:::     :::

เก็บตะวัน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ หลายครั้งสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิด กลับอุบัติเปรี้ยงขึ้นแบบตลกร้าย

ก่อนคิกออฟที่ สามอ่าว สเตเดียม หากใครบอกว่า พีที ประจวบ น้องใหม่ที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาบนลีกสูงสุด จะเปิดรังรัว เอสซีจี เมืองทอง แบบอำมหิตเช่นนี้ คงต้องจับตรวจสมองว่าคนพูดบ้าหรือเพี้ยน

แต่มันเกิดขึ้น...

เป็นโศกนาฏกรรม ที่ไม่ได้ฆ่าชีวิตใคร แต่แฟนกิเลนผยองพร้อมใจเบือนหน้านี้ สกอร์บอร์ด 6-1 หลังจบเกมเป็นตัวเลขเกินใจจะรับไหว สีหน้า ธชตวัน ศรีปาน ตอนกล้องถ่ายทอดสดซูมใส่ ตอบทุกความรู้สึกได้ดี แบบไม่ต้องมีคำพูดเอื้อนเอ่ยใดๆ

เกิดอะไรขึ้นในสนามเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ?

ไล่เรียงตั้งแต่ 11 คนแรก แม้จะขาดผู้เล่นหลักอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร, เจนรบ สำเภาดี, อดิศร พรหมรักษ์ แต่เมื่อมองไปบนสนามชื่ออย่าง ทริสตอง โด, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, ประกิต ดีพร้อม หรือ 2 อดีตมือปืนผู้เคยซิว ดาวซัลโว และ รอง ดาวซัลโวไทยลีกอย่าง เฮแบร์ตี และ ชาชา โคเอลโญ ต่างพร้อมใจสวมยูนิฟอร์มลงสนาม ไม่นับรวม เซลิโอ ซานโตส ที่สลัดอาการบาดเจ็บกลับมา

มองเหลี่ยมไหน ไม่มีข้อคัดง้างประการใดเลยที่ทรัพยากรลูกหนัง เมืองทอง จะเป็นรองเจ้าถิ่น

ประตูแรก มาจากสูตรสำเร็จแบบประจำสไตล์ “วัง ลันตา” การให้ อัดนาน โอลาโฮวัช หนีตัวประกบไปเสาไกลโหม่งย้อนกลับมาให้เพื่อนเข้าทำ ประสบความสำเร็จ แต่ที่น่างงใจกว่าคือไม่มีผู้เล่น “กิเลนผยอง” ตามปราการหลังร่างใหญ่ไป ทุกคนยืนขาตายหมด

ประตูที่สอง คือช็อตที่ไม่คิดฝันว่าจะได้เห็นในฟุตบอลอาชีพ การจ่ายคืนหลังแบบมือสมัครเล่นของ เซลิโอ แทบทำให้ลืมภาพกำแพงใหญ่ที่เคยผ่านประสบการณ์ลูกหนังในเคลีกมา

ประตูที่สาม ยิ่งตกย้ำให้เห็นสภาพเกมรับของ เมืองทองที่โดนปู้ยี้ปู้ยำอย่างไม่มีชิ้นดี มิดฟิลด์สองคนอย่าง สารัช กับ ทศวรรษ ปล่อยให้ โชนาตาน เฮส ลากเข้าไปกระหน่ำตีนง่ายๆ ไร้คนยื้อหยุดฉุดรั้ง แบบที่ไม่ต้องไปตะโกนด่า กัมพล


ประตูที่สี่ แทบไม่ต่างจากภาพร่างประตูแรก จิตปัญญา ครอส โอลาโฮวัช หนีมาเสาสองโหม่งย้อนไปให้ อมร เข้าทำ คำถามคือประตูนี้ทีมมีบทเรียนมาแล้ว และรู้ว่าต้องมาไม้เดิม โอลาโฮวัช วิ่งหนีตัวประกบ สารัช ไปเสาไกลซึ่ง “เจ้าตัง” ได้ตะโกสั่งเพื่อนให้ตาม แต่คนที่ตามประกบแนวรับที่สูงถึง 191 ซม. คือผู้เล่นอย่าง ทศวรรษ และ ประกิต

คำถามคือทีมไม่มีการคุยกันก่อนเลยหรือ ว่าในกรณีดังกล่าวจะให้แข้งคนไหนรับมือหรือตามประกบ ยิ่งรู้กันอยู่ว่า ประจวบ คือทีมที่เล่นบอลกลางอากาศเป็นหลัก

ประตูที่ 5-6 คือการตอกฝาโลงของเจ้าบ้าน ที่ตอนนั้นสภาพจิตใจของทีมเยือนถูกลักพาหมดแล้ว โดยเฉพาะลูกตั้งเตะที่เสีย สาบานว่าแทบไม่มีแนวรับ เมืองทอง กระโดดขึ้นแย่งกับผู้เล่นเจ้าบ้านเลย

สภาพจิตใจถูกทำลายไปหมดสิ้น!


แหงล่ะคนที่สมควรรับผิดชอบมากที่สุดต้องเป็น ธชตวัน ศรีปาน

การประกาศเปิดหมวกลาหลังเกมทันที คือความรับผิดชอบที่เจ้าตัวรู้ในสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ แต่นั่นหาใช่ความผิด “โค้ชแบน” แค่คนเดียว

บรรดาผู้บริหารเองรู้เต็มอก การปล่อย 4 แข้งหลักไปตะบันความฝัน รวมถึงเพลย์เมกเกอร์แดนกลางอย่าง อี โฮ ถูกแทนที่ด้วยนักเตะที่สมน้ำสมเนื้อหรือไม่ เมื่อหา “ตัวแทน” ไม่ได้ ผลลัพธ์ที่เกิดในนัดล่าสุด รวมถึงนัดอื่นๆที่ผ่านมาย่อม “มีส่วน”

ผลการแข่งขันที่สามอ่าว สเตเดียม คือตัวเลขที่เลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังกิเลน นับตั้งแต่ลืมตาบนลีกสูงสุด ทำลายสถิติที่ทีมแพ้ โอสถสภา 1-5 เมื่อ 7 ปีก่อนลงราบคาบ

ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับ “โค้ชไทย” หลายสโมสรคือการไม่ได้ทำทีมแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อบอร์ดบริหารพร้อมเข้ามา “มีเอี่ยว” ด้วยเสมอ ไม่มากก็น้อย ทั้งการเลือกวัตถุดิบลูกหนังเองก่อนโค้ช บางรายโค้ชไม่อยากได้ แต่ผู้บริหารอยากได้!

ทว่าวันที่ประกาศลา ธชตวัน ไม่นำสิ่งเหล่านี้มาเป็น “ข้ออ้าง”

เมื่อไม่ดีพอก็พร้อมก้อมหน้ายอมรับและปล่อยให้เป็นไป นี่คือคุณสมบัติที่กุนซือควรมี และวันนี้ “โค้ชแบน” ทำให้เห็น

เพราะชีวิตยังต้องเดินต่อ โลกฟุตบอลเองต้องขับเคลื่อนเช่นกัน หกล้มไปบ้างก็ช่างแม่ง กลับมาลุกเดินอีกครั้งก็พอ

มั่นคงไว้ดังเช่นตะวัน...

 

 

 

 

 

 

 

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด