:::     :::

คุยกับ สันติ ไชยเผือก : "โค้ชใหม่" แจ่มจนไม่อยากได้โค้ชใหม่

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
3,555
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในห้วงเวลาที่เหล่านักเตะและแฟนบอล "กิเลนผยอง" ต้องตกอยู่ในภวังค์หลัง "โค้ชแบน" ประกาศลาออกไป ในสถานการณ์ที่ยังต้องงมหาคนที่ใช่มาเป็นโค้ชใหม่ ปรากฎว่ากุนซือขัดตาทัพอย่าง "โค้ชใหม่" สันติ ไชยเผือก ผู้ช่วยโค้ชที่อยู่กับทีมมานานที่สุดกลับทำผลงานได้ดีเหนือความคาดหมาย 6 เกมแล้วที่รักษาสถิติไร้พ่าย จนเริ่มมีหลายเสียงสนับสนุนให้ตั้งเขาขึ้นมาคุมทีมเต็มตัว วันนี้ผมจะพาไปคุยกับผู้ชายคนนี้ ถึงเรื่องราวมากมายที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

แมน : สวัสดีครับพี่ใหม่ ผมอยากจะขอสัมภาษณ์พี่ลงในคอลัมน์หน่อยครับ  

โค้ชใหม่ : อ๋อ ได้เลยครับ

แมน : ตั้งแต่พี่เข้ามาคุมทีมแทนพี่แบน 6 นัดแล้วยังไม่แพ้ใครเลยนะพี่ แฟนๆ ของเมืองทองบางส่วนก็เริ่มออกมาสนับสนุนให้ตั้งพี่เป็นโค้ชเต็มตัว พี่คิดยังไงบ้างเริ่มอยากขึ้นมาเป็นโค้ชใหญ่หรือยังครับ

โค้ชใหม่ : ยังหรอกครับ พี่เองก็คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเป็นเฮดโค้ชนะ เราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนเลย ไม่มีใครคิดหรอกว่าพี่แบนจะลาออกหลังเกมกับประจวบ พี่ก็อยากเก็บประสบการณ์ในฐานะผู้ช่วยไปอีกสักพักก่อน เพราะการเป็นเฮดโค้ชมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แมน : แล้วทางบอร์ดบริหารได้คุยเรื่องนี้กับพี่บ้างหรือเปล่าครับ ว่าอาจจะให้คุมทีมไปเรื่อยๆ ถ้าผลงานยังดีแบบนี้

โค้ชใหม่ : ไม่ได้คุยเลยครับ จริงๆ ตอนนี้เขาก็ได้โค้ชใหม่แล้วนะ เดี๋ยวหลังสงกรานต์จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว 

แมน : ใช่โค้ชเซอร์เบียที่ชื่อ อเล็กซานดาร์ สตาโนเยวิช ที่เคยคุมปาร์ติซาน เบลเกรด หรือเปล่าครับ เห็นเคยมีข่าวออกมา

โค้ชใหม่ : อ๋อคงไม่ใช่คนนี้แล้วล่ะ แต่เป็นชาวเซอร์เบียเหมือนกัน 

อเล็กซานดาร์ คนนี้เคยมีข่าว แต่ "โค้ชใหม่" ยืนยันว่าไม่ใช่

แมน : พี่เองโอเคใช่มั้ยที่ต้องกลับไปเป็นผู้ช่วยอีกแล้ว ไม่เสียดายหรอเพราะดูเหมือนทีมกำลังรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้

โค้ชใหม่ : แน่นอนครับ พี่คิดว่าตอนนี้ยังไม่เก่งพอที่จะรับความกดดันกับการเป็นโค้ช ยิ่งถ้าเราได้ร่วมงานกับโค้ชเก่งๆ ก็ยิ่งดี เพราะเราสามารถเรียนรู้จากเขาแล้วเก็บเอาส่วนดีของแต่ละคนมาปรับใช้ได้

แมน : งั้นถามหน่อยว่าพี่มีวิธีการยังไง ในการทำให้นักเตะของเมืองทองกลับมามีกำลังใจจนผลงานเริ่มดีขึ้นมา ทั้งที่ตอนพี่แบนลาออกไป ดูเหมือนนักเตะจะขวัญเสียอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

โค้ชใหม่ : พี่ก็พยายามให้ทุกคนซ้อมและลงเล่นกันอย่างผ่อนคลายมากขึ้น ศักยภาพของนักเตะเราดีอยู่แล้ว และทุกคนก็อยากจะกอบกู้ศรัทธาของแฟนบอลคืนกลับมาให้ได้

แมน : ผมสังเกตเห็นว่าพี่ใหม่ส่งดาวรุ่งลงสนามหลายคนเลย เราได้เห็น สรวิทย์ พานทอง, สุขสันต์ มุ่งเป้า, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แล้วก็พัชรพล อินทะนี ได้ลงสนาม ตรงกันข้าม ปีโป้ (สิโรจน์ ฉัตรทอง) หรือ ประกิต (ดีพร้อม) เริ่มจะหลุดไปเป็นสำรอง อะไรทำให้พี่ตัดสินใจส่งเด็กๆ ลงสนามแทนที่จะเลือกผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากกว่า

"เจ้ายิ้ม" สรวิทย์ พานทอง ตัวรุกดาวรุ่งกลายมาเป็นกำลังหลักให้เมืองทอง

โค้ชใหม่ : พี่คิดว่าขุมกำลังของเราถ้าไปอยู่ทีมอื่นน่าจะเป็นตัวจริงได้แทบทุกทีมเลยนะ พี่ได้เห็นทุกคนซ้อมมาตลอด เราก็จะเห็นว่าใครที่ซ้อมเป็นยังไงบ้าง พี่เชื่อว่าคนที่พี่ส่งลงไปเล่นจะสามารถทำได้ ตัวเขาเองก็เชื่อว่าทำได้เหมือนกัน มันทำให้ทุกคนในทีมเปลี่ยนความคิดที่ว่าหน้าที่คือแค่มาซ้อมเสร็จก็กลับบ้าน ยังไงก็ไม่ได้ลงเล่นอยู่แล้ว ให้กลับมาคิดว่าทุกคนมีโอกาสได้ลงสนาม เวลาซ้อมแต่ละคนก็จะมุ่งมั่นทุ่มเทมากขึ้น เพราะได้เห็นว่าถ้าซ้อมดีก็มีโอกาส

แมน : อีกอย่างที่เหนือความคาดหมายคือการที่พี่จับ ทริสต็อง โด ไปยืนกองหน้าริมเส้นฝั่งขวา พี่เห็นอะไรในตัว โด หรือคิดว่าเขาน่าจะเหมาะกับการเล่นเป็นตัวรุกเหมือนสมัยเล่นอยู่ที่ฝรั่งเศส มากกว่าเล่นแบ็กครับ

โค้ชใหม่ : เรามีผู้เล่นบาดเจ็บเยอะมาก ตอนนี้ก็ 7 คนเข้าไปแล้ว  ผู้เล่นตัวรุก ชาช่า ตอนนี้ก็เจ็บกลับไปบราซิล, กอล์ฟ (อดิศักดิ์ ไกรษร) ก็เจ็บ ส่วน เจนรบ ก็ไม่สมบูรณ์ พี่ลองวนมาหลายแบบแล้ว ทั้งให้ ปีโป้, สรวิทย์ แล้วก็ ประกิต ไปยืนหน้าเป้า จนล่าสุดลองให้ เฮแบร์ตี้ ไปยืนบ้าง พี่พยายามจะหาจุดลงตัวให้ได้อยู่ พอดีว่าพี่เห็นแบ็กขวาเราก็มี สุพร ที่เล่นได้ ก็เลยขยับ โด ขึ้นไปยืนตัวรุก 

แมน : แล้วปรากฎว่า โด ทำได้ดีเลยนะครับ อีกอย่างที่เห็นคือแต่ก่อนคนเตะฟรีคิกเท้าขวา จะเป็น ตัง (สารัช), ปิง (ทศวรรษ) หรืออาจจะ ชัปปุยส์ หรือประกิต แต่ตอนนี้เห็นเป็น โด ที่รับเหมาเท้าขวาเลย ถ้าเท้าซ้ายก็จะเป็น เฮแบร์ตี้  

โค้ชใหม่ : พี่ดูจากตอนที่ซ้อม โด คือคนที่เล่นลูกนิ่งด้วยเท้าขวาดีที่สุดในทีม ณ ตอนนี้ เวลาเราซ้อมเสร็จในแต่ละวัน เฮแบร์ตี้ กับ โด เขาจะกลับหลังเพื่อน เพราะอยู่ซ้อมยิงฟรีคิกทุกวัน แล้วพี่ก็เห็นว่าเขาดีสุดแล้ว ดังนั้นถ้าเป็นเท้าซ้ายจะเป็น เฮแบร์ตี้ ส่วนเท้าขวาพี่ให้ โด เตะครับ

แมน : ที่ว่าซ้อมฟรีคิก นี่คือซ้อมพิเศษนอกเหนือคอร์สปกติหรือเปล่าครับ พี่สั่งให้เขาซ้อมหรือว่าเขาทำเอง

โค้ชใหม่ : ใช่เป็นการซ้อมพิเศษครับ ก็ไม่ได้สั่งหรอก เขามีความมุ่งมั่นที่จะพยายามพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว คือต้องบอกว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพมาก และอยากจะเก่งขึ้นทุกๆ ครั้งในการซ้อมแต่ละวัน

แมน : แบบนี้จะจับยืนตัวรุกยาวเลยมั้ยพี่ คืออย่างในทีมชาติ โด ก็จะมีถูกแฟนบอลบ่นอยู่บ้างว่าเขาเล่นเกมรับไม่ค่อยดี เวลาต้องเจอศูนย์หน้าเทคนิคดีๆ ความเร็วสูงๆ เหมือนเขาไม่ใช่แบ็กโดยธรรมชาติ เพราะฝึกมาเป็นตัวรุกตั้งแต่สมัยอยู่ฝรั่งเศสแล้ว

โค้ชใหม่ : ไม่นะ พี่ว่าข้อดีของ โด ก็คือเขาฟิตมากและขึ้นไปเติมเกมรุกได้ดี ถ้าแท็กติกของทีมสั่งห้ามไม่ให้แบ็กขึ้นไปเติม เราก็จะสูญเสียจุดเด่นของผู้เล่นแบบนี้ไป อยู่ที่วิธีการใช้งานมากกว่า สำหรับตัวพี่เองนะ พี่คิดว่า โด ก็ยังเป็นแบ็กขวาที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทยในตอนนี้

ฟอร์มดีแบบนี้ เล่นปีกขวายาวๆ ไปเลยดีกว่ามั้ย โด

แมน : พี่ใหม่ทำงานกับเมืองทองมากี่ปีแล้วนะครับ

โค้ชใหม่ : ปีนี้ก็เข้าปีที่ 6 แล้ว เข้ามาทำงานตั้งแต่ปี 2555 ตอนที่ ย็อคก้า (สลาวิซ่า โยคาโนวิช) เพิ่งเข้ามาคุม

แมน : แล้วร่วมงานกับโค้ชคนไหนมาบ้างครับ

โค้ชใหม่ : ก็มีย็อคก้า, (วินฟรีด) เชเฟอร์, เรเน่ (เดอซาเยียร์), (สก็อต) คูเปอร์, (ดราแกน) ทาลายิช แล้วก็พี่แบน (ธชตวัน ศรีปาน) บางคนก็คุมนานบางคนก็มาแค่แป๊บเดียว

แมน : ส่วนตัวพี่เท่าที่เคยร่วมงานมา คิดว่าใครเก่งที่สุด

โค้ชใหม่ : แต่ละคนก็มีข้อดีต่างกันไปนะ อย่างที่พี่บอกแหละว่าอะไรที่เป็นข้อดีของเขา พี่ก็จะเรียนรู้จำเอาไว้เพื่อเอามาปรับใช้ แต่ถ้าคนที่พี่ชอบที่สุดก็เป็น ย็อคก้า นะ ด้วยคาแร็คเตอร์ของเขาด้วย แล้วก็พี่สนิทกับเขามากที่สุด อาจจะด้วยความที่เขาเป็นโค้ชหนุ่ม ตอนมาคุมเพิ่งอายุ 44 เอง เขาชอบเล่าให้ฟังถึงสมัยที่เล่นเป็นนักเตะให้เชลซี ก็ได้รู้เรื่องสนุกๆ จากเขาเยอะ ส่วนพี่แบนก็เก่งนะ พี่มองว่าพี่แบนเป็นโค้ชคนไทยที่เก่งที่สุดในยุคนี้แล้ว

"ย็อคก้า" กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมสุดๆ ในอังกฤษไปแล้ว

แมน : 6 ปี 6 คน แล้วก็กำลังจะมีคนที่ 7 เข้ามาใหม่หลังสงกรานต์อะนะ พี่โอเคจริงดิ

โค้ชใหม่ : ไม่เป็นไรเลย ดีซะอีก เพราะพี่ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ พี่ชอบจะตายได้คอยเป็นผู้ช่วยให้โค้ชเก่งๆ รีบร้อนเกินไปไม่ดีหรอก เพราะโค้ชสมัยนี้มาไวไปไว 555 

แมน : ผมเห็นข่าวในเว็บ เคยลงว่า ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ กองหน้าลูกครึ่งฟิลิปปินส์-สเปน ที่เคยอยู่บุรีรัมย์ อาจจะมาอยู่เมืองทองในช่วงเลกสอง อันนี้เป็นไปได้มั้ยพี่ เมืองทองมีนโยบายจะดึงนักเตะอาเซียนเข้ามาเสริมทีมมั้ย

โค้ชใหม่ : แน่นอน ถ้าเราเห็นว่าใครสามารถเข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งที่เราขาดอยู่ได้เราก็จะพยายามเสริมในจุดนั้น มีผู้เล่นหลายคนที่ผู้ใหญ่เขามองอยู่ รู้สึกว่า ปาตินโญ่ ก็น่าจะอยู่ในลิสต์ด้วยเหมือนกัน 

แมน : พี่มองว่าการลงทุนกับนักเตะอาเซียนจะเวิร์คมั้ย เพราะเอาจริงๆ นะฤดูกาลนี้มีแค่ อ่อง ตู ของ เทโร คนเดียวเลยมั้งพี่ที่เป็นอาเซียนแท้ๆ และตอบโจทย์ทั้งฝีเท้าและการตลาด คนอื่นๆ ยังดูเงียบๆ กันอยู่เลย เออจะว่าไปผมเคยเห็นแฟนบอลเมืองทองเขาลือกันว่า อ่อง ตู อาจจะมาเมืองทองด้วยนะพี่ 

โค้ชใหม่ : อืมมันก็หายากนะ ปีนี้ก็มี อ่อง ตู คนเดียวจริงๆ แหละ พี่ก็ติดตามผลงานของเขาอยู่ ถือว่าเขาทำได้ดีเลยกับ เทโร แต่พี่ว่าถ้าเขามาเล่นให้เมืองทอง ไม่รู้เขาจะรับแรงกดดันไหวหรือเปล่า ทั้งการแข่งขันแย่งตำแหน่งภายในทีมที่ยากกว่าเทโรเยอะ ตำแหน่งของ อ่อง ตู เรามีนักเตะทั้งตัวจริงที่เล่นอยู่ แล้วก็ตัวสำรองที่สลับกันลงอีกหลายคน แฟนบอลของ เทโร ก็เป็นคนพม่าที่มาตามเชียร์เขาซะเยอะ แต่ถ้าเป็นเมืองทอง แฟนบอลค่อนข้างจะคาดหวังสูง แรงกดดันที่ต้องเจอมันหนักกว่าเทโรเยอะแน่นอน

แมน : ด้วยคอนเน็คชั่นระหว่างเมืองทองกับเทโร มันก็ทำให้อดคิดไม่ได้เนอะพี่ ว่าถ้ามองหานักเตะอาเซียน อ่อง ตู น่าจะตอบโจทย์ที่สุดสำหรับ เมืองทอง 

โค้ชใหม่ : อืม... ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ 

ปาตินโญ่ หรือ อ่อง ตู ดี แฟนๆ "กิเลนผยอง" คิดว่าไง

แมน : ชาช่าที่ว่าบินไปรักษาตัวที่บราซิล เขาจะกลับมาแน่ใช่มั้ยพี่ แล้วทำไมเขาถึงไม่รักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพที่เป็นผู้สนับสนุนของทีมล่ะครับ 

โค้ชใหม่ : กลับมาแน่นอน ที่เขากลับไปรักษาที่นั่น คงเพราะเขารู้สึกมั่นใจกับหมอที่บ้านเกิดของเขา อาจจะเคยรักษากันมาก่อนล่ะมั้ง 

แมน : แล้วพวกค่าเดินทาง ค่ารักษา ทางเมืองทองต้องออกค่าใช้จ่ายให้เขาด้วยมั้ย

โค้ชใหม่ : โหอันนี้พี่ไม่รู้เลย ต้องถามทางผู้ใหญ่ของสโมสรแล้วล่ะ

แมน : โอเคพี่ ตอนนี้ เมืองทอง เริ่มกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีขึ้น พี่ใหม่คิดว่าพร้อมหรือยังที่จะกลับมาลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว

โค้ชใหม่ : จริงๆ นั่นคือเป้าหมายของทีมอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ต้องดูผลงานเป็นนัดต่อนัดไปก่อน ถ้าอีกสัก 4-5 เกมเราสามารถชนะคู่แข่งได้เรื่อยๆ ก็คงถือว่ากลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เต็มตัว 

แมน : การที่ทีมปล่อยตัวหลักอย่าง เจ, มุ้ย, อุ้ม, ตอง ไป ส่งผลกระทบกับทีมมากน้อยแค่ไหนครับ

โค้ชใหม่ : มีผลมากๆ พี่ยังต้องพยายามบอกน้องๆ ทุกคนว่าให้ลืมไปให้หมด เพราะทุกคนคุ้นเคยกับการเล่นโดยมี 4 คนนี้อยู่ในทีมมาตลอด พี่บอกว่าเฮ้ย เอ็งต้องคิดว่าตอนนี้เราไม่มีพี่มุ้ยอยู่ในทีมแล้วนะ แต่เราต้องเล่นกันให้ได้ เล่นในแบบไม่มีเราจะเล่นกันยังไง ยากเหมือนกันนะที่ต้องรักษาสมดุลย์ทีม หลังเสียผู้เล่นตัวหลักในแต่ละตำแหน่งไป ทั้งประตู, กองหลัง, กองกลาง, กองหน้า

3แข้งเจลีก ไปเพื่อกลับมายกระดับบอลไทย

แมน : แต่ก็ยังมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าอาจจะมีคนอื่นไปเล่นในญี่ปุ่นเพิ่มอีกนะครับ

โค้ชใหม่ : พี่มองว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะการได้ไปเปิดโลกในลีกที่แข็งแกร่งกว่าเราจะทำให้เขาได้เจออะไรที่ไม่เคยเจอ แล้วจะได้พัฒนาตัวเอง อย่างพวกที่ไปพี่เห็นพอกลับมาช่วงทีมชาติก็ดูเปลี่ยนไปเยอะนะ คือแต่ละคนก็พูดคุยกับพี่ปกติเหมือนเดิมแหละ แต่ที่เปลี่ยนไปคือมีความกระหาย มีความสนุกกับการเล่นฟุตบอลมากขึ้น อย่างมุ้ยหรือตองเขาก็เล่าให้พี่ฟังอยู่นะว่าไปอยู่นู่นเขาต้องพยายามมากขึ้นแค่ไหน

แมน : พี่ใหม่คิดว่าพวกที่ไปเล่นต่างประเทศ เก่งขึ้นกว่าเดิมมั้ยครับ

โค้ชใหม่ : เก่งขึ้นแน่นอน เอาง่ายๆ เลยอย่าง เจ เนี่ยตอนอยู่ไทยมันจำเจไปหมดแล้ว ชีวิตประจำวันก็คือตื่นมาพอถึงเวลาซ้อมก็ซ้อมไป ตอนลงแข่งยังไงก็เป็นตัวจริงแน่นอน พอลงเล่นเพื่อนร่วมทีมก็มองหาคอยส่งบอลให้ไม่ต้องวิ่งทำทางขอบอลอะไรมากมาย แต่ไปอยู่นู่นจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ได้เลย เพราะจะได้ลงเล่นตัวจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ได้ลงแล้วเพื่อนจะไว้ใจ โค้ชจะไว้ใจแค่ไหน แต่ละวันต้องคอยแอคทีฟตัวเอง ต้องทำให้เหนือกว่านักเตะญี่ปุ่นถึงจะอยู่ได้ คือสิ่งเหล่านี้มันทำให้ทุกคนต้องเอาตัวรอด นี่ยังไม่นับรวมเรื่องการปรับตัวในการใช้ชีวิต, วัฒนธรรม, สภาพอากาศ หรืออาหารการกินอีกนะ

แมน : แล้วน้องๆ เขายังโอเคมีความสุขกันดีมั้ยครับ เท่าที่คุยกับพี่

โค้ชใหม่ : ทุกคนโอเคหมดนะ ตอนนี้น่าจะสนุกกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ได้เจอ 

แมน : พี่ใหม่เคยไปเล่นที่สิงคโปร์ กับทีมอะไรบ้างนะพี่

โค้ชใหม่ : เทมปิเนส โรเวอร์ส ทีมเดียวเลยตอนนั้นไปอยู่กับพี่ป้ำ (วรวรรณ ชิตะวณิช) ไปอยู่ 3 ปีได้แชมป์ 2 ปีแล้วก็รองแชมป์ปีนึง ปีที่ได้รองแชมป์ ทีม สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ที่มี เทิดศักดิ์ ใจมั่น คว้าแชมป์ไป

"โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช สมัยคุม เทมปิเนส โรเวอร์ส ในเอสลีก

แมน : ประสบการณ์ตรงนั้นช่วยอะไรพี่ได้บ้างมั้ยครับ ทั้งในชีวิตนักเตะและโค้ช

โค้ชใหม่ : เยอะเลยนะ โดยเฉพาะเรื่องภาษา พี่ได้ภาษาอังกฤษก็เพราะไปอยู่สิงคโปร์นั่นแหละ มันช่วยพี่ได้ทั้งการใช้ชีวิต และก็สื่อสารกับโค้ชที่เข้ามาทำงานกับเมืองทอง รวมถึงผู้เล่นต่างชาติได้ด้วย เออ เดี๋ยวพี่เริ่มยุ่งๆ แล้วไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ ต้องขอไปทำธุระก่อน

แมน : โอเคครับพี่ใหม่ ขอบคุณมากครับ 


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ แล้วอย่าลืมให้เครดิตกันด้วยนะ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด