นอกจากดาวซัลโวประจำทีมอย่าง "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" และดาวเตะความเร็วสูงอย่าง “ซาดิโอ มาเน่” ที่ช่วยผลิตสกอร์อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว
หนึ่งในสามประสานที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคือ "โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่" ที่ปัจจุบันยิงรวมกันทุกรายการไปแล้ว 27 ประตู โดยแบ่งออกเป็นพรีเมียร์ลีก 15 ประตู, เอฟเอ คัพ 1 ประตู และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 11 ประตู
จากผลงานดังกล่าว ต้องบอกว่าฟีร์มิโน่ ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เพราะอย่าลืมว่า เขาไม่ได้เริ่มต้นจากการเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้ามาก่อน ซึ่งคนที่ช่วยปรับจูนนั่นคือเยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน นั่นเอง
ซึ่งทั้งสองคนได้เรียนรู้กันมาตั้งแต่สมัยที่ต่างทำงานในวงการฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งฟีร์มิโน่ เป็นนักเตะของฮอฟเฟ่นไฮม์ ขณที่คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
"ย้อนกลับไปตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดในประเทศบราซิล ตอนนั้นมีสโมสรจากเยอรมัน ยื่นข้อเสนอเข้ามา มันเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเทศใหม่, อาหารการกิน, และวัฒนธรรม ในที่สุดผมก็ปรับตัวได้"
"ประสบการณ์การเล่นที่เยอรมัน ในครั้งนั้น ช่วยเหลือผมได้เป็นอย่างมาก" ฟีร์มิโน่ เล่าต่อ "ตลอกช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมได้ชมเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก"
"ผมอยากบอกว่า ผมดูฟุตบอลหลากหลายมาก เพราะมันเป็นกีฬาเหมือนกัน เมื่อมีข้อเสนอจากลิเวอร์พูล ยื่นเข้ามา ผมแทบจะไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยล่ะ"
ฟีร์มิโน่ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่เขาสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดี เกิดจากการทำงานร่วมกับคล็อปป์ ที่ย้ายมาทำงานในถิ่น "แอนฟิลด์" ในช่วงตุลาคม 2015 โดยเหตุผลหลักคือเรื่องของความสัมพันธ์ภายในทีม
"ความสัมพันธ์ของผมกับเยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นลูกทีมของเขา"
"เราเข้ากันได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่ผมกับเขาเท่านั้น แต่เขายังเข้ากันได้ดีกับลูกทีมทุกคน ผมขอย้ำว่าทุกคนจริงๆ เขาเป็นคนที่ทำงานหนักมาก และผมก็ชอบแบบนั้นเหมือนกัน เพราะสไตล์การเล่นของผม คือการชอบถอยลงไปช่วยเล่นเกมรับด้วย"
จากคำพูดข้างต้นจะเห็นได้ว่า ฟีร์มิโน่ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ และเติมเต็มมันด้วยพรแสวง เขาได้ยืนยันว่า กีฬาฟุตบอลในความหมายของตัวเองคือ ทีมต้องมาก่อนเสมอ แม้จะต้องปรับบทบาทไปเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ค่อยมีประสบการณ์ก็ตาม
"ผมเป็นนักเตะที่ทำงานหนัก และชอบช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมเสมอ นอกจากนี้ ผมเป็นคนที่ลงสนามด้วยทัศนคติที่ดี และเรียนรู้ระบบการเล่นของทีม"
"ตั้งแต่เยอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมของเรา ผมก็ได้รับมอบหมายให้เล่นในตำแหน่งใหม่ นั่นคือกองหน้าหมายเลข 9 ทั้งที่ผมไม่เคยเป็นกองหน้ามาก่อนเลย"
"อย่างไรก็ตาม ผมปรับตัวกับการเล่นตำแหน่งนี้ และเริ่มชอบมันมากขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกสบายใจ และปรับตัวเข้ากับมันได้แล้ว ผมอยากเล่นกองหน้าไปตลอดจนจบเส้นทางการค้าแข้งเลย"
"ผมมีความสุขมากนะ ไม่ว่าตัวเองจะสามารถยิงประตู หรือแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมก็ตาม การจ่ายบอลยังเป็นเรื่องที่ผมชอบ ผมต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่การคิดเรื่องของการยิงประตูด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว"
"ก่อนลงสนามแข่งขัน ผมเตรียมตัวอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของร่างกาย และจิตใจ ผมมักกินอาหารที่มีประโยชน์ ผมต้องทำให้มั่นใจว่า ตัวเองกินอาหารที่เหมาะสมที่สุด"
"นอกจากนี้ ผมยังมีความศรัทธาในพระเจ้า ผมจะอธิษฐานก่อนเริ่มเกมทุกครั้ง ผมเตรียมความพร้อมก่อนแข่งขันในทุกรูปแบบจริงๆ"
ผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้เขาได้รับการยกย่องจากบรรดาแฟนบอลลิเวอร์พูล ร่วมไปถึงนักเตะระดับตำนานของสโมสรแห่งนี้อีกหลายคน โดยมองว่า เขาจะเป็นกำลังหลักในแนวรุกของเครื่องจักรสีแดงในอนาคต
ฟีร์มิโน่ เพิ่มเติมว่า "ผมขอบคุณที่หลายคนยกย่องผม ผมคิดว่ามันคงเป็นเพราะผลงานที่ผมแสดงออกมาในสนาม นอกจากนี้ ผมยังเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี และไม่ค่อยสร้างปัญหาให้กับใคร"
"แน่นอนว่า ผมไม่เคยหยาบคายกับใครด้วย ส่วนในสนาม ผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยการเล่นฟุตบอลด้วยหัวใจ ผมคิดว่ามันเป็นแบบนั้นนะ"
"เมื่อผมพลาดโอกาส หรือยิงพลาดไป ผมพูดกับตัวเองว่า ควรทำให้ดีกว่านี้ พื้นฐานของการทำงานคือ จงอย่าพอใจอะไรง่ายๆ ผมอยากทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเสมอ"
"ผมไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยนะ นี่เป็นวิธีการสร้างแรงจูงใจในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือการทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด แต่ผมก็รู้ดีว่า ไม่มีอะไรออกมาสมบูรณ์แบบหรอก"
"ดังนั้น ผมเลยต้องทำงานหนัก และเตรียมตัวให้สมบูรณ์ที่สุดในแต่ละแมตช์ ผมอยากบอกว่า เป้าหมายจะมาถึงได้ ส่วนหนึ่งมาจากการเตรียมการที่ดี"
นอกจากการเตรียมความพร้อมแล้ว ฟีร์มิโน่ ยังปิดท้ายถึงเคล็ดลับสำคัญในการทำผลงานได้ดี นั่นคือเรื่องของครอบครัว และการมองโลกในแง่ดี
"ผมเป็นคนที่มีความสุขนะ และชอบยิ้มอยู่เสมอ ผมชอบอยู่บ้านกับสมาชิกในครอบครัว นั่นเป็นสิ่งยืนยันว่า คุณจะก้าวขาลงสนามไปพร้อมกับความสุขเช่นเดียวกัน" ดาวเตะทีมชาติบราซิล ทิ้งทาย
