ผู้รักษาประตู 

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 6/10

3 ลูกที่เสียไปไม่สามารถกล่าวโทษอะไรกับ "ตอง" ได้เลย เพราะต่อให้เป็นผู้รักษาประตูระดับโลกก็คงไม่มีทางป้องกันลูกยิงที่ทั้งจ่อและเฉียบขาดแบบนั้น แม้จะเสียถึง 3 ประตูแต่เอาจริงๆ แล้วโอกาสที่ "ตอง" ต้องออกแรงป้องกันแทบไม่มีให้เห็น เพราะ สโลวาเกีย ยิงเป็นเข้าจริงๆ ในส่วนประกอบอื่นๆ ที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูมีหน้าที่รับผิดชอบ "ตอง" ไม่ได้มีอะไรผิดพลาด นัดนี้ไม่ใช่เกมที่เลวร้ายสำหรับนายด่าน โอเอช ลูเวิน แต่เป็นผลการแข่งขันต่างหากที่เลวร้ายเกินไปสำหรับเขา

เซนเตอร์ฮาล์ฟ 

พรรษา เหมวิบูลย์ คะแนน 8/10

"โย่ง" รักษามาตรฐานได้ดีเช่นเคยในการประสานงานกับ เฉลิมพงษ์ ทั้งบอลกลางอากาศที่ต้องรับมือกับ อดัม เนเม็ช หัวหอกจ้าวเวหา การอ่านเกมต่างๆ ก็อยู่ในระดับที่ดี จะมีส่วนพลาดอยู่บ้างแต่ก็โทษเขาไม่ได้โดยตรงคือลูกที่ 2 ที่พยายามสกัดลูกยิงของ โรเบิร์ต มัค ทว่าแหย่เท้ากวาดบอลทิ้งไม่ทัน แต่ก็แก้ตัวได้ด้วยการทำประตูไล่จี้ 2-3 เป็นประตูแรกในการรับใช้ทีมชาติ ชั่วโมงนี้ "โย่ง" พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้น นอกจากจะรับผิดชอบเกมรับได้ดีแล้ว ในเกมรุกก็ช่วยกดดันกองหลังได้มากในจังหวะเซ็ตเพลย์ ดูแล้วเป็นกองหลังที่น่าจะพัฒนาเรื่องการทำประตูได้เหมือนกับลูกพี่ในทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง อันเดรส ตูเนซ 

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว คะแนน 7/10 

เข้าบอลได้เด็ดขาด และออกบอลจากแนวรับได้ดีตามมาตรฐาน อาจจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างเช่นกันในการประกบตัวกองหน้าคู่ต่อสู้ในจังหวะเข้าฮอร์ส โดยเฉพาะลูกแรกที่ถูก ออนเดรย์ ดูด้า สอดขึ้นมายิง แต่ผลงานโดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่มีอะไรเสียหาย ยังคงเป็นกองหลังที่ไว้วางใจได้สำหรับทีม "ช้างศึก" ทั้งฝีเท้าและคาแร็คเตอร์ที่คู่ต่อสู้ไม่มีทางผ่านเขาไปได้ง่ายๆ 

แบ็กซ้าย

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา คะแนน 5/10

เกมนี้ พีระพัฒน์ เล่นเหมือนไม่เข้าใจจ๊อบของตัวเอง ในเกมรับมีส่วนรับผิดชอบไปเต็มๆ กับลูก 0-2 ในจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พยายามไล่เพรสเพื่อดีเลย์เกมรุกของ สโลวาเกีย บริเวณริมเส้นอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พอบอลหลุดออกมาได้ "เจ้าบาส" กลับไม่ขึ้นมาช่วยบีบผู้เล่นที่ว่างอยู่ จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเสียประตู ซึ่งจังหวะนี้ "เจ้านิว" ถึงขั้นหัวเสียเลยทีเดียว ในขณะที่เกมรุก "บาส" ช่วยเหลือทีมได้น้อยมากในการเติมขึ้นมาทางริมเส้น ไม่ว่าการจ่ายบอลสั้น, ลูกครอส หรือการพาบอลขึ้นไปเอง เรียกได้ว่าบอลมาตายที่ "บาส" บ่อยจนสังเกตได้ว่าบางครั้งเพื่อนร่วมทีมต้องเบนไปมองหาทางเลือกอื่นแทน

แบ็กขวา  

ฟิลิป โรลเลอร์ คะแนน 5/10

ไม่อยากจะโทษ ฟิลิป เท่าไหร่เพราะจะไปหวังอะไรมากกับการที่อดีตผู้เล่นตัวสำรองระดับลีกา2 ออสเตรีย ต้องรับมือกับผู้เล่นระดับตัวจริงของบุนเดสลีกา เยอรมัน และ ลา ลีกา สเปน นอกเหนือจากประตูแรกที่เสียท่า โรเบิร์ต มัค ที่ลากบอลไปได้จนถึงสุดเส้นหลัง ยังมีอีกหลายจังหวะที่เห็นได้ชัดว่า สโลวาเกีย พยายามจะเจาะทางแบ็กขวาของทีมไทยครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งส่วนใหญ่ก็สัมฤทธิ์ผลซะด้วย เป็นคำตอบได้เลยว่าถ้าเจอกับทีมที่มีปีกศักยภาพสูงแบบนี้ ตำแหน่งวิงแบ็คของไทยทั้งซ้ายและขวา จะต้องอัพเลเวลยิ่งกว่านี้อีกมาก

กองกลาง 

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ คะแนน 8/10

ครบเครื่องจริงๆ สำหรับการรับใช้ทีมชาติของ "เจ้านิว" ต่างจากผลงานในสโมสรกับ บางกอกกล๊าส โดยสิ้นเชิง นัดนี้ไม่ว่าบอลจะอยู่ในพื้นที่ตรงไหนของสนาม จะเห็น ฐิติพันธ์ อยู่แถวนั้นเสมอไม่ว่าเกมรุกหรือรับ อีกทั้งช่วยสกัดบอลในจังหวะถูกโต้กลับได้หลายครั้ง ไม่เช่นนั้นไทยอาจโดนยิงขาดมากกว่านี้ ส่วนการเชื่อมเกมตรงการในการประสานงานกับ ชนาธิป, ธีราทร, จักรพันธ์ หรือ ธีรศิลป์ ก็ทำได้อย่างเนียนตา จนมีความรู้สึกว่าถ้าเล่นดีขนาดนี้น่าจะผลักดัน "นิว" ให้ไปลุยลีกที่แข็งแกร่งกว่าไทยลีกได้แล้ว  

จักรพันธ์ แก้วพรม คะแนน 7/10 

เป็นนักเตะที่รับบทบาทผู้ปิดทองหลังพระตัวจริงเสียงจริง แม้อาจจะไม่ถูกผู้บรรยายขานชื่อบ่อยนัก แต่นอกจากประตูตีไข่แตกที่แปเข้าไปโล่งๆ แล้ว การต่อบอลตามช่องและจังหวะโฮลด์บอล "เจ้าโน๊ต" ก็ทำได้ดีมากในระดับนึง แต่ช่วงครึ่งหลังดูเหมือนจะมีแผ่วไปบ้างอาจเพราะต้องกรำศึกหนักให้ บุรีรัมย์ ในปีนี้ที่ไม่มี โก ซึลกี คอยแบ่งเบาภาระในแดนกลาง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่า จักรพันธ์ เป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพ ซึ่งทีมชาติไทยของ มิโลวาน ราเยวัช คงต้องเลือกใช้บริการเขาต่อไปแน่นอน

มงคล ทศไกร คะแนน 6/10 

วิ่งเป็นม้าเหมือนเดิมสำหรับ "จ่าเย็น" การเคลื่อนที่หาช่องเวลาไม่มีบอลคือจุดเด่นที่ยังมองไม่เห็นใครในประเทศไทยทำได้ดีกว่าเขาเลย แต่ปัญหาก็คือจังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบขาดเท่าที่ควร สิ่งที่ทดแทนได้และต้องชื่นชมด้วยซ้ำก็ถือการเล่นเกมรับในการลงไปช่วยซ้อน ฟิลิป โรลเลอร์ หลายๆ จังหวะ แม้นัดนี้จะลงเล่นทั้งที่อาการบาดเจ็บที่เท้ายังไม่หายดี แต่ก็ยังกัดฟันสู้สุดชีวิตจนกระทั่งถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลัง 

ธีราทร บุญมาทัน คะแนน 6/10 

มั่นใจเลยว่าการนั่งสำรองให้ วิสเซิล โกเบ ในศึกเจลีก มีผลแน่นอนทั้งต่อความมั่นใจและน้ำหนักที่ผิดเพี้ยนไปในการเปิดบอล แทบจะเป็น "อุ้ม" คนละคนกับตอนก่อนไปญี่ปุ่น หรืออาจเพราะไม่ใช่ตำแหน่งถนัด ทำให้ "อุ้ม" ออกบอลเสียเยอะมาก บางครั้งก็ดูเหมือนคิดช้าทำช้าเกินไปจนเกือบถูกฉกบอลจากเท้าหลายต่อหลายครั้ง แต่พอช่วงครึ่งหลังที่กลับไปยืนริมเส้นด้านซ้าย ก็กลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ราเยวัช อาจจะต้องกลับมาทบทวนดูใหม่ว่า "อุ้ม" เหมาะที่จะเล่นกองกลางมากกว่าแบ็กซ้ายจริงหรือ

ชนาธิป สรงกระสินธุ์ คะแนน 9/10

ถ้าจะให้บรรยายสรรพคุณของ ชนาธิป ในเกมนี้แบบสั้นๆ ก็คงพูดได้แค่ว่า "โคตรเก่ง" คลาสบอลของ "ชนาคุง" พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหลังกลับมาจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร เอาชนะกองหลังและกองกลางของคู่ต่อสู้ได้สวยๆ หลายครั้งทั้งที่มีข้อจำกัดเรื่องรูปร่างที่ตัวเล็กกว่ามาก จนบางครั้งผู้เล่นของสโลวาเกีย ถึงกับต้องยอมดึงยอมทำฟาวล์เพื่อตัดเกมเสียก่อน แม้แต่ แจน โคซัค กุนซือของสโลวาเกีย ก็ยังเอ่ยปากชมว่า "เจ" ฝีเท้าดีมากและน่าจะมีอนาคตยาวไกลในเส้นทางอาชีพ นัดนี้คือเกมที่ "เจ" พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาคือผู้เล่นระดับท็อปคลาสที่ควรคู่แก่การเล่นใน เจลีก หรืออาจจะเป็นระดับลีกยุโรปด้วยซ้ำไปในอนาคต

กองหน้า

ธีรศิลป์ แดงดา คะแนน 7/10

ยากจริงๆ กับการยืนกองหน้าตัวเป้าคนเดียวแล้วต้องไปชนกับ มาร์ติน สเคอร์เทล หรือ มิลาน ชกรีเนียร์ จนจำเป็นต้องถอยลงมาล้วงบอลต่ำเพื่อมีส่วนร่วมกับเกม ซึ่งถ้ามองจากมาตรฐานคู่ต่อสู้ ก็ถือว่า "มุ้ย" ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาคือพอเข้าถึงระยะอันตราย ความแข็งแกร่งของ "มุ้ย" เป็นรองกองหลังไซส์ฝรั่ง และในหลายๆ ครั้งการตัดสินใจดูจะช้าเกินไป ครึ่งแรกบอลไปถึง "มุ้ย" ไม่บ่อยนัก แต่ครึ่งหลังพอถอยลงมายืนต่ำถึงค่อยดูดีขึ้น ในอนาคตถ้าหากองหน้ามาจับคู่แล้วให้มุ้ยลงมายืนหน้าต่ำ อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับการใช้งาน "ธีรศิลป์ ก็เป็นได้

