เอริค เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์ล่าสุดเอาไว้หลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นการเคลียร์ข้อสงสัยว่าเพราะอะไรนักเตะบางคนถึงไม่ได้เล่น ซึ่งก็มีเรื่องของ "ฟิล โจนส์" ที่เราสงสัยกันมาตลอดซีซั่นนี้ว่าแกหายไปไหน ข่าวคราวไม่มีออกมาแจ้งความชัดเจนเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

วันนี้เอริคออกมาบอกแล้วต่อคำถามที่เกี่ยวกับว่า ฟิล โจนส์ จะถูกปล่อยตัวออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ใช่หรือไม่ เอริคตอบดังนี้ว่า

"ยังไม่มีการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะว่าเขาบาดเจ็บมาทั้งฤดูกาล"

"ผมคงพูดไม่ได้ว่าจะเป็นแบบนั้น(ที่เขาอาจจะกลับมาได้ลงเล่นในปีนี้อีก) สิ่งที่พูดได้ก็คือเขาไม่พร้อมที่จะฝึกซ้อมมาตั้งแต่วันซ้อมวันแรกของซีซั่นนี้ เพราะการที่จะฟื้นตัวกลับมาให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นโอกาสมันก็หายไปด้วย"

สิ่งที่เราสงสัยมานานว่าเขาถูกตัดหางรึเปล่า เขาไปอยู่ส่วนไหนของทีม สรุปแล้วก็คือที่เอริค เทน ฮาก เปิดเผยเรื่อง ฟิล โจนส์ ก็เป็นปัญหาอาการบาดเจ็บเหมือนเดิมนั่นเอง ทั้งที่ท้ายซีซั่นก่อนดูเหมือนว่าจะกลับมาได้ แต่สุดท้ายก็หายไปอีกครั้ง และเราก็ไม่เห็นเขาอีกเลยในยุคของเอริค เทน ฮาก ตั้งแต่ซ้อมวันแรกของช่วงพรีซีซั่น

ส่วนความคืบหน้าก็คือยังไม่มีการตัดสินใจใดๆทั้งสิ้นว่าจบฤดูกาลนี้จะเป็นยังไงต่อไป แต่สิ่งที่เอริคสามารถพูดได้ในตอนนี้คือเขาไม่สามารถลงซ้อมกับทีมได้ ดังนั้นยังคงต้องรอความชัดเจนหลังจากนี้อีกระยะ

เพื่อความเคลียร์และเข้าใจง่าย ความไม่ชัดเจนที่ว่าคือการยังที่เอริคยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในตอนนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า สัญญาของโจนส์ กำลังจะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งก็คือปีนี้นั่นเอง จากที่ล่าสุด เขาได้ต่อสัญญาในช่วงยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2019

กองหลังจอมทุ่มเทรายนี้อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2011ในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาจากแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และได้แชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ ยูโรปาลีกกับถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด ติดทีมชาติอังกฤษไปทั้งหมด 27 นัด

ความชัดเจนเรื่องของสัญญาก็ตามนี้เลย นั่นก็คือสัญญาจะหมดลงในปี 2023 แต่มี option ขยายสัญญาต่อออกไปอีกหนึ่งปี

สิ่งที่เอริค เทน ฮาก พูดถึงก็คือการตัดสินใจอนาคตฟิล โจนส์นั่นเองว่าจะเอายังไงต่อไปนั้น ยังไม่มีการตัดสินใจในประเด็นนี้ แม้ว่าสัญญาหลักโจนส์จะหมดในปี 2023 แต่ยังมีโอกาสต่อได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงยังไม่สามารถฟันธงไปได้เลยว่ายังไงนักเตะก็หมดสัญญาอยู่แล้ว เพราะมันมีเงื่อนไขที่ขยายออกไปได้อีกหนึ่งปีนั่นเอง

แต่เท่าที่ผู้เขียนคาดการณ์ประเด็นเรื่องนี้นั้น คิดว่าซัมเมอร์ 2023 เอริค เทน ฮาก น่าจะมีการ "เคลียร์" Squad ให้ชัดเจนได้มากขึ้น จากที่ปีนี้เป็นปีแรกเขาเพิ่งเข้ามา คงต้องการจะดูสภาพรวมของทีม และรับรู้ปัญหาก่อนว่ามีอะไรบ้าง

เชื่อว่าซัมเมอร์ที่สองของเอริค เทน ฮาก จะมีการตัดแต่งส่วนเกินออกอย่างจริงจังเพื่อความเป็นระเบียบ และการมีทีมที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับการลงเล่นต่อหนึ่งฤดูกาลโดยไม่มีตัวเหลือเกินความจำเป็น

เพราะงั้นแล้ว แนวโน้มอนาคตของฟิล โจนส์ เชื่อว่าไม่คาราคาซัง และคงจะมีความชัดเจนหลังจบฤดูกาลนี้แน่นอน ซึ่งก็คงจะออกมาในรูปแบบของการ "ไม่ใช้ออฟชั่นขยายสัญญา" ให้นักเตะสัญญาหมดเพื่อได้สามารถไปรักษาตัวเองและหาสโมสรใหม่ในการค้าแข้งต่อไปได้ ยูไนเต็ดเองก็ได้เคลียร์ค่าเหนื่อย เคลียร์นักเตะที่ไม่ได้ลงสนามใช้งาน ส่วนนักเตะเองก็มีอิสระที่จะเลือกทีมหรือหาสโมสรที่เหมาะสมต่อไป

ช่วงต้นซีซั่นถ้าใครยังจำกันได้ มีข่าวจากสื่อต่างประเทศว่า ฟิล โจนส์ ถูกอัปเปหิ ขับไล่ออกจากห้องแต่งตัวของทีม พูดง่ายๆคือถูกตัดหางออก เนื่องจากเพื่อต้องการเคลียร์ที่ว่างให้กับเอริค เทน ฮาก เซ็นสัญญาใหม่เข้ามาได้ รวมถึงข่าวว่าเขาถูกขับให้ไปซ้อมกับทีมชุด U-21s ด้วย

นี่คือข่าวที่ไม่มีแหล่งที่มาว่าได้ข้อเท็จจริงมาจากไหน บอสอย่าง เทน ฮาก เองก็ไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะงั้นก็ฟังหูไว้หู ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอริคอาจจะต้องการสร้างทีมใหม่จริงๆ และให้นักเตะที่มีอนาคตเท่านั้นมามีส่วนร่วมกับห้องแต่งตัวก็ได้ ถามว่าถ้ามันเป็นการจัดการของเอริค เทน ฮาก มันผิดหรือไม่ในฐานะผู้จัดการทีม

ผมมองว่าไม่ผิด เพราะสโมสรสำคัญที่สุดที่จะต้องดำเนินการต่อไปในการทำทีมลงแข่งขันกับคู่แข่ง ถ้าเอริคจะเคลียร์โจนส์จริงๆก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรเลย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกที่

แต่แฟนบอลก็ไม่ควรฟันธงไปเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้เป็นแค่ข่าว เอริค เทน ฮาก ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่ชัดเจนในแนวทาง และให้ความแฟร์กับทุกฝ่ายอยู่แล้วนั้น ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าข่าวนี้ไม่จริง เพียงเพราะการเต้าขึ้นมาเนื่องจากว่าเขาไม่เห็นฟิล โจนส์อยู่ในทีม

ตอนนี้น่าจะเคลียร์แล้ว เอริค ออกมาบอกเองว่า ฟิล โจนส์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่ต้นซีซั่นเลย และไม่พร้อมลงฝึกซ้อม ซึ่งถ้าเอริคพูดไม่จริง เขาก็มีแต่จะเสียหายแน่ๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกหรือปิดบัง เอริคใช้เหตุผลอื่นในการอ้างก็ได้สบายๆ แต่เขาออกมาบอกอย่างชัดเจนขนาดนี้

เพราะฉะนั้น แฟนผีควรจะ "เชื่อบอส" มากกว่าที่จะสนใจแหล่งข่าวแบบนั้น

ส่วนเรื่องของฟิล โจนส์ เราเข้าใจดีว่าแฟนผีก็คงจะรู้สึกว่าอยากให้เคลียร์ปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว ผู้เขียนเองก็เหมือนกัน ต้องบอกก่อนว่า เรารักนักเตะของเราทุกคนจริงๆ ไม่อยากขับไล่ไสส่ง แต่ถ้าบางอย่างที่มัน "ถึงเวลา" ที่ต้องแยกทางกันไปเพื่อสิ่งที่ดีกว่าของแต่ละฝ่าย ก็ควรให้มันเป็นไปตามนั้นเช่นกัน ไม่ควรฝืนอีกต่อไป

ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คของโจนส์ มันค่อนข้างชัดเจนว่า EtH ไม่จำเป็นต้องเก็บเขาไว้กับทีมอีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อสัญญาใหม่ เนื่องจากเขามีดาวเตะวัยรุ่นที่สามารถพัฒนา และเล่นในระบบของเทน ฮาก ได้เข้าแก๊ปมากกว่า ด้วยความสดใหม่ของตัวเล่นอายุน้อยที่ปรับแต่งวิธีคิดการเล่นให้เข้ากันกับปรัชญาบอล Possession + Pass and Move ของเอริคได้สบายๆ

ทั้งแอ็กเซล ตวนเซเบ้ ที่เริ่มหายจากอาการบาดเจ็บมาแล้ว ทั้งเทเด้น เมนจี้ และยังมีผู้เล่นอื่นอีกหลายคน แม้กระทั่งลุค ชอว์เองตอนนี้ก็กลายเป็นคู่แข่งตัวอันตรายสำหรับตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คไปอีกหนึ่งคนแล้ว

ตัวแทนของโจนส์มีเยอะมากอย่างที่เห็น เพราะงั้นในเรื่องของความจำเป็นที่จะต่อสัญญาฟิล โจนส์ จึงไม่มีเลย พอเขียนแบบนี้ปุ๊บผู้เขียนก็น่าจะพอมองออกว่าสุดท้ายแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ใครที่ห่วงอยู่และอยากให้รีบเคลียร์ก็สบายใจได้ คงจะไม่มีการต่อสัญญาออกไปแบบไร้ทิศทางเหมือนยุคที่เอ็ด วู้ดเวิร์ด บัญชาการอยู่แน่นอนเพียงเพราะ "ไม่ต้องการเสียนักเตะไปฟรีๆ" ก็เลยต่อสัญญาซะยังงั้น โดยที่ไม่ดูมิติเชิงฟุตบอลเลยว่าควรต่อหรือไม่ควร

เป็น Contract Policy ที่ห่วยมากของ Ed Woodward

ที่กล่าวมานั้นคือมุมมองในแง่การบริหารจัดการทีม อยากให้ผู้อ่านลองคิด และ ลองแยกแยะต่ออีกกรณีนึง ที่เราจะพูดจากมุมขอนักเตะเราอย่าง ฟิล โจนส์ บ้าง

เขาคือผู้เล่นที่เป็นมรดกสุดท้ายของป๋า และก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามานาน ตอนนี้เมื่อนับจำนวนปีแล้ว หากถึงซัมเมอร์ปี 2023 ฟิล โจนส์ จะอยู่กับสโมสรมาเป็นระยะเวลา "12ปีเต็ม" ทันที แต่เขาเองก็รู้ตัวเองดีว่า และน้อยใจในเรื่องบางเรื่อง เช่นประเด็นที่เขาไม่ต้องการให้มีเทสติโมเนียลแมตช์ เพราะคงจะไม่มีใครมาแน่ๆ เนื่องจากเจ้าตัวทำใจและน้อยใจคิดว่าคงไม่มีใครมางานของเขา

แต่เรื่องนี้เราเชื่อนะว่า สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดน่าจะมองเห็นเรื่องเล็กๆน้อยๆนี้ และน่าจะมีแมตช์อำลาให้เขาแน่ๆ รอลุ้นให้มันเกิดขึ้นจริงๆ เราก็อยากจะรู้ว่าธรรมเนียมและประเพณีเก่าๆของสโมสร มันจะเลือนหายไปตามกาลเวลาหรือไม่ และมนุษยธรรมในการบริหารจัดการขององค์กรเราในตอนนี้ยังแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด

ผมยังยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่ใช่ตัวตลก และไม่สมควรอย่างมากที่จะเอาปัญหาอาการบาดเจ็บมาด่าฟิล โจนส์ ว่าเป็นส่วนเกินที่ไร้ประโยชน์ของที่นี่ เพราะอุปสรรคของนักฟุตบอลแต่ละคนไม่เหมือนกัน และนักบอลก็คือมนุษย์ที่ต้องพยายามแก้ไขปัญหาชีวิตของตัวเองทั้งนั้น ก็เหมือนเราทุกคนตรงนี้ที่ชีวิตไม่ได้ราบรื่นซะทุกอย่าง

โจนส์เองก็มีอาชีพที่เกิดปัญหาหนักหน่วงขึ้นมาเหมือนกัน เป็นอุปสรรคที่น่าเห็นใจ กับอาชีพที่ระยะเวลามันแสนสั้นเหลือเกินที่ 33-35 ส่วนใหญ่ก็ต้องเริ่มรีไทร์กันแล้ว อายุงานสั้นแล้วยิ่งมาลงสนามไม่ได้ วันเวลาผ่านไปจนตอนนี้เขาอายุ 30 ก็คงยากที่จะกลับมาเล่นแบบเต็มที่กับทีมระดับท็อปๆได้อีกต่อไป