:::     :::

ปรัชญาลูกหนังกับ "อาร์แซน เวนเกอร์"

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
5,167
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปิดฉาก 22 ปีเต็ม ในฐานะผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ไปอย่างน่าใจหาย

เมื่ออาร์แซน เวนเกอร์ สร้างแรงสะเทือนต่อวงการลูกหนัง ด้วยการประกาศอำลาทีมอาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาลนี้ ถือเป็นการยุติเส้นทางผู้จัดการทีม "เดอะ กันเนอร์ส" ที่เขาทำมาอย่างวยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1996 

นอกจากแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และแชมป์เอฟเอ คัพ 7 ครั้ง เวนเกอร์ ยังฝากความทรงจำเอาไว้อย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำทีมด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงาม และเป็นทีมแรก-ทีมเดียวในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แบบไร้พ่าย

ช่วงนี้เราไปดูปรัชญาการคุมทีมของเขากัน เพื่อให้แฟนบอลอาร์เซน่อล ได้เก็บเกี่ยวความทรงจำจากเขาไป 

การเข้าสู่โลกฟุตบอล

"ผมเติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆ แถวนั้นมีสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นด้วย อาจกล่าวได้ว่า ชีวิตของผมถูกครอบเอาไว้ด้วย 2 สิ่ง ... โดยสิ่งแรกคือการเข้าโบสถ์ สิ่งต่อมาคือการเข้าไปอยู่ในโลกของฟุตบอล ผมเข้าใจลูกหนังอย่างรวดเร็ว ผมบอกได้เลยว่า ศาสนาของผมคือฟุตบอล นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป"


การสร้างมุมมอง

"เรามีค่านิยมที่สโมสร เราพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เราทำในสนามฟุตบอลให้กลายเป็นศิลปะ และต้องการสร้างความรู้สึกให้กับแฟนบอล เราอยากให้พวกเขารู้สึกในช่วงเช้าของวันแข่งขันว่า บางที ตัวเราอาจจะมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ในการดูทีมรักลงแข่งขันก็เป็นได้ ถือเป็นการมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับแฟนบอลที่เข้ามาดู อย่างไรก็ตาม ผมบอกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ในฐานะที่เป็นสโมสรฟุตบอล คุณจะเป็นต้องมีความทะเยอทะยานเหล่านี้"


การสร้างแรงบันดาลใจ ในโลกฟุตบอลแห่งทุนนิยม

"เงินเป็นผลมาจากคุณภาพ และผลงานที่แสดงออกมา ทว่าผมต้องการให้นักเตะได้รับความสำคัญอย่างถูกต้อง ผมไม่อยากให้พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเงินทอง พร้อมกับมุ่งเน้นไปยังคุณภาพการเล่นของตัวเอง เราอยู่ในโลกของฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมหาศาล ผมคิดว่า นักเตะต้องมีสมาธิกับผลงานในสนามเป็นสิ่งสำคัญ และความฉลาดในการใช้ชีวิตเป็นเรื่องจำเป็น"

การถ่ายทอดประสบการณ์

"ผมมีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน ผมทำงานในวงการฟุตบอลมากว่า 35 ปี ทำให้ผมได้พบกับผู้คนจำนวนมากที่เต็มไปด้วยความสามารถ ประสบการณ์ของผมสามารถช่วยเหลือนักเตะได้ ท้ายที่สุดแล้ว สโมสรฟุตบอลมีหน้าที่สร้างนักเตะให้มีเส้นทางการค้าแข้งที่ยอดเยี่ยม ผมสามารถจะทำนายนักเตะอายุราว 24-25 ปีได้เลยว่า พวกเขาจะเติบโตมาเป็นอย่างไร นั่นเป็นเพราะผมเห็นผู้เล่นมามากมายจริงๆ"


การค้นหาความสำเร็จ

"ความสำเร็จของเรามาจากการค้นหาบุคคลที่มีความเหมาะสมกับงาน มันก็เหมือนกับบริษัททั่วไปแหล่ะ ขั้นตอนแรกคือการค้นหา และนำคนที่เหมาะกับงานมาร่วมงาน ขั้นตอนที่สองคือสอนพวกเขาให้ทำงานอย่างถูกต้อง และพัฒนาพวกเขา เพื่อให้เข้าสู่ความมุ่งมั่นในชัยชนะ"

"เรามีแมวมองกระจายอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังมีแผนวิเคราะห์ และเทปวิดีโอมากมาย อย่างที่ผมบอกไป นักวิเคราะห์จะคอยเฝ้าดูการแข่งขันจากทั่วโลก ในตลอดทุกสัปดาห์ คุณสามารถดูรายงานจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เลยว่า นักเตะคนนี้เป็นอย่างไร หรือว่าทำผลงานได้ดีมั้ย ? มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย เพราะคุณต้องเลือกผู้เล่นที่ประสานงาน และเข้ากับทีมได้จริงๆ"


การกำหนดเป้าหมายส่วนตัว

"เป้าหมายของเราคือการเอาชนะในทุกการแข่งขัน ถ้าคุณเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล และบอกว่าตัวเองไม่ต้องการคว้าแชมป์แล้ว นั่นคือจุดจบของคุณแล้วล่ะ !! เป้าหมายของผมมีทั้งระยะสั้น และระยะยาว ผมวางแผนเอาชนะในแต่ละเกม พร้อมกับดึงศักยภาพสูงสุดของเหล่านักเตะออกมา"

"ผมเคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ ทว่าบางครั้งผมก็รู้สึกว่าทีมทำผลงานได้ดี แม้ว่าจะจบอันดับ 3 ก็ตามที เป้าหมายของผมในทุกฤดูกาล คือการคว้าทุกโทรฟี่ที่ลงเตะ แต่มันไม่ง่ายหรอก มีทีมดีๆมากมายในพรีเมียร์ลีก และมีเพียงทีมเดียวที่จะสมหวังในตอนท้าย"

การสร้างเกาะป้องกันแรงกดดัน

"ถือเป็นคำถามที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คุณจะอยู่รอดได้อย่างไร เมื่อมีคนมาบอกว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ผิด ? ผมคิดว่ามันเป็นค่านิยมนะ ก่อนที่คุณจะก้าวมาสู่ความหลงใหล และสิ่งที่คุณรัก คุณจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อเสียก่อน นี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งของผม"

"ประสบการณ์คอยสอนให้ผมมีระยะห่างกับความคิดเห็นต่างๆที่เข้ามา เมื่อมีคนบอกว่า ผมเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผมรู้ว่านั่นไม่ใช่ความจริงเสมอไป เมื่อมีคนบอกว่า ผมเป็นกุนซือที่ห่วยแตกที่สุด ผมก็รู้ว่ามันไม่ถูกทั้งหมดซะทีเดียว ผมมีความยุติธรรมมากพอ ในการประเมินสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ มันไม่ได้หมายความว่า ผมไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองเลยนะ"


การเป็นผู้จัดการทีมที่ดี

"คุณต้องระบุสิ่งที่ตัวเองรักในฟุตบอล และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับตัวเอง คุณจำเป็นต้องมีความคิดที่ชัดเจน ว่าคุณอยากคุมทีมออกมาแนวทางใด นอกจากนี้ ยังต้องมีความสามารถในด้านของจิตใจ ผมได้พบกับคนฉลาดมากมาย แต่ไม่ค่อยมีความกล้าหาญ ในฐานะของผู้จัดการทีม คุณต้องกล้าพูดว่า -ผมเชื่อว่ามันถูกต้อง และผมจะแสดงให้เห็นในสนามฟุตบอล-"

"เหล่านั้นคือสิ่งที่ผมรักในงานของผมเอง คุณต้องพิสูจน์ผลงานของตัวเองว่าถูกต้อง แม้ว่าผมจะทำในสิ่งที่ผิดพลาด ผมก็ต้องรวบรวมความกล้า ในการใช้ความคิดในแบบของตัวเองต่อไป คุณจำเป็นต้องมีทัศนคติที่เข้มแข็งในชีวิต เพราะมันจะช่วยเปลี่ยนความคิดของคุณให้กลายเป็นความจริง"


การสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้เล่น

"ผมเชื่อความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของฟุตบอล คุณต้องมีความปรารถนาให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ในฐานะของนักฟุตบอลอาชีพ จำเป็นต้องมี 2 ส่วน คือพวกเขาสามารถวิคราะห์ตัวเองได้เป็นอย่างดี และส่วนต่อมาคือ สามารถรักษาระดับแรงจูงใจ พวกเขาห้ามยอมแพ้ต่ออุปสรรคจากการแข่งขัน"

"คำถามคือ ความเข้มแข็งมาจากไหนล่ะ ? ความแข็งแกร่งทางจิตใจ มาจากความต้องการภายในของเราเอง รวมถึงความกดดันจากสภาพแวดล้อม ฟุตบอลมีความกดดันสูงมาก ผมมักพูดกับลูกทีมเสมอว่า วันหนึ่งต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง พร้อมกับพูดว่า เราได้ทำทุกอย่างแบบสุดความสามารถแล้ว ในเส้นทางสุดท้ายของอาชีพการค้าแข้ง การทำดีที่สุดแล้ว เป็นคำที่ดีที่สุด"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด