ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไปของ แกเร็ธ เบล
แน่นอนว่าทั้งสองคนที่เอ่ยชื่อมาถือว่าโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยืนระยะมายาวนานร่วมทศวรรษ ผลัดกันคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ไปคนละ 5 สมัย ในรอบ 10 ปีหลังตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งดูแล้วในการประกาศรางวัลครั้งต่อไปก็คงหนีไม่พ้นสองคนนี้อีกเช่นเคย
หรือนอกเหนือจากสองคนนี้อาจจะมีชื่อของ เนย์มาร์ สตาร์จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้าของตำแหน่งนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก หรือจะเป็น อองตวน กรีซมันน์ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยมกับ แอตเลติโก มาดริด
น้อยคนนักที่จะคิดถึงชื่อของ แกเร็ธ เบล หรืออาจจะไม่มีใครนึกถึงเลยก็เป็นได้
จากหนุ่มน้อยร่างผอมบางจากคาร์ดิฟฟ์ แต่มาพร้อมความเร็วที่เหลือเชื่อในวัย 14 ปี เบล วิ่งระยะทาง 100 เมตร ด้วยเวลาเพียง 11.4 วินาทีเท่านั้น ไม่แปลกที่จะถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะสายสปีดของโลกลูกหนัง แม้ว่าจะสามารถเล่นได้ทั้งรักบี้และฮ็อกกี้ก็ตาม เพราะเขามีสกิลล์ขั้นเทพในการเล่นฟุตบอลนั่นเอง
เจ้าของตำแหน่งนักเตะที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่ได้ลงเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยวัยเพียง 16 ปีกับ 275 วัน (อันดับแรกคือ ธีโอ วัลค็อตต์ 16 ปี 143 วัน) ก่อนย้ายสู่ สเปอร์ส ด้วยวัยเพียง 18 ปี จากตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวซวยที่ลงสนามทีไรทีมไม่ชนะก้าวสู่สุดยอดปีกซ้ายอันดับหนึ่งของโลกที่บรรดาแบ็คขวาทุกคนต้องขยาดที่เจอ
แม้จะไร้ความสำเร็จในเรื่องของโทรฟี่ที่เป็นรูปธรรม แต่ผลงานส่วนตัวนั้นเตะตายักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปก่อนที่ เรอัล มาดริด ระเบิดคลังเป็นสถิติโลก (ในตอนนั้น) คว้าตัวไปร่วมทีมเพื่อประสานงานกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซม่า
ด้วยน้ำมือการทำทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ยอดกุนซือคนหนึ่งของวงการ แกเร็ธ เบล คือคนสำคัญในทีมราชันชุดขาวและเป็นตัวหลักของทีมเสมอ เจ้าตัวระเบิดผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่ปีแรกในถิ่นซานติแาโก้ เบร์นาเบว ด้วยการซัด 22 ประตูจาก 44 เกมทุกรายการ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่วงด้วยโกปา เดล เรย์ ก่อนต่อยอดด้วยแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลกด้วย
แม้ในปี 2014/15 ทีมจากไร้โทรฟี่ประดับตู้โชว์ แต่ผลงาน 17 ประตูจาก 48 นัดก็ไม่ถือว่าขี้เหร่นัก ก่อนที่ปีถัดมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ คาร์โล อันเชล็อตติ อำลาทีมไป ราฟาเอล เบนีเตซ เข้ามารับหน้าที่ต่อแต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล สุดท้ายก็ต้องไปและเป็น ซีเนดีน ซีดาน อดีตดาวเตะของทีมถูกดันจาก เรอัล มาดริด กาสตีย่า เข้ามารับงานแทนในช่วงเดือนมกราคม 2016
นั่นเหมือนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำเมื่อโอกาสลงสนามเริ่มไม่แน่ไม่นอน แม้จะจบฤดูกาลผลงานด้วย 19 ประตูจาก 31 เกม พ่วงด้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยที่สองของตัวเอง แต่มันเหมือนมีกลิ่นโชยมาว่าจะไม่เป็นที่ต้องการของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส
แต่ในช่วงซัมเมอร์ เบล นำทัพทีมชาติเวลส์ตะลุยฟุตบอลยูโร 2016 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และถือเป็นรายการเมเจอร์หนแรกของทัพมังกรแดงนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1958
ปีกหน้าลิงเปิดฉากอย่างสวยงามด้วยการกดประตูทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่มช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองอย่างสง่าผ่าเผยในกลุ่มที่มีทั้ง อังกฤษ, สโลวาเกีย และ รัสเซีย
