:::     :::

กุนซือมาดคุณชาย ชาบี อลอนโซ่

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
945
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถ้าจะพูดถึงอดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล​ ที่แขวน​สตั๊ด​แล้วทำผลงานในการเป็นกุนซือได้น่าจับตามอง เชื่อว่าชื่อของ ชาบี อลอนโซ่ ย่อมต้องติดในลิสต์นั้นมาด้วยอย่างแน่นอน

ชาบี อลอนโซ่ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังจากการอยู่ในทีมเยาวชนของ เรอัล โซเซียดาด และโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมาก ๆ ในฤดูกาล​ 2002-03  ซึ่งเขาเป็นคีย์แมนสำคัญในแดนกลางที่พาทีมจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ลา ลีกา ก่อนจะย้ายข้ามฟากมาเล่นในพรีเมียร์​ลีก​อังกฤษ​กับ ลิเวอร์พูล​ ด้วยค่าตัวประมาณ 10 ล้านปอนด์ตอนปี 2004


ชาบี เข้ามายกระดับเกมแดนกลางของหงส์แดงได้ชนิดที่สามารถต่อกรกับทีมดัง ๆ ในยุโรปได้อย่างสูสี เขากลายเป็นห้องเครื่องคนสำคัญของทีมเคียงคู่กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โดยเขารับบทเป็นเพลย์เมกเกอร์​จากแนวลึกที่คอยสร้างสรรค์เกมให้ทีมจากการวางบอลยาวสวย ๆ เป็นคนเล่นลูกตั้งเตะและสังหารฟรีคิกประจำทีม อีกทั้งยังพาหงส์แดงคว้าแชมป์ยุโรปได้ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาอีกด้วย




ชาบี ลอนโซ่ อยู่กับ ลิเวอร์พูล​ นาน 5 ฤดูกาล​ ลงสนาม 210 นัด ยิงได้ 19 ประตูกับอีก 20 แอสซิสต์ ได้แชมป์เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์​ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อย่างละสมัย ไฮไลต์เด่นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการทำประตูตีเสมอ มิลาน ในนัดชิง แชมเปี้ยนส์​ ลีก, ยิงประตูจากครึ่งสนามใส่ ลูตัน ทาวน์ ในเกม เอฟเอ คัพ, ทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่จ่ายบอลสำเร็จได้มากที่สุดถึง 1,000 ครั้งในฤดูกาล​เดียว เป็นต้น


ชาบี ย้ายจาก ลิเวอร์พูล​ ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ตอนปี 2009 เล่นกับราชันชุดขาวนาน 6 ปี ก่อนจะปิดฉากอาชีพการค้าแข้งที่เยอรมนีกับ บาเยิร์น มิวนิค โดยเล่นให้เสือใต้อีก 3 ปี แล้วจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล​ 2016-17 ซึ่งตลอดอาชีพการค้าแข้งในฐานะนักเตะนั้น ชาบี ได้แชมป์ใหญ่ ๆ มาแทบครบ ทั้งแชมป์ลีก, แชมป์ยุโรป, แชมป์บอลถ้วย รวมถึงในนามทีมชาติก็ได้แชมป์โลกกับแชมป์ยูโรมาแล้ว


เมื่อแขวนสตั๊ด ชาบี อลอนโซ่ ตัดสินใจเดินหน้าเข้าสู่วงการโค้ชในทันที เขาไปเข้าอบรมการเป็นโค้ชกับทางยูฟ่า โดยอยู่ในคลาสเดียวกับ ชาบี เอร์นานเดซ และ ราอูล กอนซาเลซ สองตำนานทีมชาติสเปน 


เมื่อจบหลักสูตรโค้ช เขาก็ได้งานแรกคือการคุมทีมเยาวชนชุดอายุต่ำกว่า 14 ปีของ เรอัล มาดริด ตอนปี 2018 ซึ่งที่นี่ ชาบี ก็ได้ฉายแววออกมาให้เห็นด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกในรุ่นเล็กได้ทันที ก่อนจะขยับเลเวลด้วยการไปคุมทีมสำรองของ เรอัล โซเซียดาด ในปี 2019 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางโค้ชของเขาเลยก็ว่าได้




ชาบี ให้สัมภาษณ​์ว่า "ผมไม่เคยได้แชมป์กับ เรอัล โซเซียดาด เลย ผมเติบโตมาจากที่นี่ มาจากซาน เซบาสเตียน ดังนั้นการกลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะโค้ชทีมสำรอง จึงเป็นเกียรติต่อตัวผมมาก ๆ เหมือนผมได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่กับทีมเดิมอีกครั้งยังไงยังงั้นเลย" 


ผลงานของ ชาบี อลอนโซ่ กับทีมสำรองของ โซเซียดาด ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนักหากมองในปีแรกไปยังตารางคะแนน เขาพาทีมจบด้วยอันดับที่ 5 ของ เซกุนดา เบ แต่ไฮไลต์สำคัญคือเขารังสรรค์ทีมให้เล่นเกมรุกเป็นหลัก โดยจบฤดูกาล​ด้วยการยิงได้ 47 ประตู จาก 28 นัด มากที่สุดในลีก เฉลี่ยแล้วนัดละเกือบ 2 ประตู ถือว่าไม่แย่เลย


