ความเดิมตอนที่แล้ว เราพูดถึงความเป็นมาของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กันไปแล้ว และทิ้งท้ายไว้ถึงตอนที่ เทรนท์ ในวัย 16 ปี ไปเตะตาเบรนแดน รอดเจอร์ส เข้า การเดินทางจากทีมเยาวชนสู่เมลวู้ดจึงเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้น (อ่านตอนเก่าได้ที่นี่ วันแรกของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ตอนที่ 1))
หลังจากลงสนามรับใช้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เสร็จ ในวันศุกร์ เทรนท์ ก็ถูกสั่งให้รีบเก็บข้าวของแล้วเดินทางกลับลิเวอร์พูลโดยทันที อเล็กซ์ อิงเกิ้ลโทรป ขับรถพาผมซิ่งจากลอนดอนจนถึงลิเวอร์พูลในวันนั้น ดูแล้วไม่รู้ว่าลูกศิษย์อย่างเทรนท์ หรืออาจารย์อย่างอิงเกิ้ลโทรป ใครจะตื่นเต้นมากกว่ากัน
"ผมลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ที่เมลวู้ดเช้าวันเสาร์ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปที่เมืองสวินดอนกันในช่วงเย็นของวันเดียวกัน เรานอนค้างที่นั่น 1 คืน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นพวกเราจะต้องเล่นกับสวินดอน ทาวน์" เทรนท์เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เหมือนมันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้
"ผมลงสนามไปทั้งสิ้น 60 นาที ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนออกไปพัก ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับโอกาสในวันนั้นมากทุกครั้งที่หวนคิดถึงมัน ครั้งนั้นมันเป็นโอกาสครั้งใหญ่มากที่ผมได้รับ"
เทรนท์ อาจจะไม่รู้ แต่หลังจาก 60 นาที ที่สวินดอน ... โปรเจค เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลังจากวันนั้น เทรนท์ ก็กลับมาที่เคริกบี้อีกครั้ง แม้ว่ากับทีมชุดอายุไม่เกิน 18 ปี เขาจะลงเล่นในตำแหน่งกองกลางเสมอๆ แต่โครงการพัฒนาเทรนท์ ให้เหมาะสมกับตำแหน่งแบ็คขวา ก็ถือเป็นหน้าที่ของเหล่าสตาฟฟ์โค้ชของทีมต้องพยายามสอดแทรกแทคติก และถ่ายทอดวิธีการเล่นออกมาให้กับแข้งดาวรุ่งผู้นี้เข้าใจให้ไวที่สุด
อิงเกิ้ลโทรป และนีล คริสชลีย์ ผู้จัดการทีมชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ต้องวางแผนฝึกสอนเพื่อให้เทรนท์ กลายสภาพจากกองกลางจอมบุก ให้กลายเป็นแบ็คขวาอาชีพให้ได้ วิดีโอการเล่นของยอดแบ็คอย่างฟิลิปส์ ลาห์ม และดานี่ อัลเวส ถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่ออธิบายการเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา ให้เทรนท์ได้เห็น
"ผมเริ่มคุ้นชินกับตำแหน่งแบ็คขวาทีละน้อยๆ มันค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง ผม, อิงเกิ้ลโทรป และคริสชลีย์ เรา 3 คนก็มานั่งคุยเปิดอกถึงเรื่องอนาคตกัน"
"พวกเราคุยกันและได้ข้อสรุปว่า หากผมอยากจะขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ ตำแหน่งแบ็คขวาน่าจะเป็นทางลัดที่ไวที่สุด โจ โกเมซ บาดเจ็บต้องพักยาว จอน ฟลานาแกน ก็เช่นกัน ในทีมตอนนี้มีแค่นาธาเนียล ไคลน์ เพียงคนเดียวในตำแหน่งนี้ พวกเราคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ในเส้นทางนี้คงมีแค่ไคลน์และบางทีอาจจะเป็นแบ็คขวาทีมอายุไม่เกิน 23 ปี อีกสักคนที่อาจจะเป็นคู่แข่งในตำแหน่งนี้ของผม"
"หากผมอยากจะเกิดในตำแหน่งถนัดอย่างกองกลาง ลองคิดดูสิ ในทีมชุดใหญ่มันมีที่ว่างแค่ 3 คนเท่านั้น บวกกับ 2-3 คนที่นั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง นอกจากนี้ยังมีพวกรุ่นพี่ในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อีก 3-4 คนที่เล่นในตำแหน่งนี้ หันมาดูผมสิ ผมมันแค่เด็กน้อยที่เล่นในทีมชุดอายุไม่เกิน 18 ปี นี่ยังไม่นับเพื่อนๆร่วมทีมผม อีก 1-2 คน ที่พร้อมจะแข่งขันด้วยเช่นกัน คิดได้แบบนี้แล้ว ผมเลยรู้สึกว่า การจะไปขอเล่นกองกลางกับทีมชุดใหญ่ ไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีเลย"
"กลับมาที่ตำแหน่งแบ็คขวา ผมเริ่มคุ้นชินกับมันบ้างแล้ว เอาตรงๆผมสนุกกับตำแหน่งนี้นะ ผมอยากที่จะลงเล่น ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเสียเวลาอะไรนะ ผมอายุแค่ 17 เท่านั้น การที่ได้รับทราบว่า ผมอาจจะได้ขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ด้วยตำแหน่งนี้ เพราะมีแค่ 1-2 คน เท่านั้นที่ขวางหน้าผมอยู่ มันเป็นแรงผลักดันที่ดีเยี่ยมที่ผมจะต้องทำให้ได้"
ไม่มีความบังเอิญในโลกลูกหนัง การทะลุขึ้นมาของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ สู่ทีมชุดใหญ่เป็นแผนการที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ตรงนี้ต้องชื่นชม 2 ตัวแปรสำคัญอย่าง อเล็กซ์ อิงเกิ้ลโทรป และนีล คริสชลีย์ ที่ช่วยกันโอบอุ้ม และฟูมฟักเด็กหนุ่มเชื้อสายสเกาเซอร์รายนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอิงเกิิ้ลโทรป ที่ดูเหมือนจะเป็นพ่ออีกคนของเทรนท์ไปแล้ว
"เขาค่อนข้างจู้จี้กับผมในทุกๆเรื่อง เขาฝึกผมจากเด็กชายคนหนึ่งให้กลายเป็นผู้ใหญ่ การฝึกซ้อมในแต่ละวันมันเข้มข้น และกดดันมากสำหรับเด็กวัย 17 อย่างผม แต่ก็นั่นแหละ เพราะการฝึกเหล่านี้ผมถึงเป็นเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่คุณรู้จักในทุกวันนี้"
"เขาดูแลและยังคอยบ่นผมทุกวัน จนถึงวันที่ผมต้องย้ายไปเมลวู้ด แม้กระทั่งการซ้อมครั้งสุดท้ายของผมที่เคริกบี้ เขายังคงบ่นผม เขาบอกว่าเขาต้องการจะแน่ใจว่าผมพร้อมแล้วกับความท้าทายใหม่ที่เมลวู้ด"
"เขามักจะพูดเสมอว่า เฮ้ย ฉันสร้างแกมาเพื่อสิ่งนี้นะ แกไม่ต้องมาขอบคุณฉันในตอนนี้หรอก มันอาจจะขัดกับสิ่งที่แกคิดอยู่ ฉันแค่อยากให้แกรู้ไว้ว่า สิ่งที่ฉันทำน่ะ มันเพื่อแก แกต้องพร้อมกับเรื่องที่จะเจอต่อไปในอนาคต ฉัันจะดีใจมากถ้าวันหนึ่งแกเกลียดฉัน เพราะนั่นน่าจะหมายถึงแกพร้อมที่จะประสบความสำเร็จแล้ว"
"พูดก็พูดเหอะ มันหลายครั้งมากที่ผมอยากจะระบายอารมณ์เกรี้ยวกราดที่มี โดยการอัดไปที่ลูกบอลสักป๊าบ แต่เขากลับห้ามไม่ให้ผมทำเช่นนั้น เขากลับให้ผมวิ่งเลี้ยงลูกบอลแทน ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ก็นั่นแหละ ทุกวันนี้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็เพราะเขา"
อ่านถึงบรรทัดนี้ เราคงได้เห็นเส้นทางและวิธีการปั้นดาวรุ่งของสโมสรลิเวอร์พูลผ่านประสบการณ์และเรื่องเล่าของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กันแล้วนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าในยุคเจอร์ราร์ด, โอเว่น หรือคาร์ราเกอร์ จะเป็นการจัดเตรียมนักเตะที่มีแววและพรสวรรค์มากๆ ให้เข้าคอร์สพิเศษแบบเทรนท์ หรือเบน วู้ดเบิร์น หรือไม่ แต่แน่นอนว่า นี่คือ 1 ในสิ่งที่เราเรียกกันว่า แบบแผนแห่งลิเวอร์พูล ที่สโมสรแห่งนี้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเรื่องการปั้นดาวรุ่ง
เรื่องราวการเดินทางของเทรนท์ ยังไม่จบ ตามต่อตอนหน้าครับ มาดูชีวิตที่ไม่ใช่เด็กชายอีกต่อไปของเทรนท์จะเป็นอย่างไร พร้อมเปิดตัวอีก 1 ตัวละคร ที่เทรนท์บอกว่าเป็นอีก 1 คนที่ช่วยให้คำแนะนำต่อเขาอย่างมาก ตัวละครที่ชื่อว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด นั่นเอง ฝากติดตามด้วยนะครับ