เท่านั้นยังไม่พอยังพาทีมผ่านเข้ารอบไปทีละสเต็ป เริ่มจากชนะ ไอร์แลนด์เหนือ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนพลิกเอาชนะ เบลเยี่ยม ทีมเต็งแชมป์อย่างยอดเยี่ยม 3-1 เข้าถึงรอบตัดเชือก แต่ไปพ่าย โปรตุเกส 0-2 อย่างน่าเสียดาย
ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย กลับสู่ เรอัล มาดริด พร้อมได้รับสัญญาฉบับใหม่พร้อมค่าเหนื่อยมหาศาลระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งในนักเตะที่รับค่าเหนื่อยติดอันดับต้นๆของโลกเลย
แต่ทว่าความโชคร้ายไม่เข้าใครออกใคร เบล ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างรุนแรงจนต้องพักยาวถึง 4 เดือน ในเกมที่ทีมเอาชนะ สปอร์ติ้ง คิฆอน ในเดือนพฤศจิกายน กว่าจะกลับมาได้ก็ล่วงเลยถึงเดือนเมษายน 2017 โดยลงสนามเกมที่ 100 ในลา ลีกาด้วยการพ่ายคารังให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า 2-3 ก่อนจบฤดูกาลด้วยผลงานต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ด้วยการยิงได้เพียง 9 ประตู แต่ก็ยังมีเหรียญยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาประดับคอเป็นสมัยทีสองติดต่อกัน และเป็นสมัยที่สามนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในสเปน
ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าอนาคตในถิ่นเบร์นาเบวเริ่มจะไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ซีเนอดีน ซีดาน เริ่มเห็น เบล เป็นเพียงแค่นักเตะสำรองและหันไปบ่มเพาะนักเตะอย่าง ลูกัส บาซเกซ และ มาร์โก อาเซนซีโอ แทน
รายงานข่าววงในของสโมสรรายงานว่ากุนซือชาวฝรั่งเศสเริ่มหมดความอดทนกับ เบล ที่สไตล์การเล่นมักจะออกแนวฉายเดี่ยวมากกว่าเล่นเป็นทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องแต่งตัวของทีม สตาร์ทีมชาติเวลส์เริ่มห่างเหินจากเพื่อนร่วมทีมและไม่ค่อยมีการสื่อสารกันเท่าไรนัก โดยมีเพียงแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนเดียวเท่านั้นที่ดูจะเป็นเพื่อนคุยอยู่เสมอ
แม้ว่า ซีดาน จะคอยออกมาย้ำอยู่เรื่อยๆว่า เบล คือนักเตะคนสำคัญของทีม แต่นั่นถูกมองว่าเป็นเพียงการออกมาพูดเพื่อรักษาสปิริตในทีมและให้ผ่านพ้นฤดูกาลนี้ไปเท่านั้น เพราะยิ่งนานวันเข้าทุกอย่างค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาว่าเขาไม่เป็นที่ต้องการของทีมอีกต่อไป
กระแสข่าวการย้ายทีมของ เบล ไม่ได้เป็นรอง ติโบต์ กูร์กตัวส์, เอแด็น อาซาร์, ดาบิด เด เคอา หรือ เนย์มาร์ เลย และดูเหมือนว่าเคสนี้ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดด้วย เมื่อแว่วมาว่าสโมสรไฟเขียวให้เจ้าตัวย้ายทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้
ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็พร้อมอ้าแขนรับดาวเตะที่อยู่ในวัย 28 ปีด้วยกันทั้งสิ้น เพราะอายุการใช้งานอย่างน้อยก็ยังเหลืออีก 4-5 เลยทีเดียว
โดยเฉพาะบรรดานักข่าวผู้คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลสเปนล้วนแล้วแต่ออกมายืนยันว่า "ไปแน่"
เอดูอาร์โด้ อินก้า ผู้สื่อข่าวสเปนได้เปิดเผยว่า เบล ต้องการย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในเมื่อสัญญากับ เรอัล มาดริด ยังมีอยู่ ทุกอย่างอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเขาคนเดียวเท่านั้น
ราชันชุดขาวที่ต้องการตัว เอแด็น อาซาร์ ไปเสริมทัพสู้ศึกลา ลีกาในฤดูกาลหน้า อาจจะดึง เบล เข้ามาเป็นหนึ่งในข้อเสนอ ซึ่งไม่แน่ว่า เชลซี ก็พร้อมรับข้อเสนอ
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อ "ปีศาจแดง" เองแม้จะให้ความสนใจมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยยื่นข้อเสนออย่างจริงจังมาให้ เรอัล มาดริด พิจารณาแม้แต่ครั้งเดียว
ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ไม่ได้หมายความว่าจะอยากไปไหนก็ได้
แต่ถ้าถามว่าไปไหมใจจริงเจ้าตัวเองก็ไม่อยากที่จะย้ายออกจากสเปน แต่ในเมื่อไม่เป็นที่โปรดปรานของกุนซือสู้ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ซึ่งนักเตะฝีเท้าระดับนี้ต้องบอกว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
หลังฟุตบอลโลกคงได้เห็น แกเร็ธ เบล ชูเสื้อให้กับสโมสรไหนสักแห่งอย่างแน่นอน