:::     :::

'ฮอล ออฟ เฟม'อินเตอร์ มิลาน

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2561 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,957
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
4 นักเตะ'ฮอล ออฟ เฟม'ของ อินเตอร์ มิลาน ไล่จาก วอลเตอร์ เซงก้า, โรนัลโด้, โลธ่าร์ มัทเธอุส กับ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ในงานกาลาฉลอง 110 ปีของสโมสร

อินเตอร์ มิลาน เฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 110 ของสโมสรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังการก่อตั้งทีมเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1908

งานดังกล่าวจัดขึ้นที่'ฮันการ์ ปิเรลลี่'ในมิลาโน่ บิช็อคก้า พร้อมการมอบรางวัลให้กับอดีต 4 นักเตะและนำเข้าสู่'ฮอล ออฟ เฟม'ของสโมสร  

4 ผู้เล่นระดับตำนานของทีมงูใหญ่คือ วอลเตอร์ เซงก้า, โรนัลโด้, โลธ่าร์ มัทเธอุส กับ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ 

ในงานเดียวกัน อินเตอร์ มิลาน ยังมอบรางวัลพิเศษหรือ'สเปเชียล ไพรซ์'ให้ มัสซิโม โมรัตติ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรในช่วงปี 1995 ถึง 2004 และอีกรอบระหว่างปี 2006 ถึง 2013 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ทีมมะโรงอิตาเลียนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วย 

'บางคนเป็นแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่คว้ารางวัลมากมายและผมรู้สึกอิจฉาตาร้อน'โมรัตติกล่าวติดตลกในงานกาล่า 'การเป็นประธาน อินเตอร์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ผมภูมิใจที่ได้ยินชื่อของคนที่ได้รับรางวัลของผู้ชนะในค่ำคืนนี้และคนอื่นๆด้วย วีว่า อินเตอร์, ฟอร์ซ่า อินเตอร์'

ปัจจุบัน โมรัตติ อายุ 72 ปี เข้ามารับนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร อินเตอร์ มิลาน ต่อจาก เออร์เนสโต้ เปลเลกรินี่ สมัยแรกเมื่อปี 1995 เขานำทีมงูใหญ่กวาดสคูเด็ตโต้ถึง 5 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2010 

อินเตอร์ ยังสอยแชมป์โคปปา อิตาเลีย 4 สมัย (2005, 2006, 2010, 2011), แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 4 ครั้ง (2005, 2006, 2008, 2010), แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (2010), ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (2010) และ แชมป์ยูฟ่า คัพ (1998) 

การคว้าสคูเด็ตโต้, โคปปา อิตาเลีย และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2009-2010 ยังทำให้ทัพมะโรงยุคท่านประธานโมเร็ตติเป็นทีมแรกของอิตาลีที่ฟาด'ทริปเปิลแชมป์'ในซีซั่นเดียวด้วย 

โมรัตติ เคยเปิดเผยว่าเขาใช้เงินราว 1.5 พันล้านยูโรกับตลาดนักเตะของอินเตอร์ในห้วงเวลาที่เขาท่านเก้าอี้ประธานสโมสร ผลงานสร้างชื่อของเขาคือการเซ็นสัญญากับ โรนัลโด้ นาซารีโอ จาก บาร์เซโลน่า เมื่อปี 1997 ซึ่งเป็นผู้เล่นดีที่สุดในโลก ณ ห้วงเวลานั้น 

ช่วงเดือนกรกฎาคมปี 1999 โมรัตติ ยังทุ่มเงินเป็นสถิติโลกคว้าตัว คริสเตียน วิเอรี่ มาจาก ลาซิโอ ต่อด้วยการเซ็นสัญญากับแข้งดาวดังอย่าง โรแบร์โต้ การ์ลอส, เอร์นาน เกรสโป, อาเดรียโน่, อีวาน ซาโมราโน่, ไมค่อน, โรแบร์โต้ บาจโจ้, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, หลุยส์ ฟิโก้, ปาทริค วิเอร่า, ซามูแอล เอโต้ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ 

อย่างไรก็ตามยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ โมรัตติ ในการใช้เทรนเนอร์สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ยกเว้นการเก็บรักษา จูเซ็ปเป้ บาเรซี่ และ ดานิเอเล่ แบร์นาซซานี่ ในฐานะแบ็ครูมสตาฟฟ์และเทรนเนอร์ทีมเยาวชน เช่นเดียวกัน มาร์โก บรังก้า หนึ่งในผู้อำนวยการสโมสร 

โมรัตติ ยังเคยใช้บริการเทรนเนอร์ชั้นดีอย่าง ราฟาเอล เบนีเตซ, เลโอนาร์โด้, จาน ปิเอโร กาสเปรินี่ และ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ในช่วงเวลาเพียง 2 ฤดูกาล ขณะที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ที่นำทัพงูใหญ่ประสบความสำเร็จก็ยังอยู่ทำงานไม่นานนัก 

นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์ชั้นนำอีกหลายรายที่นำชื่อเสียงมาทิ้งไว้ที่ อินเตอร์ มิลาน ยุคโมรัตติทั้ง รอย ฮ็อดจ์สัน, มาร์เซลโล่ ลิปปี้, มาร์โก ทาร์เดลลี่, เอคตอร์ กูเปร์ และ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ 

โมรัตติ วางมือจากการเป็นประธานสโมสรของ อินเตอร์ มิลาน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2018 หลังตัดสินใจขายหุ้นให้ เอริค ธอร์ฮีร์ มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย แต่ มิลลี่ โมรัตติ ภรรยาของเขายังคงเป็นที่ปรึกษาของบอร์ดทีมงูใหญ่ รวมถึงคนในครอบครัวอย่าง อันเจโลมาริโอ, คาร์ล็อตต้า และ โจวานนี่ ยังเป็นเมมเมอร์ในบอร์ดบริหารด้วย 

แม้จะเกิดวิกฤติขึ้นบางครั้งบางคราว ทว่าจากภาพรวมตลอดช่วงเวลาที่นั่งเก้าอี้ประธานอินเตอร์ของ โมรัตติ ยังสร้างคุโณปการให้สโมสรมากมายจนคู่ควรกับการรับรางวัลทรงเกียรติครั้งนี้้ 

ย้อนกลับไปที่ 4 อดีตผู้เล่นอินเตอร์ที่ถูกเลือกเข้ามาอยู่ใน'ฮอล ออฟ เฟม'ฉลองครบรอบ 110 ปีของสโมสร แต่ละคนล้วนประสบความสำเร็จร่วมกับทีมงูใหญ่เช่นเดียวกัน

วอลเตอร์ เซงก้า เซ็นสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 1978 แต่เขาย้ายไปเล่นกับสโมสรเล็กๆเพื่อเสริมกระดูกด้วยสัญญายืมตัว ก่อนกลับมาเริ่มต้นเล่นกับทัพงูใหญ่ตั้งแต่ปี 1982 

เซงก้า ลงเฝ้าเสากับทัพเนรัซซูร์รี่รวมกัน 328 นัดจนถึงปี 2004 เขานำทีมงูใหญ่สอยสคูเด็ตโต้ในปี 1989 ซึ่งทำผลงานโดดเด่นเสียเพียง 19 ประตูในซีซั่นนั้นและยังมีส่วนร่วมกับการคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 1991 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สโมสรยุโรปครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 60 

'ความฝันวัยเด็กของผมกลายเป็นความจริง'เซงก้าซึ่งปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์ของโครโตเน่กล่าว 'ผมเคยไปที่สนามและผมต้องการดูการเล่นของอินเตอร์เพียงอย่างเดียว รางวัลนี้จึงเป็นความรู้สึกแสนพิเศษสำหรับผม'

ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ย้ายจาก บานฟิลด์ มาร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 1995 เขาลงเล่นกับทีมเนรัซซูร์รี่ 615 นัดจนถึงปี 2014 ยิง 12 ประตูและมีส่วนร่วมกับความสำเร็จของทีมมากมายทั้งการคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ, โคปปา อิตาเลีย 4 สมัย, ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 4 ครั้ง, แชมป์สคูเด็ตโต้ 5 สมัยและที่ลืมไม่ได้คือการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2009-2010 

'ผมมาที่นี่ตั้งแต่ยังเด็กและไม่มีใครรู้จักผมเลย'ซาเน็ตติเผย 'ครอบครัว โมรัตติ เป็นครอบครัวบุญธรรมผมและผมรู้สึกตกหลุมรักอินเตอร์ขึ้นมาทันที'

ปัจจุบัน ซาเน็ตติ นั่งเก้าอี้รองประธานสโมสรและเสื้อหมายเลข 4 ของเขายังถูกสโมสรยกขึ้นหิ้งเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตตำนานผู้นี้ด้วย 

โลธ่าร์ มัทเธอุส ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 1998 อดีตจอมทัพทีมอินทรีเหล็กลงเล่นกับทัพเนรัซซูร์รี่ 115 นัดและยิง 40 ประตู เขาลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 5 สมัยและมีส่วนสำคัญต่อการคว้าแชมป์โลกของทีมชาติเยอรมันตะวันตกเมื่อปี 1990 

มัทเธอุส ประสบความสำเร็จกับ อินเตอร์ มิลาน จากการคว้าสคูเด็ตโต้ (1988-1989), ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (1989) และ ยูฟ่า คัพ (1990-1991) เขายังคว้ารางวัล'ฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์'เมื่อปี 1991 ด้วย 

'ผมมีความสุขตลอดอาชีพค้าแข้ง 20 ปี แต่ทั้ง 4 คนในตอนนี้คงเป็นคนที่อารมณ์ดีที่สุด'มัทเธอุสกล่าว

หลังเลิกค้าแข้งเมื่อปี 2000 มัทเธอุส ทำงานในฐานะเทรนเนอร์กับหลายสโมสร รวมถึงทีมชาติ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนตำแหน่งล่าสุดของเขาคือการเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติบัลแกเรียเมื่อปี 2011 

โรนัลโด้ นาซารีโอ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ปี 1997 แต่เขาลงเล่นกับทีมมะโรงอิตาเลียนรวมกันเพียง 68 เกมตลอดช่วง 5 ฤดูกาล เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าต่อเนื่อง 

เขาเซ็นสัญญาด้วยค่าตัวสถิติในตอนนั้น 27 ล้านดอลล่าร์ ทำสถิติกระทุ้งให้ทีมงูใหญ่ 49 ประตูและคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ ในปีนั้น รวมถึงการคว้ารางวัล'ฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์'อีก 2 ครั้ง 

แม้การค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน จะเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังเนื่องจากความโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงก็ตาม แต่โรนัลโด้ยังคู่ควรกับการมีชื่อติด'ฮอล ออฟ เฟม'ของสโมสร 

'บรรดานักเตะรุ่นก่อนหน้ามีส่วนช่วยให้ผมกลายเป็นผมในตอนนี้'โรนัลโด้กล่าว 'พวกเขาเป็นไอดอลและเป็นแรงจูงใจอย่างมากสำหรับผม' หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล โรนัลโด้ ทำหน้าที่เป็นฑูตสันถวไมตรีของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติจนถึงปัจจุบัน 

ทั้งหมดคือเรื่องราวเกี่ยวกับงานฉลองครบรอบ 110 ปีของสโมสร อินเตอร์ มิลาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่ง'THSPORT'นำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟังครับ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})