ดานี่ เซบายอส กับ มาร์โก อาเซนซิโอ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแนวรุก ซึ่งทั้งคู่เล่นออกมาได้น่าประทับใจ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกุนซืออิตาเลี่ยนได้ดี

เช่นเดียวกันกับในพาร์ทของเกมรับ ที่ นาโช่ เฟร์นานเดซ แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะไม่ค่อยถูกใช้งาน แต่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาส เขาก็พร้อมและทำออกมาได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะแบ็กขวา แบ็กซ้าย หรือเซนเตอร์ฮาล์ฟ 

จากผลงานของ เซบายอส,อาเซนซิโอ และ นาโช่ ที่ ซาน มาเมส ช่วยทำให้ เรอัล มาดริด ค้นพบบางอย่างที่แตกต่างจากเดิมซึ่งสามารถนำทีมผ่านวิกฤตไปได้ 

ขณะเดียวกัน ที่ดูแย่ลง กลับเป็นหนึ่งในเสาหลักของทีมชุดปัจจุบันอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ 

ถึงแม้ทีมจะชนะด้วยสกอร์ที่หมดจด แต่ฟอร์มของ วินิซิอุส นับได้ว่าต่ำกว่ามาตราฐานที่เคยทำได้ 

ที่ ซาน มาเมส เมื่อคืนวันอาทิตย์ วินิซิอุส โดนผู้เล่นเจ้าถิ่นตามติดตลอดทั้งเกม ทั้งชน ทั้งกระแทก ตัดฟาวล์ ยั่วยุ ที่สำคัญยังมีเสียงแฟนบิลเบาที่คอยโห่กดดันเป็นระยะ จนทำให้เล่นไม่ออก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวเตะบราซิเลี่ยนเล่นหลุดฟอร์มเพราะสิ่งแวดล้อมรอบข้าง หากแต่ในเกมกับ ราโย บาเยกาโน่ ที่ บาเยกาส , กับ บียาร์เรอัล, ที่ เอสตาดิโอ เด เซรามีก้า, กับ เรอัล บายาโดลิด ที่ โฆเซ่ ซอร์รีย่า ก็เช่นเดียวกัน 

ปัญหาคือการยั่วยุ การเล่นตุกติกนอกเกมจากนักเตะคู่แข่ง และที่ส่งผลกระทบต่อดาวรุ่งบราซิเลี่ยนอย่างชัดเจนคือ ‘เสียงโห่’ เสียงด่าทอจากแฟนๆฝั่งตรงข้ามที่ส่งตรงถึงเขาอย่างไร้เหตุผล 

ตอนนี้สามารถสรุปได้ว่า วินิซิอุส กำลังมีปัญหาเวลาเล่นในเกมเยือน ! 

แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา ? 

ย้อนกลับไป 2 ปีก่อนทั้งชื่อเสียง ทั้งระดับฝีเท้าของ วินิซิอุส ยังไม่โด่งดัง และดีเท่ากับในปัจจุบัน ก่อนหน้าหน้านั้นเขาเป็นนักเตะบราซิเลี่ยนที่มีสไตล์การเล่นหวือหวา หากแต่ไม่ได้มีอิทธิพลต่อเกมของ มาดริด มากนัก 

เมื่อเวลาผ่านไป วินิซิอุส ค่อยๆเติบโต สั่งสะสมประสบการณ์ บารมี เรียนรู้ และปรับตัวจนการระดับการเล่นของเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเสาหลักในเกมรุกของ มาดริด ชนิดขาดไม่ได้ สถานะภายในทีมคือตัวจริงอย่างไร้ข้อโต้แย้ง 

เกมแล้ว เกมเล่า วินิซิอุส สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับคู่ต่อสู้ ฉกฉวยแต้ม คว้าชัยชนะไปจากอ้อมอกของคู่แข่ง เมื่อเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกคนจึงหาทางจัดการกับเขา

ภายใต้ระบบ 4-3-3 ในตำแหน่งหน้าซ้ายคือตัวเลือกอัตโนมัติของ คาร์โล อันเชล็อตติ  วินิซิอุส ทั้งเร็วและคล่อง แต่ที่เหนืออื่นใดคือความนิ่ง การตัดสินใจในจังหวะสำคัญ และการจบสกอร์ที่เฉียบขาดขึ้นราวคนละคนกับช่วงแรกๆที่ย้ายมา 

ฤดูกาลที่แล้ว วินิซิอุส ระเบิดฟอร์มสุดยอด จนได้รับคำชมอย่างมากมาย ทำให้เวลาดวลกับ เรอัล มาดริด เขาจะถูกหมายหัวจากฝั่งตรงข้าม

นอกจากนี้แล้ว ด้วยบุคคลิกส่วนตัว ลีลาการเล่น การแสดงความดีใจหลังทำประตูก็นับว่ามีส่วนมากๆรวมถึงการเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลของเขาด้วย

วินิซิอุส เป็นเด็กหนุ่มร่าเริง กล้าหาญ ไม่กลัวที่จะแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างตรงไปตรงมา 

ปัญหาเมื่อปีที่แล้ว วินิซิอุส โดนโจมตีเรื่องการเต้นฉลองเวลาที่ทำประตูได้ เขาถูกนักข่าวบางรายเขียนวิจารณ์อย่างรุนแรง กระแสในโลกโซเชี่ยลก็มีไม่น้อยที่ออกมาคอมเมนท์ถึงเขาในแง่ลบ 

เรื่องราวลุกลามใหญ่โต มีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาแสดงความเห็น และแม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะหนุนหลังให้กำลังใจเขา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในนั้นมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจซ่อนตัวอยู่เงียบๆ 

มาในฤดูกาลนี้ ช่วงออกสตาร์ท วินิซิอุส ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ ส่วนสไตล์การเล่นที่หวือหวา การเต้นแบบแซมบ้าก็ไม่ได้ละทิ้ง เขาจึงถูกแฟนบอลฝั่งตรงข้ามคอยตั้งแง่ เล่นงานหนักขึ้น ทั้งด่าทอด้วยคำหยาบคาย ล้อเลียน ดูถูก  

นอกจากความสะใจแล้ว หากสามารถรบกวนสมาธิ วินิซิอุส ได้ มาดริด ก็จะลดความน่ากลัวลงไป ยังผลดีต่อทีมของตัวเอง ทำให้ช่วงหลังมานี้เมื่อต้องออกมาเล่นเป็นทีมเยือน แฟนบอลเจ้าถิ่นจึงไม่ยอมลดราวาศอกให้เลย ต่อให้เกมนั้น วินิซิอุส จะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม 

คาร์โล อันเชล็อตติ มองเห็นถึงปัญหานี้ที่นับวันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และเเริ่มกังวลกับมัน 

“ทุกคนจ้องแต่จะกดดันเขา แฟนบอล,คู่ต่อสู้,ผู้ตัดสิน...ความจริงก็คือผมไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเองก็มุ่งมั่นที่จะเล่นแค่ฟุตบอล”

“สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเขา แต่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม และผมมั่นใจว่าเขาจะดีขึ้นในแง่มุมนี้ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนไหว และผมได้พูดคุยกับเขาว่าให้มุ่งสมาธิไปที่เกมการแข่งขัน” 

“อย่างไรก็ดีเราต้องการให้ทุกคนเคารพเขาด้วยเช่นกัน” กุนซืออิตาเลี่ยนกล่าวทิ้งท้าย ถือเป็นการแสดงเจตนาให้รู้ว่า มาดริด จะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้หากว่ามันหนักข้อขึ้น  

ครับ เสียงรบกวนจากฝั่งตรงข้าม กลายเป็นคลื่นปัญหาลูกใหม่ซึ่งใหญ่ไม่น้อยที่ วินิซิอุส กำลังเผชิญ 

วิธีแก้แทบไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้หากหวังพัฒนาไปสู่อีกระดับขั้น 

เหมือนเช่นอดีต วินิซิอุส หนุ่มน้อยบราซิเลี่ยนผู้เต็มไปด้วยทักษะ ความเร็ว การเลี้ยงบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากแต่เมื่อถึงพื้นที่สุดท้าย การตัดสินใจ หรือการจบสกอร์กลับกลายเป็นเรื่องน่าขบขำสำหรับฝั่งตรงข้าม 

จากวันนั้นถึงวันนี้ วินิซิอุส ใช้เวลา ความอดทนพัฒนาตัวเองขึ้นมา เปลี่ยนแปลงจากนักเตะหนุ่มที่มีแวว แต่ไม่มีความแน่นอน มาเป็นกองหน้าผู้เฉียบคม

คราวนี้ ถึงเวลาอีกครั้ง ที่เขาจะต้องยกระดับตัวเองขึ้นไปอีก ก้าวข้ามจากนักเตะผู้เก่งกาจไปสู่แข้งระดับโลก ผู้มีจิตใจแข็งแกร่ง ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งรอบตัวที่ถาโถมใส่ 

รอติดตามกันครับว่า วินิซิอุส จะก้าวข้ามจากคำว่า จูเนียร์ ไปเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวได้เมื่อไหร่ ? ซึ่งยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับเขาเท่านั้น

เจมส์ ลา ลีกา