ณ สนามโอลิมปิก กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน วันที่ 26 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการเจอกันของเรอัล มาดริด และลิเวอร์พูล โดยฝ่ายแรกลุ้นเป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 13 (และเป็นแชมป์ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน) ส่วนฝ่ายหลังต้องการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 5

ก่อนที่เราจะเดินทางไปถึงนัดชิงชนะเลิศ ขอถือโอกาสนี้นำเพื่อนๆไปพบกับสถิติต่างๆที่น่าสนใจของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ กันหน่อยดีกว่า

เราไปดูกันว่า 124 จาก 125 นัดที่ผ่านมา มีเรื่องราวด้านตัวเลขใดที่น่าสนใจกันบ้าง ผ่านการรวบรวมของเว็บอย่างเป็นทางการของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ทีมที่ยิงมากสุด

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ยิงประตูกันอย่างถล่มทลาย รวมแล้วทั้งสิ้น 397 ประตู (เฉลี่ยเกมละ 3.20 ประตู) ซึ่งทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดคือลิเวอร์พูล ที่กดคู่แข่งไป 40 ลูก และน่าจะครองแชมป์ในปีนี้ได้แน่นอนแล้ว

เพราะถือเป็นการทิ้งห่างผู้ที่ตามมาอย่างเรอัล มาดริด (30), เปแอสเช (27) และบาเยิร์น มิวนิค (26) อยู่พอสมควรเลยทีเดียว งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ "เยอร์เก้น คล็อปป์" ที่ปลุกเครื่องจักรสีแดง ให้กลับมาทำงานอีกหน

ทีมที่มีโอกาสลุ้นทำประตูมากสุด

ตำแหน่งนี้เป็นของบาเยิร์น มิวนิค ที่มีโอกาสลุ้นยิงประตูมากถึง 219 ครั้ง น่าเสียดายที่สถิติหยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากพวกเขาตกรอบรองชนะเลิศ ด้วยน้ำมือของเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นทีมที่ลุ้นยิงประตูอันดับสองที่ 208 ครั้ง

ตามมาด้วยลิเวอร์พูล (189) และโรม่า (161) ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทุกทีมข้างต้นนั้น คือทีมที่ผ่านมาเล่นในรอบรองชนะเลิศปีนี้ทั้งหมด ซึ่งเรอัล มาดริด มีโอกาสแซงเหมือนกัน หากว่ามีโอกาสลุ้นยิงอย่างน้อย  12 หนในรอบชิงชนะเลิศ

ทีมที่มีเปอร์เซนต์การครองบอลมากสุด

ไม่น่าแปลกใจ ที่ตำแหน่งนี้จะตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากกุนซืออย่าง "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องของการครองบอลอยู่แล้ว

จากการจดสถิติล่าสุด พลพรรค "เรือใบสีฟ้า" มีอัตราครองบอลเฉลี่ยต่อหนึ่งเกมอยู่ที่ 62 เปอร์เซนต์ โดยทิ้งห่างผู้ที่ตามมาอย่างบาร์เซโลน่า (61), บาเยิร์น มิวนิค และโบรุสเซีย ดอร์มุนด์ (56) 

ทีมที่มีเปอร์เซนต์การผ่านบอลสำเร็จสูงสุด

ตำแหน่งนี้มีด้วยกัน 3 ทีม นั่นคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เปแอสเช และเรอัล มาดริด ที่เปอร์เซนต์การผ่านบอลสำเร็จเท่ากันอยู่ที่ 89 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว

เป็นการนำหน้าบาร์เซโลน่า (88) และนาโปลี (87) ซึ่งถือว่าทีมที่พูดมาเหล่านี้ เป็นทีมที่เน้นการเล่นแบบเท้าสู่เท้าแบบแม่นยำเอามากๆ 

นักเตะที่ยิงมากสุด

เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์จากเรอัล มาดริด โดยเจ้าตัวกดไปทั้งหมด 15 ประตูแล้ว และน่าจะครองดาวซัลโวในปีนี้อย่างแน่นอน

เพราะพวกที่ตามมาอย่าง 3 ประสานลิเวอร์พูล ทั้งโมฮาเหม็ด ซาลาห์ (10), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (10) และซาดิโอ มาเน่ (9) ไม่น่าจะตามทันแล้ว เพราะเหลือนัดชิงชนะเลิศอีกเพียงเกมเดียวเท่านั้น

นักเตะที่แอสซิสต์มากสุด

เข้าอันดับมาอย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อเจมส์ มิลเนอร์ ดาวเตะอเนกประสงค์ของลิเวอร์พูล กำลังนำอยู่ในเวลานี้ที่จำนวน 9 แอสซิสต์

เป็นการทิ้งห่างเพื่อนร่วมทีมอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เพียงแค่แอสซิสต์เดียวเท่านั้น คงเป็นสองคนนี้ที่ต้องลุ้นกันในเกมสุดท้าย เพราะผู้ที่ตามมาอย่างหลุยส์ ซัวเรซ ของบาร์เซโลน่า (5) ไม่ทันแน่นอนแล้ว

นักเตะที่ผ่านบอลสำเร็จมากสุด

ตำแหน่งนี้เป็นของ เอเวร์ บาเนก้า ห้องเครื่องจากเซบีย่า โดยเจ้าตัวผ่านบอลสำเร็จไปทั้งหมด 851 ครั้ง โดยทำให้ทราบได้ว่า เขาคือฟันเฟืองในการขึ้นเกมของทีมดังจากสเปน อย่างแท้จริง

ซึ่งเจ้าตัวน่าจะซิวตำแหน่งนี้ไปครองแน่นอนแล้ว เนื่องจากผู้ตามอย่างเซร์คิโอ บุสเกตส์ (786) และโทนี่ โครส (766) ตามมาห่างเหลือเกิน 

นักเตะที่วิ่งมากสุด

ตกเป็นของอเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แบ็คจอมบุกของโรม่า ที่วิ่งไปทั้งหมด 128,862 เมตร โดยตามมาด้วยโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และโจชัว คิมมิช ที่จำนวน 119,227 และ 114,677 ตามลำดับ

ผู้รักษาประตูที่เซฟมากสุด

เหลือเชื่อมากว่า ตำแหน่งนี้เป็นของอลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารจอมหนึบจากโรม่า ที่เซฟไปแล้ว 47 หน เรียกได้ว่า หากไม่ใช่ลูกยาก กินนายด่านรายนี้ลำบากมาก

ส่วนนายทวารคนอื่นที่ตามมา ส่วนมากอยู่กับทีมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นอิบราฮิม เซอิช จากคาราบัค (35), อังเดร ปาตอฟ จากชัคตาร์ โดเนตส์ค (34) และยาสมิน ฮันดาโนวิช จากมาริบอร์ (32)