ตัวสำรอง 

บดินทร์ ผาลา คะแนน 5/10

ได้ลงมาเล่นแทน มงคล ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ดูเหมือนจะยังขาดๆ เกินๆ ทั้งในจังหวะครอสบอลด้านข้าง หรือการพยายามยิงไกลที่ยิงออกไปไกลจริงๆ "โดม" เป็นผู้เล่นที่มีทักษะดีด้วยดีกรีเคยเป็นอดีตนักฟุตซอลของการท่าเรือมาก่อน แต่สำหรับเกมในระดับสูงเช่นนี้ "โดม" อาจจะต้องเพิ่มเรื่องการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้น ว่าจังหวะไหนควรใช้วิธีใดในการโจมตีคู่ต่อสุ้

นูรูล ศรียานเก็ม คะแนน 5/10 

ได้ลงเล่นตั้งแต่นาที 63 แต่นัดนี้นอกเหนือจากความเร็วที่เป็นจุดเด่นแล้ว ทักษะอื่นถือว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งการเปิดบอลหรือประสานงานกับเพื่อน และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการช่วยเกมรับ เพราะนับตั้งแต่ที่ มงคล ถูกถอดออกไป ภาระในการรับมือเกมรุกริมเส้นฝั่งขวาไปตกอยู่กับ ฟิลิป โรลเลอร์ เต็มๆ เพราะ นูรูล แทบไม่ลงมาช่วยซ้อนเลย แต่อย่างน้อยประตู 2-3 จุดเริ่มต้นก็มาจากการเปิดฟรีคิกของ นูรูล นี่แหละ

สิโรจน์ ฉัตรทอง 5/10

ลงสนามมาในนาที 75 นัดนี้ดูดีขึ้นกว่าเกมกับ กาบอง เพราะใช้จุดเด่นเรื่องความแข็งแรงของตัวเองได้เป็นประโยชน์กับทีมและไม่ถูกคู่แข่งเบียดล้มลงไปง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน หากเพิ่มเรื่องการไปกับบอลและทักษะการจบสกอร์ให้เฉียบคมกว่านี้ได้ล่ะก็ "ปีโป้" จะเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะ

เฮดโค้ช 

มิโรวาน ราเยวัช คะแนน 7/10

เรื่องการเลือกตัวผู้เล่นคงไปว่าอะไร ราเยวัช ไม่ได้ เพราะระยะเวลาการเตรียมทีมแค่ 3 วันเป็นเรื่องปกติที่โค้ชจะใช้ผู้เล่นชุดเดิมเอาไว้ก่อนแทนที่จะเลือกผู้เล่นหน้าใหม่ที่้ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจแนวทางการเล่น แม้จะพาทีมป้องกันแชมป์ได้ไม่สำเร็จ แต่ก็ถือว่า ราเยวัช แก้เกมปรับแท็กติกได้ดีทั้งสองนัด และแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าเขาไม่ได้เก่งแต่เกมรับ ทำเกมรุกก็เป็นเหมือนกัน แต่อาจต้องไปติวเข้มลูกทีมให้หนักกว่านี้โดยเฉพาะรูปแบบการเข้าทำที่เล่นกันหลายจังหวะเกินไป รวมถึงความเข้าใจในเกมรุกที่ยังดูขาดๆ เกินๆ หลังจากนี้คงต้องมองหาผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็ก, ปีก และกองหน้าตัวเป้า เข้ามาเติมเต็มเพื่อลบจุดอ่อนที่อาจทำให้ทีมชาติไทยไปได้ไม่ไกลกว่านี้