ปีต่อมาเขาพาทีมเลื่อนชั้นจากเซกุนด้า เบ ไปอยู่ในระดับ เซกุนด้า ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการเลื่อนชั้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีิ 1962 เลยทีเดียว 


ฟุตบอลของ ชาบี อลอนโซ เป็นฟุตบอลเกมรุกที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ แต่มีจุดอ่อนในเรื่องของเกมรับ ระบบการเล่นโปรดของเขาคือ 4-2-3-1 และ 4-3-3 โดยมีบางช่วงที่หันมาเล่น 3-4-3 บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก สถิติกับการคุมทีมสำรองของ เรอัล โซเซียดาด คือ 98 นัด ชนะ 40, เสมอ 25, แพ้ 35, ยิงได้ 140 ประตูแต่ก็เสียมากถึง 120 ประตู ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นชัดเจนถึงจุดแข็งและจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน


ชาบี อลอนโซ่ ยอมรับว่าเขากำลังเรียนรู้ถึงเรื่องความสมดุลในการทำทีม เขาพยายามปรับตัวเข้าหาลูกทีม และไม่ได้กำหนดปรัชญาการเล่นแบบตายตัว เขายินดีที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์​ ไม่ยึดติด แต่ขอแค่ทีมยังคงเอกลักษณ์​ในการเล่นฟุตบอลเกมบุกก็พอ


หลังจากคุมทีมสำรองมา 3 ปี โอกาสครั้งสำคัญของ ชาบี ก็มาถึง เมื่อ ไบเออร์ เลเวอร์คู​เซ่น​ ทีมใหญ่จากบุนเดสลีกาได้แต่งตั้งเขาให้มาคุมทัพแทน เจราร์โด้ เซโอเน ที่พาทีมเก็บได้เพียง 5 คะแนนจาก 8 นัด


นี่คือการคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกของ ชาบี ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นงานยากเพราะทีมห้างขายยาอยู่ในโซนล่างของตาราง แต่มันกลับเป็นความท้าทายที่เขายินดีจะรับใันไว้ในทันที


เกมแรกของ ชาบี ในฐานะกุนซือเป็นไปอย่างหวือหวา เขาพาทีมเปิดบ้านชนะ ชาลเก้ ไป 4-0 ทีมกลับมาเล่นฟุตบอลเกมรุกด้งยความมั่นใจอีกครั้ง ครองบอล 60% สร้างโอกาสทำประตูไป 13 ครั้ง จ่ายบอลสำเร็จมั้งทีมรวมกัน 501 ครั้ง มากกว่าคู่แข่งเกือบเท่าตัว พาทีมขยับหนีโซนตกชั้นขึ้นมาอยู่ในโซนสีเขียวได้อย่างยอดเยี่ยม


"เราทุกคนในทีมต่างมีความสุข เรามีเวลาเตรียมตัวไม่มาก แต่นักเตะเข้าใจดีว่าผมต้องการให้เขาเล่นแบบไหน และอยากให้เล่นอย่างไร วันนี้ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบทั้งรุกและรับ"


แม้ว่าเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดต่อมา ทีมของเขาจะแพ้ ปอร์โต้ คาบ้าน 0-3 ก็ตาม แต่รูปเกมของ เลเวอร์คู​เซ่น​ นั้นต้องบอกเลยว่ามีอนาคตมาก ๆ ครองบอลมากกว่า ได้บุกมากถึง 17 ครั้ง และจ่ายบอลกันแม่นยำในระดับที่เกิน 500 ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว


ปัจจุบัน​ขณะ ชาบี พา เลเวอร์คู​เซ่น กระโดดจากท้ายตารางขึ้นมารั้งอันดับ 8 ในตารางบุนเดสลีกาได้แล้ว ผลงานนับตั้งแต่มาคุมทีมคือ 9 นัดในลีก ชนะไป 6 เสมอ 1 แพ้ 2 โดยที่ชนะมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว แถมยังมีสไตล์การเล่นที่ดุดัน บุกแหลก ครองบอลต่อเนื่อง จนแฟนบอลมองเห็นอนาคตอันสดใดรออยู่เลยทีเดียว


เส้นทางใหม่ในสายงานกุนซือของ ชาบี อลอนโซ่ เพิ่งเริ่มต้น โดยตามรอยเพื่อนร่วมรุ่นของเขาทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มิเกล อาร์เตต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ มาห่าง ๆ ก็จริง แต่ฟุตบอลสวยงามในแบบฉบับของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ เลเวอร์คู​เซ่น​ นั้นน่าจับตามองและน่าเอาใจช่วยมาก ๆ หากทำผลงานได้ดี โอกาสที่ในอนาคตเขาจะมาลุยในพรีเมียร์​ลีก​เพื่อดวลกับเพื่อนเก่าอย่าง เจอร์ราร์ด และ อาร์เตต้า ก็เป็นไปได้สูงเลยทีเดียว




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด