:::     :::

ศิลปะกองหน้ากับ "เฟร์นานโด ตอร์เรส"

วันพุธที่ 18 เมษายน 2561 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
8,244
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จบฤดูกาลนี้ "เฟร์นานโด ตอร์เรส" เตรียมโบกมือลาแอตเลติโก้ มาดริด

นี่คือการอำลาทีมรักเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เจ้าตัวเคยออกไปหาความท้าทายใหม่กับลิเวอร์พูล และเชลซี สองทีมดังจากอังกฤษ รวมถึงช่วงสั้นๆกับเอซี มิลาน ยักษ์หลับจากอิตาลี

ตอร์เรส ถือว่ามีความผูกพันกับพลพรรค "ตราหมี" เป็นอย่างมาก นอกจากการเป็นเด็กปั้นของสโมสรแห่งนี้แล้ว เขายังสถาปนาตัวเองเป็นกองหน้าที่ยิงประตูได้มากสุดเป็นลำดับต้นๆในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร

เพื่อเป็นการทิ้งทวนชีวิตการค้าแข้งกับแอตเลติโก้ มาดริด เราไปดูทัศนคติ และมุมมองต่อการเล่นตำแหน่งกองหน้าของเจ้าของฉายา "เอล นินโญ่" กันหน่อยดีกว่า บอกเลยว่า มีประโยชน์ต่อเด็กรุ่นใหม่อย่างแน่นอน

เด็กทุกคนอยากเป็นกองหน้า

"ย้อนกลับไปตอนที่คุณเริ่มเล่นฟุตบอล ทุกคนย่อมเป็นกองหน้า การที่คุณเป็นเด็ก คุณย่อมอยากเล่นตำแหน่งนี้ ที่ประเทศสเปน ส่วนใหญ่เราเริ่มต้นเล่นจากฟุตซอล แน่นอนว่า คุณไม่ได้มีตำแหน่งการเล่นที่แน่นอน มันมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก ทุกคนต้องสลับหมุนเวียนกันไป"

"จน กระทั่งอายุ 9 หรือ 10 ขวบ ผมถึงขยับมาเล่นฟุตบอลสนามใหญ่ ตอนนั้นผมยังไม่มีตำแหน่งประจำหรอก ตอนที่ผมเล่นฟุตบอล ผมยิงประตูได้เยอะนะ แต่เพื่อนร่วมทีมยิงได้เยอะกว่า ดังนั้น ผมต้องขยับไปเล่นตำแหน่งแบ็คขวา !! ซึ่งตอนเป็นเด็กย่อมคิดว่า -ไม่เอาน่า ข้าไม่อยากเล่นฟูลแบ็คเลย-"

"แต่ด้วยความที่เป็นเด็กวัยเพียงแค่ 10 ขวบ คุณต้องการแค่เล่นฟุตบอลเท่านั้น และมักไม่ปริปากบ่น ผลสุดท้าย สิ่งที่เรียกว่าคุณภาพจะเป็นตัวบอกเองว่า คุณควรเล่นตำแหน่งไหน หากคุณยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ คุณจะจบด้วยการเล่นในตำแหน่งกองหน้าอย่างแน่นอน ถ้ายิงได้ไม่เยอะ คุณก็ต้องลงไปด้านหลัง"


ฟุตบอลคือประตู

"ถ้าไม่มีประตู ก็คงไม่มีการแข่งขัน สิ่งที่วิเศษที่สุด นั่นคือการที่สามารถยิงประตูได้ ความจริงคือ เมื่อคุณหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ขึ้นมา และมองไปที่ผลการแข่งขัน สิ่งแรกที่คุณอยากรู้ก็คือ ใครเป็นผู้ทำประตู คุณคงไม่ได้ดูหรอกว่าใครเล่นดีบ้าง คุณแค่อยากรู้ว่าใครทำสกอร์เท่านั้นเอง"

" การยิงประตูถือว่ามีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด หากคุณลงสนาม และยิงประตูไม่ได้ 10 เกมติดต่อกัน ผมคงไม่มีความสุขกับแบบนั้นแน่นอน แม้ว่าผมจะโชว์ฟอร์มโดยรวมได้ดีก็ตาม ในทางกลับกัน หากผมยิงประตูได้ทั้ง 10 เกมที่ว่ามา แต่โชว์ฟอร์มโดยรวมได้แย่ ผมก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน อาจกล่าวได้ว่า ผมต้องการยิงประตู และโชว์ฟอร์มการเล่นที่ดีไปพร้อมกัน"

กองหน้ามี 2 ประเภท

"กองหน้ามีชีวิตอยู่เพื่อการยิงประตูเท่านั้น นี่คือตำแหน่งผู้เล่นที่รู้วิธีการพังตาข่าย และทุกครั้งจะพยายามทำมันให้ได้ ผมไม่ใช่กองหน้าประเภทที่ได้บอลในกรอบเขตโทษ และเอาแต่มองหาจังหวะจบสกอร์เท่านั้น ดังนั้น ผมจึงอยู่ในกองหน้าประเภทที่ 2 นั่นคือผมชอบแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตู และช่วยเหลือทีมในภาพรวมด้วย"

" ผมยินดีกับทุกประตูที่ตัวเองทำได้ แต่ผมไม่ต้องการเป็นนักเตะที่ละโมบโลภมาก ผมมองฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีม ไม่ได้มองเป็นกีฬาฉายเดี่ยว เทนนิสเป็นแบบนั้น แต่กับฟุตบอลมันไม่ใช่"


หน้าที่การยิงประตู

"เป็นเรื่องปกติที่คุณยิงประตูได้ และจะมีความสุขกับมัน แต่คุณต้องมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ผมชอบที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมของผม และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม นอกเหนือไปจากเรื่องการส่งลูกบอลไปนอนก้นตาข่าย"

" ผมต้องการปรับปรุงเรื่องของกลวิธี และตำแหน่งของร่างกาย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมในการครองบอล และการเรียกฟรีคิก ผลสุดท้ายแล้ว ประตูคือสิ่งที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป"


ความเชื่อ 

"ผมก้าวขาลงสนามในทุกเกม พร้อมกับความเชื่อว่า ผมจะสามารถยิงประตูได้อีกครั้งแน่นอน ไม่ว่าเราจะเจอกับคู่แข่งรายใดก็ตาม ผมรู้สึกแค่ว่า ผมจะยิงประตูได้ชัวร์ ผมต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า ในเกมใหญ่จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณอาจจะเจอกับสิ่งที่ไม่คาดหวังก็เป็นได้"

ความรู้สึกใน 15 นาที

"โดยเฉพาะการเล่นเกมเยือน คุณจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ขาดหายไป ไม่มีบรรยากาศใด ทุกอย่างราบเรียบ เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 15 นาทีของเกม คุณจะรู้แล้วว่า มันไม่ใช่วันของคุณ แม้ว่าจะได้รับผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องการผู้เล่นระดับท็อปคอยเคียงข้าง ที่สามารถขับเคลื่อนเพื่อนร่วมทีมทุกคนได้ ที่ลิเวอร์พูล ก็มีนักเตะประเภทนั้นเหมือนกัน นั่นคือสตีเว่น เจอร์ราร์ด"


การยิงประตูตอนอบอุ่นร่างกาย

"ผมไม่ชอบการลองยิงประตู 4-5 ครั้ง เพื่อดูว่าผมสัมผัสลูกฟุตบอลอย่างไร หรือดูว่าหญ้าของสนามนั้นส่งผลต่อลูกฟุตบอลเร็วมากน้อยแค่ไหน หากผมรู้สึกว่าตัวเองคม ผมจะยิงประตูได้อย่างน้อย 1 ลูกจากการลอง"

"ครั้งแรกที่ผมยิงประตูไม่ได้เลยในการอบอุ่นร่างกาย ผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล พ่ายต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 นับจากนั้นเป็นต้นมา มันเป็นเรื่องที่รบกวนใจผมเหมือนกัน หากผมยิงประตูไม่ได้ตอนวอร์ม อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เครื่องวัดที่แน่นอนเสมอไป เพราะผมก็มีเกมที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน หลังจากที่ยิงในช่วงวอร์มไม่ได้"


ยิงต้นเกม ช่วยปรับจิตใจ

"การยิงประตูได้ในช่วงต้นเกม มันทำให้ผมคิดว่างานตัวเองเสร็จแล้ว มันเหมือนช่วยลดความกดดันไป การที่ยิงประตูได้เร็ว ช่วยทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น การยิงประตูมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะผมคิดถึงเรื่องของการแอสซิสต์ และการเคลื่อนที่ในสนาม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมทีมด้วย"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด