กับระยะเวลาที่คาบเกี่ยวเพียง 1 เดือน ทำให้โจทย์ใหญ่ของสมาคมฟุตบอลฯต้อง ระดมสมองกันอย่างหนักว่าจะเอาอย่างไร ขนาด พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกสมาคมยังออกมาเผยว่า จะไม่ใช้ทีมชุด U-23 แน่ และเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบเวลานี้

มองตามความเป็นจริง เอเชียนคัพ อาจเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญกว่า เพราะเป็นกำแพงให้ปีนป่ายพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และส่งผลต่อ “ฟีฟ่า แรงกิ้ง” ที่พลพรรคช้างศึกกำลังโหยหา

เพียงแต่ว่า  “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน สมาคมฟุตบอลตระหนักดี การคว้าแชมป์รายการนี้แค่ “เสมอตัว” หากแต่พลาดเมื่อไหร่ เตรียมถูก “กระทืบ” จากแฟนบอลและสื่อ (บางสำนัก) รัวๆ

ทำให้ชอยส์ที่มีโอกาสออกมากสุด อาจเป็นการใช้ “ชุดผสม” ลุยอาเซียนคัพ กล่าวคือแกนหลักอาจถูกพักไว้ลงเล่น เอเชียนคัพ ต้นปีหน้าแทน

วันนี้เลยหยิบ 5 นักเตะ ที่โชว์ฟอร์มสุดติ่งในลีก และมีโอกาสถูกเรียกไปรับใช้เป็น “อะไหล่” ช้างศึกในรายการ ซูซูกิ คัพ ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้มาฝาก

ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

แข้งวัย 22 ปี มีฤดูกาลที่สุดยอดกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้ตำแหน่งถนัดจะเป็นปีก ทว่าเมื่อถูกถอยมาเล่นแบ็ก “พี” ทำได้ดีไม่แพ้กัน จนได้รับโอกาสจาก โบซิดาร์ บันโดวิช & เนวิน ชิดชอบ ลงรับใช้ทีมบ้านเกิดบ่อยครั้ง

ด้วยสไตล์ที่ไปกับบอลได้ดี มีความเร็ว และลูกขยัน อีกทั้งเมื่อได้รับโอกาสก็สามารถทำได้เริ่ด ผ่านการเล่นทีมชาติชุดเล็กมา ทำให้น่าจะเป็นอีกครั้งที่ถูก มิโลวาน ราเยวัช จับตาดูอยู่ ที่สำคัญข้อได้เปรียบของ “พี” สามารถเล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวาด้วย

สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อกฯ)

นี่คือนักเตะที่ครั้งหนึ่งแฟนบอลขนานนามติดตลกว่า “สุมาญ่า ปุริซิอุส” วันเวลาล่วงผ่าน เขากลับกลายเป็นผู้เล่นที่หลายคนกวักมืออยากให้ติดทีมชาติ

การครองตำแหน่งดาวซัลโว (สัญชาติไทย) โมงยามนี้คือข้อพิสูจน์ชั้นดี ของมิดฟิลด์วัย 31 ขวบ จากแข้งที่เป็นเพียง “ตัวเลือกสำรอง” ถูกถีบขึ้นมาเป็นตัวหลัก และมีทุกอย่างที่กองกลางต้องมี ยิงไกล ลูกนิ่ง คิลเลอร์พาส แม้จะถูกเมินจากทีมชาติใน “คิงส์คัพ” มา ทว่าหนนี้น่าจะเป็นทีของ สุมาญ่า ปุริซิอุส เสียที

ชญาวัต ศรีนาวงษ์ (พัทยา ยูไนเต็ด)

บนวัยเบญจเพส กลับเป็นช่วงรอยต่อชีวิตที่ทำให้ “บี” เป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากหกล้มครั้งใหญ่จากอาการบาดเจ็บ การได้รับโอกาสวาดลีลาลูกหนังบนลีกสูงสุดในซีซั่นนี้ น่าจะทำให้หลายคนหันมามองเจ้าตัวมากขึ้น

เขาผ่านทีมชาติระดับเยาวชน และชีวิตลูกหนังที่ล้มเหลว นั่นคือภูมิต้านทาน ด้วยฟอร์มสุดเฉียบที่กดให้ พัทยาฯ ไปถึง 5 ตุง และยังเป็นจอมทัพสารพัดประโยชนที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า ปีก มิดฟิลด์ตัวรุกและรับ ทำให้อาจเป็นอีกรายที่ถูกมีชื่อครั้งนี้

 
ศิวกรณ์ เตียตระกูล (สิงห์ เชียงรายฯ)

จอมทัพหมายเลข 10 วัย 23 ปี เป็นอีกรายที่ได้รับการจับตามองสำหรับการมีชื่อในทีมชาติครั้งนี้ แม้ที่ผ่านมา “เฟย” จะถูกเรียกคติดทีมในยุคของ ซิโก้ และ ราเยวัช  ทว่ามีส่วนร่วมเพียงจำกัดจำเขี่ยมากกว่า

ฤดูกาลเจ้าตัวทำผลงานช่วยทัพเมืองเหนือได้อย่างดี กับตำแหน่งกองกลางตัวรุก ที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นทุกวัน ฟอร์มเจ้าตัวน่าจะกระแทกเบ้าตา ราเยวัช หรือ วิทยา เลาหกุล ไม่มากก็น้อย

เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี)

หลังมีโมงยามที่หอมหวาน ก่อนหายไปจากสารบบทีมชาติอย่างเงียบๆ ปัจจุบันขณะ “ก้อง” กลับมาวาดลวดลายได้น่ากลัวอีกครั้ง การกลายเป็นหนึ่งใน “เดอะ แบก” ทัพฉลามชล ส่งให้ออร่าเจ้าตัวถูกฉายแสงอีกครั้งในบทบาทตัวรุกฝั่งซ้าย ทั้งมีส่วนช่วย รวมถึงสอดเข้าไปยิงประตูอีกตามสไตล์ถนัด

หากเจ้าตัวยังรักษามาจรฐานการเล่น หรือถีบตัวเองให้แกร่งกว่านี้ได้ ไม่แน่ว่าประตูทีมชาติไทย อาจชายตามองเขากลับคืนสู่จุดเดิมอีกครั้ง