เด็กนรกแตกที่สร้างชื่อกับ โมนาโก ก่อนจะเป็นที่หมายตาของบรรดาทีมใหญ่ในยุโรป

หลายทีมพยายามแย่งตัวเจ้าหนูรายนี้ไปร่วมทีม แต่ท้ายที่สุดด้วยหัวใจที่เรียกร้อง เป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ที่ได้นักเตะคนนี้ไปร่วมทีม

แม้จะเป็นแค่สัญญายืมตัว แต่ก็พ่วงมาด้วยออปชั่นแสนแพงซึ่งทาง เปแอสเช ก็แสดงทีท่าว่าพร้อมที่จะดึงเจ้าหนูวัย 19 รายนี้ไปใช้งานแบบถาวร

ถึงตรงนี้ ฤดูกาลล่วงเลยมาถึงช่วงท้ายซึ่งผลงานของทาง เอ็มบั๊ปเป้ กับทีมดังจากเมืองหลวงฝรั่งเศสถือว่าเดินไปในทิศทางที่ดี

เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเจ้าหนูรายนี้กับตลอดช่วงปีที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ...

ฉลองแชมป์ (อีกครั้ง)

- การคว้าแชมป์มันทำให้รู้สึกดีเสมอ เราทุกคนต่างภูมิใจเพราะเราทำงานหนักมาตลอดทั้งปี ในฝรั่งเศส ทุกๆคนชอบเห็นเราล้มลง แต่เราต้องออกไปและจัดการมัน เนื่องจากหากเราไม่ทำเช่นนั้น ทุกๆคนก็จะทับถมเราและเป็นพวกเราเองนี่แหละที่จะไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มแรก ตอนนี้เรามีความสุขที่คว้าแชมป์มาครองนั่นคือสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จในลีก

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่

- ตอนนี้มีหลายสถิติให้เราทำลาย ทุกคนในทีมต่างเป็นพวกที่ชอบแข่งขันและแรงมุ่งมั่นในการที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ผลักดันเราในตอนนี้ ฤดูกาลนี้เรามีโอกาสตั้งสถิติในการคว้าแต้มมากที่สุดในลีก เรารู้ว่าทีมนี้สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้ และเราจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไป เราจะทำทุกๆสิ่งในการที่เราจะทำมันให้สำเร็จ

โลกที่เปลี่ยนไป! 

- โลกของคุณจะเปลี่ยนไปทั้งในและนอกสนามเมื่อคุณมาที่นี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง) รวมไปถึงในส่วนของการต้องเจอกับสื่อมวลชนด้วย ทุกๆสายตากำลังจับจ้องมาที่เรา ซึ่งมันเป็นทุกๆเรื่องจริงๆ มันเป็นโลกที่แตกต่างชัดเจน แต่ก็เหมือนกับที่ผมเคยพูดไปนั่นแหละ ผมปรับตัวได้รวดเร็วและรู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน แถมยังทำผลงานได้ดีและทำประตูมากมาย มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีและตอนนี้เราต้องเดินหน้าและทำให้ปีต่อไปดีขึ้นกว่าเดิม

สิ่งที่แตกต่างกัน

- กับ โมนาโก นั้น เราเล่นในเกมสวนกลับมากกว่า ซึ่งเรารอให้คู่แข่งเป็นฝ่ายพลาดท่าให้เราก่อนที่จะลงโทษพวกเขา แต่กับ ปารีส นั้น คู่แข่งจะลงไปตั้งรับ คุณต้องสร้างโอกาสให้เปิดออก มีพื้นที่ให้วิ่งน้อย, ระยะห่างที่แคบกว่า, ก้าวอันน้อยนิด, การเปลี่ยนทิศทาง มันแตกต่างกันมาก แต่มันเป็นการเพิ่มสิ่งที่แปลกใหม่เข้ามาในเกมของผมทำให้ตนเองเป็นนักเตะที่สมบูรณ์มากขึ้น มันดีเลยล่ะ! 

หน้าที่ที่เปลี่ยนไป

- ที่ โมนาโก ส่วนใหญ่ผมจะเล่นเป็นกองหน้าตัวกลาง มีหน้าที่ในตรงกลางมากกว่า หรือหมายถึงการเล่นเป็นตัวเป้า ผมพยายามที่จะประสานงานกับ ราดาเมล ฟัลเกา ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงในตอนนี้คือผมกำลังเล่นในตำแหน่งปีก คุณต้องทำงานหนักเพื่อทีม เมื่อคุณเป็นกองหน้าตัวเป้า ทีมจะทำงานเพื่อคุณ คุณแค่ลงไปปิดงาน แต่เมื่อคุณเป็นปีก คุณมีสิ่งที่ต้องสร้างให้กับเพื่อนร่วมทีม คุณต้องให้ผู้อื่นมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำในฤดูกาลนี้ซึ่งมันกำลังเป็นไปด้วยดี

เรียนรู้อยู่เสมอ

- ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ผมยังคงศึกษานักเตะคนอื่นๆผ่านจอโทรทัศน์ ยกตัวอย่าง เนย์มาร์ ซึ่งผมเห็นหลายสิ่งในจอโทรทัศน์และคิดว่า 'ทำไมเราไม่ลองทำแบบนั้นบ้างนะ' ดังนั้นลองพยายามดูซึ่งถ้ามันออกมาดีก็เยี่ยม แต่ถ้าไม่ คุณก็กลับไปที่จุดเดิม มันคือสัญชาตญาณ คุณได้บอลลองทำมันดู คุณอย่าไปคิดเกี่ยวกับมัน เพราะในตอนที่คุณใช้ความคิดคุณก็จะโดนปะทะ ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับสัญชาตญาณ ผมพยายามเล่นในทิศทางนั้นและผมปรารถนาอยู่เสมอ

เป้าหมายที่มากกว่าเดิม

- ตลอดฤดูกาลนี้มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่ เมื่อคุณอยู่ในช่วงผลงานที่ดีและไม่ดี เมื่อคุณลงฝึกซ้อมพร้อมกับทำงานอย่างหนัก ผมคิดว่าคุณสมควรได้รับในสิ่งที่คุณทำลงไป เราคว้าแชมป์มาได้ 2 รายการ และตอนนี้เหลืออีก 1 ที่กำลังจะเข้ามา และหลังจากนั้นฟุตบอลโลก ดังนั้นปีนี้จะเป็นปีที่ดีกว่าเดิม