โธมัส ทูเคิ่ล เตรียมกลับมาบัญชาการข้างสนามอีกครั้งในเกมเปิดตัวฐานะเทรนเนอร์ใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งจะเปิดสังเวียน อัลลีอันซ์ อาเรน่า รับการมาเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนมาจากทีมเสือเหลืองในวันเสาร์นี้ 

ทูเคิ่ล อดีตนายใหญ่ของ ไมนซ์, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เชลซี วัย 49 ปี เข้ามาสืบทอดตำแหน่งบอสทีมเสือใต้ต่อจาก ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เขาแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการนำทัพเสือใต้ลงเผชิญหน้ากับอีกหนึ่งทีมเก่าในศึก 'แดร์ คลาสซิเคอร์'

'ไม่มีความท้าทายใดๆที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการเริ่มต้นเวลาของผมที่นี่ด้วยเกมกับ ดอร์ทมุนด์' ทูเคิ่ล กล่าว 'มันเป็นเกมยิ่งใหญ่ที่สุดในฟุตบอลเยอรมัน และมีองค์ประกอบเพิ่มเติมเข้ามาจากสถานะปัจจุบันของตารางคะแนน'

ปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค ตกมาอยู่อันดับ 2 โดยตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพียงแต้มเดียว หลังทีมเสือเหลืองของ เอดิน แทร์ซิช ทำผลงานตั้งแต่เริ่มต้นศักราช 2023 อย่างยอดเยี่ยม ทำสถิติชนะ 9 เสมอ 1 จากการลงเล่น 10 เกม ขยับจากการตามหลังทีมเสือใต้ 9 คะแนนจนแซงขึ้นนำจ่าฝูงลีกเมืองเบียร์

'โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม (แต่) นั่นจะไม่หยุดยั้งเราจากการเข้าสู่ความท้าทายด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง' เทรนเนอร์วัย 49 ปี อธิบาย

'มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเฮดโค้ชออกไป (แต่) วิธีเร็วที่สุดในการได้รับความไว้วางใจคือการไปที่สนาม (ฝึกซ้อม) โดยตรง' ทูเคิ่ล กล่าวเสริม 'ท้ายที่สุด มันช่วยให้ทุกคนได้ลงสนามเพื่อสร้างความคาดหวังสำหรับคืนวันเสาร์ มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราทุกคน มันเป็นเรื่องของการสร้างความมั่นใจและการรอคอย'

ความคาดหวังจะทำให้แฟนๆทั่วโลกมีความกระตือรือร้นที่จะได้เห็นแนวทางที่ ทูเคิ่ล นำความรู้ด้านการฝึกสอนของเขาไปใช้ในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่สุดรายการหนึ่งของโลกลูกหนัง 

ทูเคิ่ล ซึ่งเคยคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในซีซั่น 2016-2017 ตกลงเซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค เจ้าของสถิติแชมป์บุนเดสลีกาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และมันเกิดขึ้นหลังจากการประสบความสำเร็จในฝรั่งเศสและอังกฤษ แม้ว่าจะลงเอยด้วยการถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เชลซี ปลดออกจากตำแหน่งก็ตาม

'เมื่อคุณทำงานในต่างประเทศมาระยะหนึ่ง คุณจะยิ่งตระหนักถึงความสำคัญของ เอฟซี บาเยิร์น' ทูเคิ่ล อธิบาย 'บาเยิร์น เป็นเรื่องของชัยชนะ และแนวทางของการชนะด้วยดีเอ็นเอของสโมสรคือความมุ่งมั่น ทีมนี้เป็นหนึ่งในทีมที่มีพรสวรรค์และดีที่สุดในยุโรป (และ) ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ (ทีมนี้) คุณเป็นคู่แข่งของทุกถ้วยรางวัลกับนักเตะเหล่านี้' 

ทูเคิ่ล ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับการประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกกับ เชลซี ในซีซั่น 2020-2021 และชัยชนะในรายการ เดเอฟเบ โพคาล กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขายังคว้าแชมป์ ลีก เอิง 2 สมัยกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมถึงการนำ เปแอสเช ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2020 ก่อนจะปราชัยต่อ บาเยิร์น มิวนิค ของ ฮันซี่ ฟลิค

เทรนเนอร์วัย 49 ปี ยังคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในช่วงเวลาของเขาที่ลอนดอน ซึ่งเขาได้รับเลือกให้เป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย

'ไม่จำเป็นต้องพูดถึงคุณสมบัติของเขา มันน่าประทับใจ' โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวถึง ทูเคิ่ล 'อาชีพของเขายังเป็นข้อพิสูจน์ถึงเรื่องนั้น การคุมทีมอย่าง เปแอสเช ไม่ใช่งานง่าย เขานำพวกเขาไปสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก'

'เขายังประสบความสำเร็จอย่างมากที่ เชลซี ตั้งแต่วันแรก มันเป็นความน่าประทับใจ มีพัฒนาการส่วนบุคคลที่แท้จริงอยู่เบื้องหลัง นั่นเป็นเหตุผลที่เรามีความสุขมากที่ตอนนี้ โธมัส ทูเคิ่ล เป็นโค้ชของเรา' 

บาเยิร์น มิวนิค ยังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ 3 รายการในซีซั่นนี้ ท่ามกลางตารางแข่งขันที่อัดแน่นหลังผ่านพ้นช่วงเบรคทีมชาติรอบเดือนมีนาคม หลังผ่านเกม 'แดร์ คลาสซิเคอร์' ในวันเสาร์นี้ ทีมเสือใต้จะเผชิญหน้าสองเกมยากกับ ไฟร์บวร์ก ทั้งในรายการ เดเอฟเบ โพคาล ต่อด้วยเกมบุนเดสลีกา

จากนั้น ทูเคิ่ล จะนำทีมดังแคว้นบาวาเรียยกพลเยือน แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก ในวันอังคารที่ 11 เมษายนนี้ 

'เราต้องต่อยอดจากตำแหน่งตัวจริงที่ ยูเลียน (นาเกลส์มันน์) ได้สร้างไว้กับทีม เรามีโอกาสที่จะคว้าโทรฟี่ในการแข่งขันทั้ง 3 รายการ' ทูเคิ่ล กล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของทีมเสือใต้ 

'แน่นอนว่ามีความเสี่ยง แต่เราชอบความกดดันและความเครียด ความรักของผมที่มีต่อเกมนั้นยิ่งใหญ่กว่าความกังวลใดๆ ผมมีความคิดในสิ่งที่สามารถทำได้และความคาดหวังมากมาย มันเกี่ยวกับการเล่นเพื่อถ้วยรางวัลทั้งหมด' 

ตามรายงานจาก สกาย เยอรมนี เปิดเผยเพิ่มเติมว่าการทำข้อตกลง 2 ปีครึ่งกับ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ ทูเคิ่ล รับค่าจ้างสูงถึงปีละ 10.5 ล้านปอนด์ มากกว่าค่าเหนื่อยของ นาเกลส์มันน์ ที่รับจากทีมเสือใต้ปีละ 6.2 ล้านปอนด์ 

อย่างไรก็ตามเงินจำนวนดังกล่าวยังน้อยกว่าค่าชดเชยที่ เชลซี จ่ายให้ ทูเคิ่ล ตอนปลดเทรนเนอร์ชาวเยอรมันออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังมีรายงานว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ ต้องจ่ายเงินก้อนโตถึง 13 ล้านปอนด์สำหรับการปลดเทรนเนอร์วัย 49 ปีออกจากตำแหน่ง

แน่นอนว่าการเริ่มต้นใหม่ของ ทูเคิ่ล กับ บาเยิร์น มิวนิค ต่างฝ่ายต่างคาดหวังถึงการประสบความสำเร็จร่วมกันในอนาคต ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าพวกเขาจะสมหวังหรือไม่เท่านั้น