แรงบันดาลใจพิเศษกับ "ริยาด มาห์เรซ"
สำหรับ “ริยาด มาห์เรซ” ก่อนที่เขาจะพัฒนาตัวเอง จนก้าวมาเป็นกำลังหลักของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” โดยเป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ 3 สมัย แน่นอนว่า ความสำเร็จ และเกียรติยศต่างๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
ช่วงนี้ เราลองไปดูแรงผลักดันของดาวเตะทีมชาติแอลจีเรีย รายนี้กันหน่อยว่า ประสบการณ์อะไรบ้าง ที่หล่อหลอมให้เขาก้าวมายืนตรงจุดนี้ และบุคคลได้บ้าง ที่เปรียบเหมือนกับแรงบันดาลใจ ที่เป็นการเติมพลัง ให้เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางลูกหนัง
“ริยาด มาห์เรซ” มีเชื้อสายแอลจีเรีย เขาเกิด และเติบโตใน “ซาร์คเซลส์” ย่านที่อันตรายสุดแห่งหนึ่ง ที่แทรกตัวอยู่ในชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นี่คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชญากรรม, ความรุนแรง, ยาเสพติด, ผู้อพยพ และการว่างงาน กระทั่งในวัย 15 ปี ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เมื่อคุณพ่อเสียชีวิตไป จากภาวะหัวใจวาย
การจากไปของหัวหน้าครอบครัว ทำให้คุณแม่ต้องคอยรับหน้าที่หนักเป็นสองเท่า ทั้งการเลี้ยงดู และการหาเงินมาจุนเจือ อย่างไรก็ตาม เธอก็ยอมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกชายมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมกับสานฝันลูกคนนี้ ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
“การที่พ่อของผมเสียชีวิตไป ทำให้ผมมีแรงกระตุ้นมากขึ้น” เขาเริ่มเล่า “ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมพูดอยู่เสมอว่า โตขึ้นผมจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ ผมคอยบอกกับตัวเองตลอดว่า หากผมมีฝีเท้าที่ดี สักวันจะมีทีมมารับตัวผมไป”
กระทั่งในวัย 18 ปี เขาต้องผ่านแบบทดสอบครั้งสำคัญ เมื่อมีทีมระดับท้องถิ่นอย่างแก็งแปร์ อยากให้ไปทดสอบฝีเท้าด้วย นี่คือการพิสูจน์ตัวเองที่มีหลายอย่างเป็นเดิมพัน
นอกจากความสามารถเชิงลูกหนังแล้ว หนึ่งสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก คือเงินที่ใช้ในการเดินทางไปคัดตัวเข้าทีม เพราะอย่าลืมว่า สถานะการเงินทางบ้านของเขา ที่ไม่ค่อยจะดีนัก
“ย้อนเวลากลับไป ตอนที่ผมอายุ 18 ปี สโมสรแก็งแปร์ ยื่นข้อเสนอในการทดสอบฝีเท้ามาให้ผม” เขาเล่าต่อ “ผมต้องเดินทางไปทดสอบฝีเท้าด้วยรถไฟ
โดยต้องจ่ายค่าตั๋วประมาณ 160 ยูโร ผมบอกกับแม่ว่า -แม่ครับ แม่ไม่ต้องห่วงผมนะ ผมจะหาเงินมาคืน ผมจะผ่านการคัดตัวให้ได้เลย”
ผลสุดท้าย มาห์เรซ ผ่านการทดสอบฝีเท้า และได้รับเข้าเป็นนักเตะของแก็งแปร์ พร้อมกับเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพ ในลีกระดับล่างของประเทศฝรั่งเศส
เขาเก็บหอมรอมริบ และออมเงินที่ได้จากการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างดี เพราะเขาอยากตอบแทนแม่ เพื่อให้ผู้มีพระคุณคนนี้ มีชีวิตที่สุขสบาย
“ตั้งแต่ตอนนั้น ทุกอย่างที่ผมลงมือทำ ผมทำมันเพื่อแม่ ตอนที่ผมเล่นให้กับทีมแก็งแปร์ มันค่อนข้างไกลมาก ในช่วง 1 ฤดูกาล ผมมีโอกาสกลับบ้านเพียงครั้งเดียวเท่านั้น"
"ผมอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ โดยแชร์ห้องกับเพื่อน ผมไม่อยากพาแม่ไปที่นั่น ผมรู้สึกละอายใจเล็กน้อย สถานที่ที่ผมอาศัยมันรกมากเลย ค่าตั๋วรถไฟที่เดินทางมาก็แพงมากด้วย ตอนนั้น ผมมีรายได้จากการเตะฟุตบอลเพียง 700 ยูโรต่อเดือน”
ปัจจุบัน เงินค่าตั๋วรถไฟ 160 ยูโร กลายเป็นใบเบิกทาง จนมาห์เรซ กลายเป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์ ที่ค้าแข้งกับทีมระดับโลก พร้อมกับก้าวมาติดทีมชาติแอลจีเรีย แน่นอนว่า ทุกเหตุการณ์สำคัญในเส้นทางลูกหนัง เขาจะมีแม่เคียงข้างด้วยเสมอ
วันชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก กับเลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็มีแม่ข้างกาย
วันที่รับรางวัลส่วนตัว เขามีแม่ข้างกาย
และวันที่เซ็นสัญญาเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาก็มีแม่ข้างกาย
พราะแม่คือคนที่ยืนหยัดเพื่อเขา ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้าย หรือดี
“ตอนนี้ แม่ของผมไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป ผมมีความสุขกับท่านมาก ผมภูมิใจที่มอบชีวิตที่ดีให้กับท่าน ตลอดชีวิตนี้ ผมก็ไม่สามารถทดแทนคุณของท่านได้หมด” มาห์เรซ กล่าวทิ้งท้าย