:::     :::

มุกใหม่หมี...

วันอังคารที่ 24 เมษายน 2561 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
3,687
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมซุต เออซิล จอมทัพทีมชาติเยอรมันเตรียมนำทัพปืนลงบู๊กับทีมตราหมีของ อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสบนเวทียูโรปาลีกรอบตัดเชือกนัดแรกที่'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'คืนวันพฤหัสฯนี้

แอตเลติโก มาดริด ขึ้นชื่อว่าเล่นในรังแข็งแกร่งเหนียวแน่นเพิ่งทำสถิติไม่เสียประตูติดต่อกัน 1,110 นาทีหลังเกมเสมอ เรอัล เบติส 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

นั่นคือความยอดเยี่ยมในการเล่นบนสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'ซึ่งทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ไม่สังเวยประตูให้คู่แข่งถึง 10 นัดติดต่อกัน 

8 เกมบนเวทีลีกากับ เรอัล เบติส, เลบันเต้, เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า, เซลต้า บีโก้, เลกาเนส, แอธเลติก บิลเบา, บาเลนเซีย และ ลาส ปัลมาส อีก 2 นัดบนเวทียูโรปาลีกกับ โลโคโมทีฟ มอสโก และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 

ทีมของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์เสียประตูล่าสุดใน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'เกิดขึ้นตั้งแต่เกมเสมอ คีโรน่า 1-1 เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาจากการทำประตูของ คริสเตียน ปอร์ตูเกส ปอร์ตู นาที 73 

นั่นคือจุดแข็งของ แอตเลติโก มาดริด ยุค ซิเมโอเน่ 

แต่ใช่ว่าทีมตราหมีของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์จะไม่มีปัญหา? จุดที่ซิเมโอเน่ยังแก้ไม่ตกคือเกมนอกบ้านที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหลัง แอตเลติโก มาดริด เสียประตูมาตลอด 8 เกมล่าสุด 

มันเกิดขึ้นทั้ง 3 เกมเยือนบนเวทียูโรปาลีกกับ เอฟซี โคเปนเฮเกน, โลโคโมทีฟ มอสโก และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 

อีก 5 นัดบนเวทีลีกากับ เซบีย่า, บาร์เซโลน่า, บียาร์เรอัล, เรอัล มาดริด และ เรอัล โซเซียดาด 

นั่นคือจุดที่ ซิเมโอเน่ ต้องแก้ไขก่อนนำทีมตราหมีเยือน'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'ของ อาร์เซน่อล บนเวทียูโรปาลีกรอบตัดเชือก นัดแรก คืนวันพฤหัสฯนี้ 

มันเป็นการดวลกันครั้งแรกบนเวทียุโรปของสโมสรจากนครหลวงของ สเปน และ อังกฤษ ซึ่งจะเป็นการนำทีมลงเล่นในรังแมตช์ที่ 102 และเป็นเกมสุดท้ายในบ้านของชายชื่อ อาร์แซน เวนเกอร์ หลังการประกาศวางมือเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมายุติบทบาทกุนซือ อาร์เซน่อล 22 ปีหลังจบฤดูกาลนี้ 

ทั้งสองทีมเคยพบกันในศึก'เอมิเรตส์ คัพ'ทัวร์นาเมนต์ปรี-ซีซั่น เมื่อปี 2009 ซึ่ง อาร์เซน่อล เฉือนชนะ แอตเลติโก มาดริด ของ อาเบล เรซีโน่ 2-1 

อาร์เซน่อล มีสถิติเป็นรองสโมสรจากสเปนบนเวทียุโรป ทีมปืนโตคว้าชัยเพียง 10 ครั้งจากการพบทีมสเปน 31 นัดบนเวทียุโรป โดยตกเป็นฝ่ายปราชัยถึง 14 ครั้ง 

แต่สาวกทีมปืนโตพอจะชื่นมื่นขึ้นมาบ้างเมื่อ อาร์เซน่อล มีสถิติการเล่นในถิ่นค่อนข้างดีจากการลงเล่น 14 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 3 หนล่าสุดคือเกมพ่าย บาร์เซโลน่า คารัง 0-2 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีม นัดแรก ช่วงฤดูกาล 2015-16 

อาร์เซน่อล ชนะถึง 5 จาก 9 ครั้งที่พบกับสโมสรจากสเปนในรอบน็อกเอาท์บนเวทียุโรป แต่พ่ายทั้ง 3 หนล่าสุดซึ่งทั้งหมดเป็นการพบกับ บาร์เซโลน่า บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก (รอบ 8 ทีมฤดูกาล 2009-10, รอบ 16 ทีมฤดูกาล 2010-11 และ รอบ 16 ทีมฤดูกาล 2015-16)

ทีมปืนโตเคยเอาชนะ บียาร์เรอัล ในรอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2005-06 ด้วยสกอร์รวม 1-0 ทว่าท้ายสุดแล้วทีมของ เวนเกอร์ ก็พลาดท่าพ่าย บาร์เซโลน่า ในนัดชิงชนะเลิศที่กรุงปารีสในปีดังกล่าว 1-2 

แอตเลติโก มาดริด มีสถิติข่มสโมสรจากอังกฤษบนเวทียุโรปชัดเจน จาก 27 ครั้งที่ผ่านมา ทีมตราหมีทำสถิติชนะ 10 เสมอ 11 แพ้ 6 พวกเขาเป็นฝ่ายที่ผ่านเข้ารอบถึง 7 จาก 9 ครั้งที่ดวลกับทีมเมืองผู้ดีในรอบน็อกเอาท์บนเวทียุโรป มีเฉพาะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เคยเตะหมีตกรอบ ยูฟ่า คัพ ในช่วงฤดูกาล 1974-75 กับ 2007-08 เท่านั้น 

ทว่าทีมตราหมีมีปัญหากับการเล่นนอกบ้านไม่ต่างจากปัจจุบันเพราะพวกเขาคว้าชัยนอกรังเพียง 2 จากทั้งหมด 12 ครั้งและพ่ายคู่แข่งถึง 4 หน 

สองครั้งล่าสุดที่ยกพลมาเยือนเมืองผู้ดีปรากฎว่า แอตเลติโก มาดริด ยันเสมอคู่แข่ง 1-1 ทั้งเกมกับ เลสเตอร์ ในรอบควอเตอร์ไฟนัลนัด 2 ช่วงซีซั่นที่ผ่านมา รวมถึงการเล่นรอบแบ่งกลุ่มกับ เชลซี ในฤดูกาลนี้ ซึ่ง ซาอูล ญีเกซ เป็นคนทำประตูทั้งสองนัด 

แอตเลติโก มาดริด เคยดวลกับ ลิเวอร์พูล ในรอบรองชนะเลิศของศึกยูโรปาลีก ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งต้องชี้ขาดกันในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมสองที่แอนฟิลด์ 

ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กระทุ้งประตูโทนให้ทีมตราหมีเก็บชัยชนะบนสังเวียน'บีเซนเต้ กัลเดรอน'ก่อนในแมตช์แรก แต่ ลิเวอร์พูล เอาคืนได้จากการทำประตูชัยในช่วงท้ายครึ่งแรกจาก อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ก่อนที่ ยอสซี่ เบนายูน จะยิงให้ทีมหงส์แดงขึ้นนำช่วงนาที 95 ทว่า ฟอร์ลัน กลายเป็นตัวแสบของ'เดอะ ค็อป'หลังยิงประตูตีเสมอช่วงนาที 102 แย่งตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสำเร็จ 

ทีมตราหมีคว้าแชมป์ในปีนั้นไปครองหลังเกมเชือด ฟูแล่ม 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษจากการทำประตูชัยของ ฟอร์ลัน หลังเสมอกันใน 90 นาที จากประตูขึ้นนำของหัวหอกชาวอุรุกวัยช่วงนาที 32 แต่ ไซม่อน เดวิส ตีเสมอให้ฟูแล่มในอีก 5 นาทีต่อมา 

อาร์เซน่อล มีนักเตะในทีมเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้คือ เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอาร์เมเนียที่สอยแชมป์กับ แมนฯยูไนเต็ด ซีซั่นก่อน 

ขณะที่นักเตะ แอตเลติโก มาดริด หลายคนเคยสัมผัสแชมป์รายการนี้มาแล้วโดยเฉพาะ บิคตอร์ มาชิน บีโตโล่ กับ เควิน กาไมโร่ ที่ฟาดแชมป์ยูโรปาลีกถึงคนละ 3 สมัยในช่วงที่ยังค้าแข้งกับ เซบีย่า (2013-14, 2014-15, 2015-16)

ส่วน ฟิลีเป้ ลุยส์, กาเบรียล เฟร์นานเดซ กาบี, ดีเอโก้ โกดิน, ฆวนฟราน, โกเก้ และ ซาอูล เคยคว้าแชมป์ภายใต้การคุมทีมของ ซิเมโอเน่ ในฤดูกาล 2011-12 หลังการสยบ แอธเลติก บิลเบา 3-0 จากการเหมาสองของ ราดาเมล ฟัลเกา บวกอีกหนึ่งเม็ดจาก ดีเอโก้ คอสต้า 

เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังเคยสอยแชมป์ยูโรปาลีกกับ เชลซี ในฤดูกาล 2012-13 หลังฟาดแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับทีมสิงห์น้ำเงินซีซั่นก่อนหน้านั้น 

แอตเลติโก มาดริด มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายรายโดยเฉพาะสองฟูลแบ็ก ฟิลีเป้ ลุยส์ กับ ฆวนฟราน จะพลาดการลงเล่นกับทีมปืนโตทั้งสองนัด 

ทีมตราหมีเป็นทีมที่มีรูปแบบการเล่นแน่นอนที่เราคุ้นเคยกันดีกับระบบ 4-4-2 แต่ผลพวงจากอาการฟอร์มบู่นอกบ้านทำให้ ซิเมโอเน่ อาจทำเซอร์ไพรส์ด้วยการปรับมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์ในเกมเยือน'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'วันพฤหัสฯนี้ 

ซิเมโอเน่ เลือกพักแข้งตัวหลักอย่าง อองตวน กรีซมันน์, โกเก้, ดีเอโก้ โกดิน, ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ รวมถึง เควิน กาไมโร่ จากเกมเสมอทีมเบตีโก้เพื่อเก็บแรงไว้ลงบู๊กับอาร์เซน่อลโดยเฉพาะ 

เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์กล่าวถึงเกมเยือน'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'วันพฤหัสฯนี้ว่า'การเลือกทีมของผมในลอนดอนขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผมคิดในวันพุธนี้ เช่นเดียวกับสิ่งที่หัวใจผมสัมผัสถึง'

'ผมอาจจะเลือกใช้ 3 เซนเตอร์ในลอนดอน ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?'

'ทีมกำลังมุ่งหน้าไปที่เกมวันพฤหัสฯนี้เป็นอย่างดี เราจะเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและนักเตะตอบสนองดี ผมต้องโรเตชั่นนักเตะเพื่อทำให้แน่ใจว่าเราจะมีผู้เล่นที่สดชื่น นั่นเป็นเหตุผลที่ผมส่ง บีโตโล่, เฟร์นานโด ตอร์เรส, (อังเคล) กอร์เรอา และ ซาอูล (ญีเกซ) ลงเล่นมากขึ้น'

'ผมคาดหวังว่าทุกคนจะฟิตสมบูรณ์พอสำหรับเกมในวันพฤหัสฯนี้' 

อย่างไรก็ตาม ซิเมโอเน่ จะไม่มี ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าเชื้อสายบราซิเลียนซึ่งมีอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง แต่หัวหอกวัย 29 ปีน่าจะฟิตกลับมาทันลงเล่นเกมสองที่'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'ในช่วงสัปดาห์หน้า 

ถ้าพิจารณาจากบทสัมภาษณ์ของ ซิเมโอเน่ สามารถตีความได้ 2 แง่ อย่างแรกคือ'สับขาหลอกคู่แข่ง'เพราะจากประวัติการทำงานของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเกมใหญ่แค่ไหนหรือคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ซิเมโอเน่ จะจัดแผงแบ็กโฟร์ลงรับมือเสมอ 

ส่วนอีกแง่คือ ซิเมโอเน่ คิดและเลือกจะใช้งาน 3 เซนเตอร์จริงตามที่พูด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทีมตราหมีต้องเผชิญหน้ากับทีมที่เล่นเกมสุดรุกร้อนแรงอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งกระทุ้ง 29 ประตูบนเวทียูโรปาลีกซีซั่นนี้ 

อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะซิเมโอเน่ต้องการรับประกันว่าแนวรับจะไม่เสียประตูในเกมเยือน'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'ในวันพฤหัสฯนี้ หลังทีมตราหมีทำผลงานออกทะเลในการเล่นนอกรังตลอด 5 เกมที่ผ่านมา 

ถ้าซิเมโอเน่ยังยึดแนวทางเดิม 4 แนวรับชุดเยือนรังปืนคือ ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ, ดีเอโก้ โกดิน กับ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ แต่หากเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์งัดมุกใหม่มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ก็สามารถเติม สเตฟาน ซาวิช ลงเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคน แต่มันก็จะทำให้แดนกลางลดความแข็งแกร่งลงไปเช่นเดยวกัน

ตามการฝึกซ้อมล่าสุดของทัพ'โกลโชเนโรส'เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซิเมโอเน่ เลือก โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ กับ โธมัส พาร์เตย์ ลงซ้อมในฐานะตัวจริงก่อน สเตฟาน ซาวิช กับ กาบี เฟร์นานเดซ ขณะที่ เควิน กาไมโร่ จะลงเล่นกองหน้าคู่ กรีซมันน์ โดยมี อังเคล กอร์เรอา กับ โกเก้ เป็นตัวริมเส้นสองฝั่ง 

นั่นหมายความว่า ซิเมโอเน่ ยังเตรียมทีมเยือน'เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม'ด้วยระบบ 4-4-2 โดยไม่มีการพลิกแพลงปรับมาใช้ระบบ 3 เซนเตอร์แต่อย่างใด เว้นเสียแต่ว่าเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์จะเปลี่ยนแผนในวันพุธเท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด