ตามธรรมเนียมวันศุกร์ก็จะมีเพรสคอนฯของเอริค เทน ฮาก ต่อประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเกมที่กำลังจะมาถึง ซึ่งอาทิตย์นี้เป็นศึกใหญ่กับอาร์เซนอลในเวลาห้าทุ่มครึ่งวันอาทิตย์ เอริคพูดอะไรไว้บ้างสดๆร้อนๆเมื่อกี๊นี้ ไปดูกัน
"อาร์เซนอลกำลังทำผลงานได้ดีมากๆ และผมคิดว่าพวกเขาคู่ควรแล้วกับตำแหน่งจ่าฝูงที่เป็นอยู่ในขณะนี้ พวกเขามีโครงสร้างต่างๆที่ดีมาก เช่นวิธีการเล่น สภาพจิตใจที่ดี และทัศนคติแบบผู้ชนะ ล้วนอยู่ในทีมของเขา นั่นถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขาจึงอยู่ข้างบนสุดของทุกทีม"
"พวกเขากำลังทำผลงานอย่างต่อเนื่องได้ดีอยู่ ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับเราที่จะหยุดผลงานนี้ได้ไหม และเราจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดพวกเขาให้ได้"
"ตอนที่เราเจอกับพวกเขา จะเห็นเลยว่าผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์โค้ชทำงานกับทีมกันมานานมาก และพวกเขาพัฒนาขึ้นในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล พวกเขามีสปิริตทีมที่ดีมาก เพราะงั้นถ้าจะสู้ได้เราต้องดีมากๆด้วยเท่า ต้องเล่นด้วย performance ที่ดีแบบสุดๆ ซึ่งถ้าทำได้เราก็จะมีโอกาสที่ดีในการเก็บผลการแข่งขันที่ดีกลับมาหากว่ามีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม"
"คราวที่แล้วเราชนะอาร์เซนอลยามที่คาเซมิโร่ไม่อยู่ เรามีไอเดียว่าจะรับมือเรื่องนี้ยังไง ส่วนเรื่องซานโช่นั้นเขาใกล้เข้ามาอีกก้าวแล้ว จริงๆแล้ววันอังคารที่ผ่านมามันจะเป็นวันแรกที่เขากลับมาซ้อมทีม แต่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายก่อนแข่งพอดี เราเลยเลื่อนตารางเป็นวันถัดไป อาทิตย์ถัดไป ค่อยๆก้าวทีละเสต็ป"
เอาเป็นประเด็นแรกก่อน เรื่องของซานโช่ หลายๆฝ่ายคงอยากจะให้เขากลับมาช่วยทีมในนัดเจออาร์เซนอลแน่ๆ จากภาพที่ได้เห็นกันแล้วว่าซานโช่มีรูปซ้อมร่วมกับเพื่อนในทีมแล้ว
แต่เชื่อว่า ใช้ระยะเวลากันขนาดนี้ เอริคคงไม่ข้ามขั้นเพียงเพราะเราต้องแข่งกับอาร์เซนอล คิดว่าเอริคคงจะใช้เซ็ตนักเตะเดิมที่ทำผลงานกันมาในช่วงนี้ลงสนามมากกว่า เพื่อไม่ให้กระทบกับสิ่งที่เรากำลังอยู่ในช่วง Good Run เหมือนกันกับอาร์เซนอล ที่อาจจะสูญเสียจังหวะเข้าเบรคของทีมได้
ชุดนักเตะที่ลงสนามอาจจะใช้ชุดเดิมลงเล่นไปในช่วงนี้ ส่วนเจดอน ซานโช่ ส่วนตัว ศาลาผี เชื่อว่าน่าจะกลับมาเตะถี่ๆในช่วงเกมเจอน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในศึกคาราบาวคัพรอบรองฯสองนัด ไม่น่าเกินช่วงนั้นแล้ว เพราะprocessมันใกล้จะกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติของเจดอน ซานโช่ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังที่ต้องลงสนามแล้ว
ประเด็นนี้ให้ลองสังเกตดูว่า ทำไมเอริคถึงยังไม่ใส่ชื่อนักเตะที่ยังไม่พร้อม เช่น Brandon Williams อยู่ในทีม ทั้งๆที่ตัวก็ยังอยู่ที่นี่ และเขาก็น่าจะลงสนามได้ นั่นเป็นเพราะว่าถ้าตัวไหนไม่พร้อมเขาก็จะยังไม่ใส่ชื่ออยู่ในทีมที่ลงแข่ง ก็จะให้เก็บตัวฝึกซ้อมต่อไป คล้ายๆกับเคสซานโช่นั่นแหละ เพียงแต่ตัวที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมก็อาจจะมีโอกาสย้ายออก หรือยืมตัวเท่านั้นเอง
ประเด็นต่อมา เรื่องของการรับมือกับอาร์เซนอล พูดกันตามตรงจริงๆแล้วถ้ามีคาเซมิโร่อยู่ก็จะดีกว่ามากๆ การขาดหายไปของเขาทำให้พละกำลังและความเข้มข้นในแดนกลางลดลงไปเยอะในเรื่องเกมป้องกัน รวมถึงการแก้เพรสที่จะวิ่งเข้าไล่บดของคู่แข่ง คาเซมิโร่มีความนิ่งและเยือกเย็นมาก การขาดหายไปของเขามีโอกาสจะทำให้แมนยูไนเต็ดเจอปัญหาได้
นี่ก็คือเรื่องจริง แต่..
ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันที่เกมนัดแรกคาเซฯไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงซะด้วยซ้ำ และนักเตะชุดหลักที่ฟัดกับอาร์เซนอลในวันนั้นมีไลน์อัพดังนี้
แน่นอนว่า วันนั้นเรามีเจดอน ซานโช่ ลงสนามด้วย แต่เกมนี้น่าจะยังไม่ถึงเวลาได้ใช้บริการเขาในตำแหน่งปีกซ้าย ขณะที่ตัวผู้เล่นของทีมมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว เมื่อกองหน้าเรามี เวาท์ เว็กฮอร์สต์ เข้ามาเสริมทีม ขณะที่ปีกมีการ์นาโช่ และตัวหลักอย่างมาร์กซิยาล อาจจะฟิตพอกลับมาลงสนามในเกมนี้หลังจากนัดที่แล้วได้พักขามาแบบเต็มๆ
สำรองวันนั้นคนที่ลงสนามมาคือโด้ เฟร็ด แมกไกวร์ และ คาเซมิโร่
ส่วนฝั่งอาร์เซนอล วันนั้นเกือบๆจะฟูลทีม มีซาก้า เชซุส มาร์ติเนลลี่ลงสนามครบครัน แต่สิ่งที่พวกเขาขาดไปคือโธมัส ปาร์เตย์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมดังกล่าว ทำให้งานของแนวรุกเราสบายขึ้นเยอะ
รอบพวกนี้พวกเขาจะใช้หน้าเป็นเอ็นเคเตียห์ ไม่มีเชซุส แต่จะได้ความแข็งแกร่งแดนกลางอย่างปาร์เตย์กลับมาแทน นี่คือการบ้านที่เอริค เทน ฮาก จะต้องทำอย่างหนักว่าเกมนี้จะเอายังไงดี
แฟนผีคงจำกันแม่น เกมเจออาร์เซนอลในยามที่มีปาร์เตย์คุมกลางอยู่ เกมของพวกเขาแข็งโป๊ก และแมนยูไนเต็ดก็เอาชนะไม่ได้ซะด้วย
เมื่อดูจากการที่คาเซมิโร่ไม่อยู่ สิ่งที่แมนยูไนเต็ดน่าจะทำได้ก็คือ ใช้ "พลังงาน" ลงไปสู้กับอาร์เซนอล ด้วยทีมเวิร์คของนักเตะที่มีความสด ลงไปบดบี้กับลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้าในวันอาทิตย์นี้ จุดที่น่าสนใจมากก็คือ เทน ฮาก สามารถจะปรับแทคติกได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับ "Formation" โดยระบบ 4-2-3-1 ที่ใช้ double pivot + back 4 + หน้าเป้าเดี่ยว จะยังเป็นระบบหลักของทีมอยู่ แต่ role การเล่นในสนามของนักเตะแต่ละคนจะได้รับการกำชับแทคติกมาเป็นอย่างดีว่าวันนั้นจะต้องทำยังไงบ้าง
เรื่องที่เราเชื่อคือการเจอกับอาร์เซนอลนั้นยากอยู่แล้ว และยิ่งพวกเขามีแนวรุกแถวสองที่อันตรายมากๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ฟอร์มของซาก้า กับ โอเดการ์ดคือโหดสุดๆ สิ่งที่แมนยูจะทำได้ก็คือ การ "อัดกลาง" เข้าไปแน่นๆเพื่อบวกสู้กับอาร์เซนอลแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เกมที่ชนะมา 3-1 นั่นก็วิ่งบวกกันทั้งเกม และเราเหนือกว่าด้วยความเฉียบคม และพลังใจที่ดูฮึกเหิมกว่าเยอะ วันนี้ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น
เกมดังกล่าวทั้งสามลูกแมนยูไนเต็ดได้จากโอเพ่นเพลย์ที่เฉียบคมล้วนๆ โดยแอนโทนี่ทำประตูนัดเดบิวต์ของเขาสำเร็จ ขณะที่แรชฟอร์ดทำไป 2 ประตู 1 แอสซิสต์แบบเฟี้ยวๆ โดยที่จังหวะทำได้ทั้งสามเม็ดคือช็อต transition play ที่เล่นด้วยความเร็วและแม่นยำในการต่อบอล วิ่งทำทาง และจบสกอร์ด้วยรูปแบบนี้เป็นหลักล้วนๆ เนื่องจากหลังของอาร์เซนอลดันสูงมาก และตัวรุกเราเล่นเร็วกันได้คมสุดๆ โดยเฉพาะเซนส์ของบรูโน่ อีริคเซ่น และแรชฟอร์ดในฐานะหน้าเป้าตัวสวนกลับ ทำได้คมมากๆ
นี่คือจุดที่เอริค เทน ฮาก จะต้องรู้แน่นอนว่าเขาจะหาsolutionอะไรในการมาจัดการกับอาร์เซนอลในอาทิตย์นี้
ความเร็วและความอันตรายของปีกสองข้างอาร์เซนอล เล่นงานเราได้อันตรายมาก เกมนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ การปรับเอาลุค ชอว์ กับ วานบิสซาก้า ลงสนามมาแทนในวันนั้นที่เป็น ดาโลต์ + มาลาเซีย อาจจะปิดผนึกเกมบุกของมาร์ติเนลลี่ และ ซาก้าได้ นั่นคือจุดที่ยูไนเต็ดต้องระวัง
ส่วนตรงกลาง ความคล่องตัวและสามารถโจมตีเองก็ได้ของมาร์ติน โอเดการ์ด คือสิ่งที่ปีศาจแดงประมาทไม่ได้เด็ดขาด คิดว่าส่วนตัวถ้าเป็นเอริค เทน ฮาก เราจะใช้ "เฟร็ด" เล่นในrole เดียวกันกับเกมเจอแมนซิตี้ นั่นก็คือให้เล่นเป็นกองกลางตัวรับคนที่สอง (Segundo Volante) ที่เล่นในหน้าที่พิเศษวิ่งไล่ตามประกบโอเดการ์ด เหมือนที่ซิตี้เจอเฟร็ดจับคีย์แมนอย่างเดอบรอยน์นั่นเอง
เพราะงั้นเมื่อพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล แผนของเกมอาทิตย์นี้ที่จับเอาเหตุผลต่างๆมารวมกันนั้น หน้าตาของไลน์อัพแมนยูไนเต็ดที่น่าจะจัดลงสนาม เพื่อเกมแดนกลางที่แน่น แบ็คที่เหนียว และตัวรุกสายสปีดไว้เล่นเกมสวนกลับเร็วในจังหวะtransition play มีดังนี้
1. วิงแบ็คสองข้างเน้นตัวเกมรับเหนียวๆ วินาทีนี้ต้องใช้ ชอว์+AWB เท่านั้น ชอว์ไม่จำเป็นต้องหุบเข้าไปเล่นCBก็ได้ เพราะมี Licha พร้อมลงสนามอยู่แล้ว เพื่อป้องกันความอันตรายหลักของอาร์เซนอลจากMartinelli, ESR และ Saka
2. แผนที่ใครหลายๆคนอยากให้ Licha The Butcher ลงเล่น DM แทนคาเซมิโร่นั้นถือว่า "ทำได้" ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ แต่เอริค เทน ฮาก จะไม่ใช้นักเตะในลักษณะนี้แน่นอนถ้าหากว่ากองกลางยังมีคนลงแทนได้ เขาก็คงอยากให้Lichaเล่นCBไปก่อน และปรับกองกลางสี่ตัวอย่า แม็ค เฟร็ด บรูโน่ อีริคเซ่น ลงสนามอย่างเหมาะสมในตำแหน่งต่างๆเอา
3. คู่กลางเกมชนะอาร์เซนอล 3-1 คือ "แม็คโทมิเนย์ + อีริคเซ่น" ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะใช้แบบนั้นไม่ได้ โดยให้แม็คโทมิเนย์เล่นเป็น DM สาย "Anchor Man" เหมือนเดิมในช่วงต้นๆซีซั่น คือปัดกวาด และ ปักหลัก อยู่หน้าแผงเซ็นเตอร์แบ็คเป็นหลัก แค่นั้นก็ช่วยคุมพื้นที่ ตัดเกมรับ และทำให้เกมจากหลังบ้านเซ็ตบอลกันได้แล้ว ซึ่งในจังหวะ transition play ที่ต้องออกบอลสวนกลับเร็ว แม็คสามารถฝาก อีริคเซ่น ที่ยืนต่ำเป็น DLP ในแผนนี้ ในการออกบอลยาวต่อไปให้บรูโน่ หรือ เฟร็ดได้
4. เหตุที่ผู้เขียนไม่ได้ใช้ Antony ทางขวานั้น เป็นมุมมองส่วนตัวเฉยๆว่า ถ้าเราใช้ตัวรุกฟร้อนท์ทรีสามตัว กลางอาจจะลดทอนประสิทธิภาพลง ด้วยเกมพิเศษๆแบบนี้ เราจำเป็นต้องพึ่งพาเฟร็ดมาก ดังนั้นถ้าจะต้องเสียสละตัวรุกสักตัว ก็ถ่างบรูโน่ออกไปเล่นขวาเพื่อเน้นการ "ออกบอล" เป็นหลัก
5. เฟร็ดจะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวที่สาม และยืนต่ำในแผนนี้ ดังนั้นฟังก์ชั่นของทีม(ไม่ใชฟอร์เมชั่น) มันจะเป็น "กลาง4+หน้า2" (อีริคเซ่น เฟร็ด บรูโน่ แม็ค + หมาก แรช) กลางจะแน่น และตัวรุกเราจะใช้ผู้เล่นจำนวนน้อยๆในการสวนกลับเร็ว แค่หมาก แรช บรูโน่ สามตัวก็น่าจะอยู่แล้วในจังหวะเข้าทำเร็วที่เราไม่ต้องดันแผงหลังขึ้นมาสูง
ทั้งหมดนี้คือการ prediction และอ่านเอาจากมุมมองความคิดในการให้สัมภาษณ์ก่อนเกมของเอริค เทน ฮาก เท่านั้น ทุกอย่างอาจจะไม่ตรงตามนี้ แต่วิธีคิดหลายๆอย่างก็ใช้การได้จริงๆ ยามที่คาเซมิโร่ไม่อยู่ แมนยูไนเต็ดก็ไม่มีทางเลือกมากนักในแดนกลาง สุดท้ายแล้ว 4 ตัวนี้ก็ต้องลงมาเป็นหลักให้ทีมนั่นแหละ
จุดที่เราคาดหวังได้ก็คือ ผู้เล่นสำรองมีตัวเปลี่ยนเกมอยู่ค่อนข้างเยอะ เรามีทั้ง Garnacho, Antony, Weghosrt ที่สามารถลงมาปรับแทคติกได้ ถ้าหากว่าเกมเสียเปรียบ หรือทีมต้องการประตู สามารถปรับลงมาเล่นในครึ่งหลังได้
เรามีลางสังหรณ์ว่า เกมครึ่งหลังน่าจะเป็นเกมของแมนยูไนเต็ด ขณะที่ครึ่งแรกอาจโดนอาร์เซนอลเล่นงานก่อนก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อว่าแมนยูไนเต็ดน่าจะเก็บผลการแข่งขันที่ดีออกมาได้ แม้ว่าฟอร์มอาจจะไม่เต็มที่เพราะอาร์เซนลได้พักขามาทั้งอาทิตย์ ขณะที่แมนยูกรอบมาจากเกมคริสตัลพาเลซ
ผลเสมอจะทำให้เรายังมีลุ้นอันดับ 1-2-3 อยู่ ขอแค่อย่าแพ้ ถือว่าเป็นการเก็บ 4 แต้มจากสองนัดยากที่เจอซิตี้ อาร์เซนอล ได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว
เชื่อว่าทำได้ เอริค เทน ฮาก ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร นักเตะทีมเราก็มีสปิริตที่ดี ขอแค่มั่นใจ และมี Winning Mentality อยู่ในทีมเยอะๆ ทีมไหนเราก็สู้ได้ทั้งนั้น ปีศาจแดงทำได้ทั้งการชนะที่อัดซิตี้มาแล้ว และเป็นทีมเดียวที่ยัดเยียดความปราชัยให้พลพรรคปืนโตได้ในซีซั่นนี้
มีอะไรต้องกลัวอีก?
-ศาลาผี-
