อาจด้วยแหล่งกบดานอยู่ใกล้รังของ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ทำให้เมื่อมีเวลาเอื้อให้ ฉันจะพาตัวเองไปนั่งชมฟุตบอลบ้างเป็นระยะ
การกระเด็นคืนสู่ลีกสุงสุดอีกครั้งไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เมื่อผลงานภาพรวมต่างๆที่ “สะสม” ไว้จากชายชื่อ สะสม พบประเสริฐ ดีพอเกินกว่าจะจ้ำอ้าวในลีกพระรอง
เพียงแต่ “ช่องว่าง” ระหว่างไทยลีก 2 และ 1 มีระยะห่างอยู่หลายช่วงตัว ทั้งในแง่วัตถุดิบลูกหนัง เม็ดเงินลงทุน ยิ่งรวมกับการแข่งขันที่เดือดกว่าฤดูกาลไหนในซีซั่นนี้ หลังต้องมีสโมสรโบกมือลาลีกสูงสุดถึง 5 ทีม
ยี่ห้อของ “โค้ชเตี้ย” ถือเป็นแบรนด์ลูกหนังที่แข็งแกร่งพอสำหรับผลงานที่ผ่านมา ในการเป็นนัดอาสาพาทีม “หนีตกชั้น” หรือคว้าแชมป์ก็ยังเคยมาแล้ว
แต่อย่างที่บอกไป เมื่อการแข่งขันสูงกว่าเดิมเท่าตัว การขยับหาทรัพยากรที่ให้ผลลัพธ์ตามต้องการคือสิ่งจำเป็นในการอยู่รอด ทว่าตัวเลข 48 ล้าน ที่ “อินทรีทัพฟ้า” หว่านลงไป มาพร้อมคำถามว่า “เพียงพอหรือไม่” สำหรับภารกิจที่ “ต้องรอด”
5 เกมล่วงผ่านบนลีกสูงสุด อาจตอบไม่ได้ว่าเร็วไปในการตัดสิน แต่นั่นเริ่มเห็นโครงร่างของบรรดา “กลุ่มลุ้นแชมป์” และทีมที่หนีตายในฤดูกาลนี้แบบพอสังเขป
แหงล่ะ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล อยู่ในกลุ่มหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
5 นัด 1 คะแนน รั้งอันดับสุดท้าย ตัวเลขบนตารางสะท้อนผ่านคำพูดในใจว่า “ไหวไหม” พี่เตี้ย ?
ใช่ … เมื่อมองที่ผลลัพธ์แบบเพียว แฟนทัพฟ้าอาจอยากเบือนหน้าหนี แต่เมื่อเจาะรายละเอียดรูปเกมลงไป หลายนัดลูกทีม สะสม สู้ได้ดีระดับหนึ่งไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย
เพียงแต่ศักยภาพผู้เล่น (ที่อุดมไปด้วยของไม่ได้ใช้จากทีมอื่น) และความผิดพลาดเล็กน้อยในเกม ยังคือบันไดที่ทำให้ทีมเป็นรองคู่ต่อสู้ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ค่อยๆถีบตัวขึ้นมาดีขึ้นเรื่อยๆ หากชมเกมล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้านเสมอ ชัยนาท ฮอร์นบิล
สิ่งที่พออ้างอิงได้คือตัวเลขเกมรับ แอร์ฟอร์ซ เสียไปเพียง 9 ประตูเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า เอสซีจี เมืองทอง, ทรู แบงค็อกฯ หรือ กระทั่งเฟรชชี่ห้าวเป้งอย่าง พีที ประจวบ ที่โดนกระซวกประตูไป 10 ลูกบวก
ยังเป็นเรื่องที่พอหวังได้บ้างว่า ทีมจะพบกับชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลในเร็ววัน
ที่ยังต้องแก้ไขอาจเป็นรายละเอียดในแนวรุกที่ 3 ต่างชาติอย่าง เลอันโดร อัสซัมเซา, เรนาน มาร์เกวส และ เจย์ซี จอห์น ต้องจูนกันให้ลงตัวกว่านี้ เพราะทั้งสามถือเป็น “มือปืน” ระดับฉมังในปีที่ผ่านมา หากลงล็อกเมื่อไหร่ น่าจะสร้างจุดเปลี่ยนให้ทีมได้อย่างมาก
สำคัญและคาดไม่ได้คือ “ผู้เล่นคนที่ 12” พวกคุณเปรียบเสมือน “ลมใต้ปีก” ให้บรรดานักฟุตบอลทุกคนและสตาฟฟ์โค้ชในสนาม
คนกลุ่มนี้เคยเสกรอยยิ้มเปื้อนหน้า ให้อินทรีทัฟฟ้าในซีซั่นที่ผ่านมา ปีนี้เริ่มต้นอาจประเดิมด้วยฉากเศร้า จากผลการแข่งขัน แต่เชื่อเถอะว่ากลุ่มคนเหล่านี้พร้อมลงไปบู๊ทุกวิถีทาง ทำทุกอย่าง เพื่อให้รอยยิ้มของผู้เล่นคนที่ 12 กลับมาอีกครั้ง
“ชัยชนะนั้นรอพวกเราอยู่ บุกตะลุยไม่เกรงผู้ใด
อินทรีทัพฟ้า พวกเรานั้นมาเพื่อความยิ่งใหญ่
บุกเข้าไป แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด”
อยู่เป็น “ลมใต้ปีก” ให้อินทรีตัวนี้กัดฟันฮึดสู้อีกเฮือกก่อนเนอะ
