:::     :::

ดุดันไม่เกรงใจใคร

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากนับเกมที่เปิด ช้าง อารีนา เปิบหูฉลามไป 2 แผลล่าสุด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมเดียวในไทยลีก ที่ไม่แพ้ใครหลังผ่านไป 17 เกม (ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้ 0)

นำจ่าฝูงในแบบที่ทิ้งห่างทีมอันดับ 2 ถึง 11 คะแนน

แม้ในทางทฤษฎี ไทยลีกฤดูกาลนี้ยังอีกไกลกว่าจะหาทีมที่เป็นแชมป์ แต่ในภาคปฏิบัติหลายคนเชื่อว่า โทรฟี่ปีนี้ไม่น่าหลุดมือ “ปราสาทสายฟ้า” ไปอีกครั้ง

หรือกล่าวแบบเข้าใจง่ายคือ แชมป์ในปีนี้ได้ถูกตัดสินไปแล้ว

ขณะที่ฟุตบอลถ้วยทั้ง 2 รายการพวกเขายังอยู่บนเส้นทางลุ้น “ทริปเปิลแชมป์” ตามเดิม

สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะ “มาตรฐาน” ทีมที่แทบไม่มีตกหรือแผ่ว หากจะหา “ข้อผิดพลาด” คงเป็นในเกมเลกแรกที่ทีมเปิดบ้านเสมอ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-1

ที่เหลือยังคงความดุดันไม่เกรงใจใครไว้ตามเดิม


อีกหนึ่งเหตุผลคือ เมื่อตัดภาพไปที่ทีมอื่น ๆ หลายสโมสรยังคงคลำผิดคลำถูก ผ่าตัด สร้างทีมใหม่ เปลี่ยนโค้ช วนลูปเพื่อต่อยอดเป้าหมายในครึ่งฤดูกาลหลัง

แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มองข้ามช็อตไปแล้ว

ไม่นานมานี้ผู้เขียนบังเอิญได้มีโอกาสฟัง “จอน” เพื่อนในวงการสื่อสัมภาษณ์ เนวิน ชิดชอบ พ่อใหญ่บ้านปราสาทสายฟ้า ถึงโครงสร้างทีม และเป้าหมายสโมสรในปีนี้

สิ่งที่ เนวิน คิดคือ ครึ่งฤดูกาลหลังจะเป็นช่วงเวลาที่ทีมต้องประคองตัว เล่นเพื่อรักษาแชมป์ให้ได้ จากแต้มต่อที่นำห่างคู่ต่อสู้

ส่วนแผนงานจริง ๆ ที่เตรียมควบคู่กันไปด้วยกับไทยลีกครึ่งฤดูกาลหลังคือ การเตรียมทีมสู่ เอเอฟซี แชมเปียส์ลีก ในฤดูกาลหน้า

โปรเจคท็อป 5 เอเชีย ที่ เนวิน เคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนหนนี้เขาตั้งใจมากเป็นพิเศษ


สาเหตุหนึ่งอาจมาจากที่ เอเอฟซี เตรียมเปลี่ยนกฎใหม่ในเรื่องของ “โควตาผู้เล่นต่างชาติ” จากเดิมที่ใช้ 3+1 (ต่างชาติ 3 เอเชีย 1) มาเป็น 5-1 ต่างชาติ 5 เอเชีย 1)

ซึ่ง เนวิน มั่นใจว่าหากเปลี่ยนมาใช้กฎโควตานี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่เป็นรองสโมสรจาก เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น แน่ ๆ

นั่นเพราะส่วนหนึ่ง บุรีรัมย์ มีผู้เล่นสัญชาติไทยมากฝีมืออยู่แล้ว แค่หานักเตะต่างชาติที่สร้างความแตกต่าง เข้ามาช่วยยกระดับทีมเพิ่มขึ้น จึงไม่แปลกใจว่าเหตุใด บุรีรัมย์ จึงยังมีการเปิดตัวผู้เล่นต่างชาติคนใหม่ ๆ เข้ามา แม้ของเก่าที่มี(อาจ)ดีอยู่แล้ว

เพราะดีสำหรับแฟนบอลทั่วไป อาจดีไม่เท่าแนวคิด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ย้ำว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การป้องกัน “ทริปเปิลแชมป์” ในประเทศ หากแต่เป็นการมองไกลถึงฟุตบอลสโมสรเอเชีย   

เนวิน เชื่อว่าหาก บุรีรัมย์ จบแค่เพียงที่รอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลเอเชียถือว่า “สอบตก” พร้อมมั่นใจว่าทีมจะไปได้ไกลถึงรอบ 8 ทีม ขณะที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชญี่ปุ่น ตั้งใจว่า บุรีรัมย์ จะต้องไปให้ถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้

นั่นคือเป้าหมายทีมที่ บุรีรัมย์ วางไว้ล่วงหน้า

ที่สำคัญพวกเขาไม่ใช่แค่ผุดโปรเจค พูดถึงเป้าหมายเท่ ๆ เพื่อขายข่าวให้แฟนบอลเท่านั้น  

แต่ “พูดแล้วทำ” ลงมือปฏิบัติจริง ๆ ตามวิถีของโลกฟุตบอลสมัยใหม่

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด