป็นเป่าสากในการมาเยือน'คัมป์ นู'ครั้งที่ 12 ทั้งคราบ เรอัล โซเซียดาด ในอดีตและ แอตเลติโก มาดริด ณ ปัจจุบัน แต่มันไม่ได้หยุดยั้งโปรเจ็กยักษ์ของทัพอาซูลกราน่าในการเดินหน้าล่าดาวยิงชาวฝรั่งเศสเข้ามาเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ 

บาร์เซโลน่า, แมนฯยูไนเต็ด กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เฝ้าจับตามอง กรีซมันน์ ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่ แอตเลติโก มาดริด ไม่ยินยอมพร้อมใจปล่อยกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสออกจากสังกัดเนื่องจากพวกเขาถูกฟีฟ่าลงโทษแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่จนกว่าจะถึงวันที่ 1 มกราคม 2018 

ขณะเดียวกันมูลค่าการฉีกสัญญาของ กรีซมันน์ จะถูกเพิ่มขึ้นจาก 100 ล้านยูโรมาเป็น 200 ล้านยูโรด้วย หลายสโมสรที่สนใจนักเตะจึงทำได้แค่เฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป

สื่ออังกฤษหลายสำนักเคยระบุว่า กรีซมันน์ เป็นเป้าหมายเสริมทัพลำดับต้นๆของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก่อนที่ข่าวดังกล่าวจะแผ่วลงไปหลังทีมปีศาจแดงทุ่มทุนก้อนโตโดยเฉพาะการจ่ายค่าเหนื่อยเพื่อดึง อเล็กซิส ซานเชซ เข้าสู่'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งเคยตามจีบกรีซมันน์ก่อนหน้านี้ก็หายหน้าไปเพราะกำลังหมกมุ่นอยู่กับการเสาะหาเทรนเนอร์คนต่อไปที่จะเข้ามารับงานต่อจาก อูไน เอเมรี หลังกระเด็นตกรอบ 16 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกแบบน่าผิดหวัง

ทว่าข่าวระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ กรีซมันน์ ยังไม่จางหายไปจากหน้าสื่อต่างกันแค่การนำเสนอประเด็นต่างๆนานาที่แตกต่างไปจากเดิมเท่านั้น 

ขณะเดียวกัน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์เคยออกมายอมรับเหมือนทำใจไว้ล่วงหน้าว่าเมื่อถึงเวลากรีซมันน์คงจะต้องย้ายออกจากทีมตราหมีเพื่อการเติบโตในอาชีพค้าแข้ง 

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล โซเซียดาด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 กรีซมันน์ โชว์ฟอร์มกระฉูดยิง 22 ประตูบนเวทีลีกาช่วง 2 ฤดูกาลแรก ก่อนที่จะทำผลงานตกลงไปในซีซั่น 2016-17 หลังยิงได้เพียง 16 ประตู 

กรีซมันน์ ยังออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ค่อนข้างฝืดก่อนกลับมาเร่งเครื่องตั้งแต่เปิดศักราช 2018 จนถึงตอนนี้กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสกระทุ้งรวมกัน 15 ประตู โดยเฉพาะการยิงรวมกันถึง 7 ประตูในเกมชนะ เซบีย่า 5-2 กับ สอย เลกาเนส 4-0 ก่อนเท้าบอดสนิทในเกมเยือน'คัมป์ นู'เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

ทว่าการตกเป็นข่าวย้ายออกจากถิ่น'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'บ่อยครั้งทำให้สาวกโกลโชเนโรสไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ 

มันเกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่แฟนทีมตราหมีจะโห่นักเตะตัวเอง เหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นหลายปีก่อนหน้านี้กับ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ก่อนที่ กรีซมันน์ จะตกเป็นเป้าโห่ของสาวกโกลโชเนโรสในเกมมาดริดดาร์บี้แมตช์กับทีมชุดขาวในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเกมลงเอยด้วยการเสมอ 0-0 หลังซิเมโอเน่ตัดสินใจถอดกองหน้าชาวฝรั่งเศสออกจากสนามช่วงนาที 76

แฟนทีมตราหมียังส่งเสียงโห่กรีซมันน์อีกครั้งในเกมเปิดบ้านทุบ บาเลนเซีย 1-0 ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนสร้างความโกรธเคืองให้กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสจนต้องตอบโต้กลุ่มแฟนบอลปากเปราะดังกล่าว

'แฟนอัตเลติเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด'ปาตรีเซีย กาซอน นักข่าวจากอาสระบุ 'พวกเขามักจะเชียร์ผู้เล่นของพวกเขาเสมอ อะไรจะเกิดขึ้นในเบร์นาเบวหากแฟนของ เรอัล มาดริด ส่งเสียงโห่ เบนเซม่า หรือ คริสเตียโน่ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อไม่นานมานี้มีการปะทะคารมระหว่าง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เมื่อซิเมโอเน่พูดว่าเขาจะไม่เก็บตอร์เรสไว้กับทีมในปีหน้า แต่แฟนอัตเลติแสดงความชัดเจนว่าพวกเขาชื่นชอบทั้งสองคน ในเกมล่าสุดที่ว่านต๋า พวกเขาร้องเพลงเพื่อทั้งสองคน แต่กับกรีซมันน์ แฟนอัตเลติโกรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเขาเริ่มมีใจออกห่าง มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนโดนตบหน้า'

กรีซมันน์ ยังเคยให้สัมภาษณ์สื่อเมืองน้ำหอมเกี่ยวกับอนาคตค้าแข้งของเขาหลังถูกพิธีการตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการเซ็นสัญญากับ แมนฯยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้ ซึ่งกองหน้าชาวฝรั่งเศสตอบคำถามแบบไม่เกรงใจแฟนอัตเลติว่ามีโอกาสถึง 6 ใน 10 ที่จะเซ็นสัญญากับทีมปีศาจแดงของมูรินโญ่ 

กองหน้าวัย 26 ปียังทำให้แฟนทีมตราหมีรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเมื่อกล่าวถึงการย้ายสังกัดอีกครั้ง แม้จะยืนยันว่ามีความสุขในการค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด ก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ย้ายทีมในวันหนึ่งข้างหน้า 

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ กรีซมันน์ สร้างความสับสนวุ่นวายให้อาชีพของตนเอง เมื่อครั้งที่ยังค้าแข้งกับ เรอัล โซเซียดาด กองหน้าชาวฝรั่งเศสเคยเข้าไปปรากฎตัวบนสังเวียน'ซาน มาเมส'ของทีมคู่ปรับร่วมแคว้นบาสก์ในช่วงเดือนเมษายน 2012 เพื่อชมเกมระหว่าง แอธเลติก บิลเบา กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในศึกยูโรปาลีกรอบรองชนะเลิศ 

แน่นอนการเข้าไปชมเกมที่'ซาน มาเมส'ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้หากคุณเป็นผู้เล่นของ เรอัล โซเซียดาด แต่ กรีซมันน์ เคยทำมันมาแล้ว

'เขาคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไปเพื่อดูฟุตบอลเท่านั้น แต่ใน ซาน เซบาสเตียน (เมืองที่ตั้งของ เรอัล โซเซียดาด) มองว่านั่นคือการกระทำของคนทรยศ' อินญาโก้ ดีอาซ-เกร์ร่า ผู้สื่อข่าวค่าย'เอล มุนโด้'ชี้แจง 'เขาทำโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา เขาไม่มีเจตนาร้ายก็จริง แต่มันเป็นความผิดพลาด'

ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กรีซมันน์ ยังโพสต์รูปลงไอจีด้วยการแต่งตัวเป็นนักบาสยุค 80 พร้อมฉาบตัวเองเป็นสีดำ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเหยียดเรื่องเชื้อชาติ ก่อนที่กองหน้าชาวฝรั่งเศสจะลบรูปนั้นและกล่าวคำขอโทษในเวลาต่อมา 

'การพูดออกรายการทีวีในช่วงหน้าร้อน เมื่อเขาบอกว่าเขาอาจจะย้ายไป แมนฯยูไนเต็ด และต่อมาก็พูดถึง เปแอสเช มันแสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพต่อแฟนอัตเลติ เขาก่อความผิดพลาดที่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ต่อสาธารณชน'ดีอาซ-เกร์ร่า ร่ายต่อ

'กรีซมันน์เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต เขาเป็นคนตลก แต่หลายครั้งเขาไม่รู้จักกาละเทศะ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมทีมในห้องแต่งตัวของอัตเลติ พวกเขาไม่มีปัญหาอะไรกับเขา เขาเป็นคนอารมณ์ดี แม้เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ของทีมแต่เขาก็ไม่ถือตัว แต่บางครั้งเขาก็หลุดและทำผิดพลาดเหมือนในช่วงฤดูร้อนที่พูดถึงการย้ายทีมว่าเขาจะไปไหน คุณอาจกำลังคิดว่ามันตลกไปซะทุกเรื่อง'

'มันเป็นความผิดพลาดจาก กรีซมันน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมันเป็นการพูดในที่สาธารณะ เขาได้รับคำแนะนำแย่ๆ เขาไม่ได้มีเอเยนต์ที่ดีอยู่เบื้องหลังหรือมีทีมใหญ่ที่รู้วิธีการให้คำแนะนำเขา การตัดสินใจของเขาจะถูกถ่ายทอดออกมาจากเขา,น้องชายเขาและเพื่อนสนิทของเขา พวกเขาต่างก่อความผิดพลาด พวกเขาไม่รู้ว่าโลกทุกวันนี้มันเป็นอย่างไร พวกเขายังทำตัวตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป'

มูลค่าการฉีกสัญญาของ กรีซมันน์ จะลดลงจาก 200 ล้านยูโรเหลือ 100 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์นี้และแน่นอนว่าทีมอาซูลกราน่าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเซ็นสัญญากับกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส 

'อัตเลติโก ได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้กรีซมันน์ย้ายไปบาร์เซโลน่า โดยเฉพาะการจ่ายค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น แต่ผมเชื่อว่านักเตะคนนี้ตัดสินใจที่จะย้ายไปบาร์เซโลน่าแล้ว'มีเกล รีโก้ ผู้สื่อข่าวค่าย'มุนโด้ เดปอร์ตีโบ'แสดงความเห็นหลังทราบเรื่องราวเกี่ยวกับการพูดคุยกันระหว่างครอบครัวกรีซมันน์กับ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์ซ่า

'ถ้าคุณถามผมเมื่อ 2 เดือนก่อน ผมคงมั่นใจว่ากรีซมันน์กำลังจะย้ายออกไปเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาและการพบปะกันของครอบครัวเขาในบาร์เซโลน่า แต่ตอนนี้ผมชักไม่ค่อยแน่ใจ'กาซอนกล่าวเสริมถึงกระแสข่าวการย้ายทีมของกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส 

'กรีซมันน์ดูมีความสุขที่อัตเลติโกเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้เป็นผู้เล่นที่ทีมกล่าวถึงมานาน เขากำลังเล่นกับ ดีเอโก้ คอสต้า เขาเล่นอย่างมีอิสระมากขึ้น เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา คุณก็เห็นมัน เขายิงถึง 7 ประตูในการลงเล่นเกมลีก 2 นัด'

ทีมตราหมีพยายามปรับปรุงสัญญาโดยเฉพาะการจ่ายค่าจ้างเพิ่มมากขึ้นเพื่อมัดใจกรีซมันน์ให้อยู่กับทีมต่อไป ซึ่งจะทำให้กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสกลายเป็นผู้เล่นที่รับทรัพย์มากสุดของสโมสร แต่สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรีซมันน์ว่าจะตอบสนองข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่ 

เนื่องจากการย้ายไปเล่นกับบรรดาซุปตาร์ของทีมอาซูลกราน่าก็ยั่วยวนใจกรีซมันน์ไม่แพ้กัน ซึ่งเราคงจะทราบคำตอบของคำถามข้างต้นว่ากองหน้าชาวฝรั่งเศสจะเลือกทางเดินอนาคตค้าแข้งของตนเองอย่างไร