แฟนบอลบางทีมคงกำลังนั่งแซะหรือแขวะชัยชนะในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่สำหรับสาวกปิศาจแดงมันคือการได้ไปต่อในบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดของโลก
ถือเป็นหัวใจหลักของฟุตบอลถ้วย ไม่ว่าคุณจะเจอกับทีมไหน ระดับใด หรือคู่แข่งเก่งกาจมากน้อยเพียงใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญของการได้ไปต่อคือต้องเป็นฝ่ายคว้าชัยเท่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ ยูไนเต็ด ทำสำเร็จเหนือสโมสรจากเวทีแชมเปี้ยนชิพ และได้ไปต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งจะประกบคู่ในวันจันทร์นี้
ย้อนกลับไปในเกมล่าสุดที่ลูกทีม เอริก เทน ฮาก คว้าชัยด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้นผลงาน กาเซมีโร่ ที่ทำคนดียวสองประตู
เสียงแซ่ซ้องพุ่งตรงไปหามิดฟิลด์ชาวบราซิลวัย 30 ปี หลายคนยกย่องผลงานที่นักเตะมอบให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และแทบลืมไปแล้วว่าสโมสรทุ่มเงินกว่าครึ่งร้อยล้านปอนด์ดึงมาร่วมทีม เพราะฟอร์มที่เกิดขึ้นคุ้มค่าอย่างมาก
ไม่ต่างจาก เทน ฮาก ที่ยกย่อง 'กาเซ' อีกครั้งหลังจากจบเกมล่าสุด เพราะนักเตะตอกย้ำให้เห็นถึง 'คลาส' และความสำคัญที่ตนเองมีต่อทีมผีแดงชุดนี้
ในมุม 'อีทีเอช' ยกให้ กาเซมีโร่ เป็นหัวใจหรือรากฐานสำคัญในการสร้างทีมตามแบบที่ตนเองต้องการหรืออยากให้เป็นไป ไม่เพียงการคุมแดนกลางหรือคอยแบ่งเบาภาระของแนวรับ แต่มิดฟิลด์แซมบ้ายังมีทีเด็ดในการทะลุเข้าพื้นที่อันตรายของฝ่ายตรงข้าม
จุดสำคัญคือการอ่านเกมและจังหวะการเล่นได้ดี เมื่อมีโอกาสในการดันขึ้นหน้าหรือมองเห็นพื้นที่เปิดออก 'กาเซ' ก็พร้อมเข้าไปยังจุดนั้นเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่ง
แม้แต่การเป็นคน 'แอสซิสต์' เองก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลัง ทำให้การมีอยู่ของ กาเซมีโร่ ส่งผลที่ดีให้ทีมนอกเหนือไปจากหน้าที่หลักที่ถูกคาดหวังไว้
ไหนจะสองประตูจากเกมล่าสุดทั้งจังหวะสอดเข้าเขตโทษไปยิงแบบที่กองหน้าบางคนยังอายม้วน หรือแม้แต่ประตูที่สองอันงดงาม (ถึงจะแฉลบศีรษะฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อย) กลายมาเป็นสิ่งที่แฟนบอลผีแดงพูดคุยตั้งแต่หลังจบเกมมาจนถึงตอนนี้
นั่นคือความยอดเยี่ยมที่กองกลางแซมบ้ามอบให้ทีมอีกครั้ง แต่คนอื่นๆ ก็พยายามได้ดีและเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ทีมผ่านรอบที่ 4 ได้สำเร็จ
เอาเป็นว่างานของ ปิศาจแดง ลุล่วงไปอีกขั้น ตอนนี้เหลือแค่รอลุ้นคู่แข่งรอบต่อไปจะเป็นใคร ซึ่งไม่ว่าจะชนทีมไหนก็ตาม เทน ฮาก และนักเตะพร้อมปะทะอยู่แล้ว
หลังจากจบ เอฟเอ คัพ เกมต่อไปคือการปิดงานศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศนัดที่สองกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งสถานการณ์ดูดีเพราะชนะมาก่อน 3-0
แต่ใช่ว่างานจะจบแบบสนิทหรือสบายใจได้เต็ม 100 เพราะยังเหลือเวลาอีก 90 นาที และแน่นอนว่ากุนซือชาวเนเธอร์แลนด์คงอยากเห็นลูกทีมแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจแบบเดิมอย่างแน่นอน และไม่เสียสมาธิจนทำผลงานที่แย่ออกมา
อย่างที่เคยกล่าวไปในคอลัมน์ก่อนหน้าว่าภารกิจของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากนี้จะมาอย่างต่อเนื่องและถี่ยิมมาก ไหนโปรแกรมที่ถูกยัดเข้ามา (จากกรณีที่โดนเลื่อน) ซึ่งทาง ผีแดง ต้องดวล ลีดส์ วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ เท่ากับว่าทีมจะมีเกมกลางสัปดาห์ตลอดเดือนหน้า
ในมุมแฟนบอลถือว่าได้กำไรในการติดตามทีมรัก (แม้หลายเกมจะลงเล่นเกือบเช้าบ้านเรา) แต่ฝั่ง เทน ฮาก มันคือเรื่องของการไตร่ตรองถึงการจัดทีมอย่างเหมาะสมในแต่ละเกม พร้อมปรับสมดุลให้ทีมเดินหน้าคว้าชัยตามเป้าหมายแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนนักเตะไปบ้างก็ตามในบางนัด
ณ ตอนนี้ทีมได้เวลาหายใจหายคอเล็กน้อยก่อนจะกลับมามุ่งมั่นลงสนามต่อเนื่อง ซึ่งแฟนบอลหวังว่าทีมจะเดินหน้าไปยังเส้นทางที่ทุกคนอยากเห็นและให้เกิดขึ้น
