:::     :::

มืออาชีพ

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
5,737
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตามความเป็นไปในโลกนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่อยากเป็นเบอร์ 2 ของใครทั้งนั้น

ความต้องการที่ติดตัวมาใน 'ยีนส์' ของมนุษย์คือการแย่งชิงความเป็นเบอร์ 1 ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม 

เรื่องเรียน, เรื่องงาน, ความรัก หรือ กีฬา

การแก่งแย่งชิงชัยมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตกาลลากยาวมาถึงปัจจุบัน

แต่การแก่งแย่งในเชิงกีฬา บางครั้งก็มีเรื่องของน้ำใจและการยอมรับความเป็นไปที่เกิดขึ้น

บ่อยครั้งที่พยายามมากเพียงใดแต่ยังมีกลุ่มคนที่เหนือกว่าซึ่งถือเป็นกำแพงเสริมเหล็กกล้าขวางกั้นอยู่ตรงหน้า

ยกเว้นพวกที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ผนึกกำลังกับพรแสวงที่เดินหน้าก้าวข้ามผ่านจุดนั้นไปได้

ในเกมฟุตบอลก็ไม่ต่างกันแต่ละเกมนักเตะสามารถลงสนามเป็นตัวจริงได้เพียง 11 คน แต่ด้วยจำนวนนักเตะในทีมที่มีมากกว่ายิ่งต้องเกิดการแก่งแย่งกันขึ้นมา

อย่างไรก็ตามการแย่งชิงตำแหน่งในเกมฟุตบอลถือเป็นเรื่องดีของสโมสร และ ผู้จัดการทีม เพราะมันแสดงให้เห็นว่านักเตะมีไฟที่อยากลงสนาม และหมายถึงขนาดของทีมที่สูสีมีให้เลือกใช้งานมากมาย

การแข่งขันจุดนี้ยังเป็นตัวช่วยพัฒนาและปลุกพลังงานของนักเตะให้ทำงานอย่างหนัก ไม่เอื่อยเฉื่อยหรือชะล่าใจ เพราะหากเป็นเช่นนั้น นักเตะคนดังกล่าวก็อาจจะหลุดตำแหน่งไปในที่สุด

การแข่งขันที่ว่าดุเดือดมากขึ้นในฟุตบอลยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะบรรดาทีมใหญ่ที่กว้านซื้อและดึงนักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีม เพื่อให้นักเตะเหล่านั้นแย่งกันแสดงผลงาน

หนึ่งในตำแหน่งที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาแต่แท้จริงแล้วการแข่งขันสูงไม่แพ้กันนั่นคือ 'ผู้รักษาประตู'


เอาแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้มี ดาบิด เด เคอา เป็นมือ 1 หากใครก้าวเข้ามาเป็นลำดับสองของนายด่านญาติวานรบินรายนี้คงท้อแท้ใจไม่น้อย เพราะ เด เคอา ทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดทุกสัปดาห์ มีน้อยมากที่เขาจะพลาดออกมาให้เห็น

แต่ไม่ใช่สำหรับ ... เซร์คิโอ โรเมโร่

ศักดิ์และศรีของ โรเมโร่ วัย 31 ปี ไม่ด้อยไปกว่ากัน ประสบการณ์โชกโชนทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ฝีไม้ลายมือก็ถือว่าไม่ได้ด้อยไปกว่า เด เคอา 

อย่างไรก็ตาม โรเมโร่ ก็เป็นได้เพียงตัวเลือกรองลงมาของ เด เคอา ทว่าเขากลับพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้

แฟนบอลปิศาจแดงคงทราบข่าวเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีรายงานว่า ผู้รักษาประตูทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี 2007 ต้องการย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด (แม้ว่าเพิ่งขยายสัญญาถึงปี 2021 ก็ตาม)

เป็นแหล่งข่าวจาก มิเกล เดลานี่ย์ ผู้สื่อข่าวของ อินดีเพนเดนท์ ที่ระบุว่า โรเมโร่ กำลังมองหาสโมสรใหม่เพื่อโอกาสลงสนามและรักษาตำแหน่งในทีมชาติอาร์เจนติน่า

"เซร์คิโอ ได้รับข้อเสนอจากทีมใน พรีเมียร์ลีก, อาร์เจนติน่า และ สเปน เขาทราบดีว่าเขาต้องการลงเล่นและต้องการให้คนใน แมนเชสเตอร์ ตระหนักเอาไว้ด้วย"

แน่นอน มันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะกลางปีนี้มีฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย รออยู่ และทุกคนที่มีโอกาสก็อยากไปโชว์ตัวที่นั่น

กระแสข่าวแรงมาเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ว่า โบคา จูเนียร์ ทีมดังในบ้านเกิดของ โรเมโร่ ติดต่อมา แต่นักเตะยังคงยึดมั่นกับการทำหน้าที่ในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด

"ลำดับความสำคัญของผมคือการพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์, ในทิศทางที่ดีทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ เพราะไม่เพียงแค่ผมจะสู้เพื่อหลายสิ่งให้กับสโมสร แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อทีมชาติอีกด้วย ดังนั้นผมเป็นคนพร้อมเสมอที่จะทำผลงานให้ออกมาดี"

"ในความเป็นจริงคือการที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ให้ผมลงเล่นใน ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นที่เขามีให้แก่ผม"

"ผมไม่เคยปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป ผมทำงานหนักอยู่เสมอเพื่อให้พร้อมเมื่อโอกาสมาถึง"


นั่นคือคำให้การก่อนเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เขาลงเฝ้าเสาและช่วยให้ ปิศาจแดง เอาชนะไปได้ 2-0 พร้อมกับตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศ

พร้อมกันนี้ โรเมโร่ ยังคงย้ำอย่างชัดเจนก่อนเกมกระชับมิตรนัดล่าสุดที่ อาร์เจนติน่า เอาชนะ อิตาลี 2-0 ว่าตนเองยังคงไม่หนีจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปไหนแน่นอน แม้ว่าเกมทีมชาตินัดที่ผ่านมาจะเป็นเพียงคนดูข้างสนาม

ไม่มีความกังวลใจในตำแหน่งของ โรเมโร่ สิ่งที่เขากังวลมีเพียงการทำงานให้ออกมาดี และพร้อมอยู่เสมอ พร้อมเมื่อโอกาสมาถึง, พร้อมเมื่อถูกใช้งาน และพร้อมเมื่อทีมต้องการ

เขาทราบดีว่าในสโมสร ตนเองอาจจะไม่ได้ลงสนามในทุกๆสัปดาห์ แต่สิ่งที่เขารู้ดีกว่านั้นคือการทำงานอย่างหนักภายใต้การดูแลของ โชเซ่ มูรินโญ่ และทีมงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คอยกระตุ้นให้เขายังคงรักษาความเป็นมืออาชีพต่อไป

นี่อาจจะเป็นจุดแข็งและสิ่งที่แสดงออกมาตลอดการค้าแข้งของ โรเมโร่ เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับโอกาส ผลงานที่ดีก็จะถูกส่งต่อออกมาในสนามอยู่เสมอ

"ผมเคยพูดไปว่าผมไม่ค่อยสนใจสถิติส่วนตัวเท่าไหร่ เพราะผมไม่ค่อยได้มองมันมากนัก"

"แต่ ... มันก็ดีนะที่ได้ฟังว่าผมเสียไปกี่ประตูตอนที่ผมลงสนามหรือผมไม่เสียประตูไปกี่นัด"

"สิ่งที่ผมกังวลมากกว่าคือการทำงานและทำในสิ่งที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ผมพยายามทำในสิ่งที่ผมทำได้ ไม่ว่าจะอยู่ทั้งในและนอกสนาม"


"ผมพยายามช่วยและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ด้วยการทำให้ตนเองพร้อม ถ้าหากผมมีโอกาสและสามารถทำให้ทีมไม่เสียประตู นั่นคือสิ่งที่ดีกว่า มันเป็นพลังงานและเชื้อไฟที่ทำให้ผมทำงานต่อไป มันคือสิ่งที่ผมดำเนินต่อไปให้สำเร็จ ในสัปดาห์หลังจากนั้น หรือหลังจากวันนั้นต่อไป"

"ผมทราบดีว่าผมไม่ได้ลงเล่นในทุกสัปดาห์ แต่ผมพยายามทำให้ตนเองอยู่ในรูปทรงที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อแสดงให้ผู้จัดการทีมที่นี่และทีมชาติได้เห็นว่าชายที่ชื่อ เซร์คิโอ โรเมโร่ อยู่ในสภาพทีมที่ดี"

บางครั้งไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางในวันข้างหน้าจะทอดยาวออกไปในทิศทางใด ซึ่งบางคนเลือกที่จะไม่ใส่ใจ พวกเขาเพียงแค่ลุกขึ้นและทำในสิ่งที่ตนเองทำได้

นั่นคือ ... ทำงานของตนเองให้ออกมาดีและสักวันโอกาสจะมาถึง

สำหรับ เซร์คิโอ โรเมโร่ เขาได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ แม้สถานการณ์ในทีมชาติของเขาอาจจะหลุดจากมือ 1 เช่นกัน แต่นักเตะยังคงทำงานอย่างมุ่งมั่น

สำหรับแฟนบอลปิศาจแดง ก็หวังว่า โรเมโร่ จะมีชื่อลุยฟุตบอล และที่สำคัญคือการเป็นมือ 1 ทีมชาติอาร์เจนติน่าในภารกิจไล่ล่าแชมป์โลกที่พวกเขารอคอยมานานหลายสิบปี



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด