One Club Man Award (วัน คลับ แมน อวอร์ด) เป็นรางวัลที่ก่อตั้งและมอบโดยสโมสร แอธเลติก บิลเบา เพื่อมอบให้นักเตะที่เล่นอยู่กับสโมสรเดียวตลอดอาชีพ ซึ่งเริ่มจัดมอบรางวัลนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2015 

แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ อดีตพ่อมดลูกหนังของ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นนักเตะคนแรกที่รับรางวัล'วัน คลับ แมน อวอร์ด'เมื่อปี 2015

เลอ ทิสซิเอร์ ลงเล่นกับทีมนักบุญ 16 ฤดูกาล ระหว่างปี 1986-2002 

เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะของวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ช่วงพีคสุดไม่มีใครสามารถหยุด เลอ ทิสซิเอร์ ที่เปี่ยมไปด้วยทักษะความสามารถเชิงลูกหนังและมีทีเด็ดจากการยิงไกลทำให้เขาได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนถึง 3 ครั้ง เพียงแต่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์แม้แต่รายการเดียว 

มีหลายคนเคยกล่าวไว้ว่าถ้า เลอ ทิสซิเอร์ ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทีมใดทีมหนึ่ง เขาสามารถไขว่คว้าความสำเร็จได้ไม่ยาก แต่พ่อมดลูกหนังเลือกที่จะอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งเลิกเป็นนักเตะอาชีพ 

เลอ ทิสซิเอร์ เข้าใกล้ความสำเร็จมากที่สุดคือการนำ เซาธ์แฮมป์ตัน เข้าชิงฯรายการ'ฟูล เมมเบอร์ส คัพ'ฤดูกาล 1991-92 ซึ่งทีมนักบุญพ่าย ฟอเรสต์ 2-3

'ฟูล เมมเบอร์ส คัพ'เป็นรายการที่จัดขึ้นครั้งแรกในฤดูกาล 1985-86 หลังสโมสรอังกฤษถูกยูฟ่าแบนจากเวทียุโรปหลังเกิดโศกนาฏกรรมที่สนาม'เฮย์เซล สเตเดี้ยม'ของกรุงบรัสเซลส์เมื่อปี 1985 ซึ่งเป็นการนำทีมจาก 2 ลีกระดับท็อปคือ ดิวิชั่น 1 กับ ดิวิชั่น 2 ในขณะนั้นลงแข่งขัน แต่ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวมีอายุขัยสั้นเพียง 7 ปีเท่านั้น 

ระหว่างปี 1987-1989 'ฟูล เมมเบอร์ส คัพ'เคยใช้ชื่อ 'ไซม็อด คัพ'ตามสปอนเซอร์ และ เปลี่ยนมาเป็น'เซนิธ ดาต้า ซิสเต็มส์ คัพ'ในช่วงปี 1989-1992 

เลอ ทิสซิเอร์ ยิงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 ช่วงนาที 64 ก่อน เควิน มัวร์ จะทำประตูตีเสมอให้ทีมนักบุญอีก 6 นาทีต่อมา หลัง สก็อต เกมมิลล์ กับ คิงส์ลี่ย์ แบล็ค ยิงคนละประตูให้ ฟอเรสต์ นำในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ เกมมิลล์ จะยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 115 นำชัยให้ทีมเจ้าป่า 

อย่างไรก็ตาม เลอ ทิสซิเอร์ ยังได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมอาชีพหลังถูกโหวตให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีประจำฤดูกาล 1994-95 หลังคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมในฤดูกาล 1989-90 

เปาโล มัลดินี่ กองหลังระดับตำนานของ มิลาน คือนักเตะที่ได้รับรางวัล'วัน คลับ แมน อวอร์ด'คนที่ 2 เมื่อปี 2016 

มัลดินี่ ค้าแข้งกับ มิลาน นาน 25 ฤดูกาล ในช่วงปี 1984-2009 เขาลงเล่นกับทีมปีศาจแดง-ดำกว่า 973 นัดและกอบโกยความสำเร็จเป็นว่าเล่น 

ตำนานลูกหนังเมืองมะกะโรนีคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 7 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 ครั้ง, อิตาเลีย ซูเปอร์ คัพ 5 ครั้ง, ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 5 ครั้ง, อินเตอร์คอนติเนนตัล 2 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีก 1 ครั้ง 

แต่มัลดินี่ได้เพียงรองแชมป์โลกเมื่อปี 1994 กับรองแชมป์ยุโรปปี 2000 กับทีมชาติอิตาลีเท่านั้น นอกจากนี้เขายังเคยคว้าอันดับ 3 ของ'บัลลง ดอร์' 2 ครั้งเมื่อปี 1994 กับ 2003 

โจเซฟ ดีเตอร์ ไมเออร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เซ็ปป์ ไมเออร์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันตะวันตก ซึ่งค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ยาวนานถึง 17 ฤดูกาล ในช่วงฤดูกาล 1962-1979 คืออดีตนักเตะคนที่รับรางวัล'วัน คลับ แมน อวอร์ด'ครั้งที่ 3 เมื่อปี 2017

ไมเออร์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนบาเยิร์นตั้งแต่ปี 1958 ก่อนลงประเดิมเฝ้าเสาทีมชุดใหญ่ในอีก 4 ปีต่อมา เขาเป็นหนึ่งในทัพเสือใต้ยุคเรืองรองร่วมกับ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ กับ แกร์ด มุลเลอร์ ซึ่งคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 1973-76 

อดีตนายทวารคนดังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง, คัพวินเนอร์ส คัพ 1 ครั้ง และ อินเตอร์คอนติเนนตัล 1 ครั้ง 

ไมเออร์ ยังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก (1974) กับ แชมป์ยูโร (1972) ร่วมกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน 3 ครั้งและยังเป็นผู้รักษาประตูแห่งศตวรรษของเมืองเบียร์ด้วย 

รางวัล'วัน คลับ แมน อวอร์ด'ล่าสุดประจำปี 2018 ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งสโมสร แอธเลติก บิลเบา จะมอบรางวัลให้ การ์เลส ปูโยล อดีตกัปตันทีมบาร์เซโลน่า 

ปูโยล เดินทางมารับรางวัล'วัน คลับ แมน อวอร์ด'ครั้งที่ 4 ช่วงพักครึ่งเวลาของเกมระหว่าง แอธเลติก บิลเบา กับ เรอัล เบติส ซึ่งทีมดังแคว้นบาสก์คว้าชัยเหนือทีมเยือนจากแดนใต้ด้วยสกอร์ 2-0 จากการทำสองประตูในช่วงครึ่งหลังจาก อีเกร์ มูเนียอิน กับ อาริตซ์ อาดูริซ โดยรับมอบรางวัลจาก โจซู อูร์รูเตีย ประธานสโมสรบิลเบา  

อดีตกัปตันทีมอาซูลกราน่าก้าวเท้าเข้าสู่'ลา มาเซีย'ศูนย์ฝึกของสโมสรเมื่อปี 1995 โดยเริ่มต้นเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ก่อนขยับมาเล่นแบ็กขวาในอีก 2 ปีต่อมาจนกระทั่งลงหลักปักฐานกับตำแหน่งดังกล่าว 

ปูโยล ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่าเมื่อปี 1998 โดยลงเล่นตำแหน่งแบ็กขวา ก่อนปรับมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟตั้งแต่ปี 2003 และสวมปลอกแขนกัปตันทีมอาซูลกราน่าหลังการอำลาสโมสรของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ช่วงจบฤดูกาล 2003-04 เขาลงเล่นกับบาร์ซ่า 593 เกมก่อนประกาศอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2013-14 

กัปตันปูโยลประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลีกา 6 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 ครั้ง, ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 5 ครั้ง, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 ครั้ง 

ปูโยล ยังประสบความสำเร็จบนเวทีระดับชาติด้วยการคว้าแชมป์ยูโร 2008 กับแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 กับทีมชาติสเปนด้วย 

'ผมยินดีมากที่ได้มาที่นี่และเหนือสิ่งอื่นใดการมาเพื่อรับรางวัลนี้'ปูโยล กล่าวด้วยความภาคภูมิใจหลังเป็นอดีตนักเตะคนที่ 4 ที่รับรางวัลดังกล่าว 

'ผมรู้สึกเป็นเกียรติเพราะ (แอธเลติก) เป็นสโมสรที่ให้ความสำคัญต่อความจงรักภักดีต่อทีมเดียว มันน่าพึงพอใจเพราะมันเป็นล้ำค่าที่หาได้ยากในวงการฟุตบอลทุกวันนี้'

แอธเลติก บิลเบา เป็นสโมสรหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใครของสเปนเนื่องจากเป็นทีมที่ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมด้วยการใช้นักเตะที่มีพื้นเพหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับแคว้นบาสก์เท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาก่อตั้งรางวัลและตั้งชื่อว่า One Club Man Award เพื่อมอบให้เป็นเกียรติแก่อดีตนักเตะที่มีความจงรักภักดีต่อสโมสรเดียวตลอดอาชีพของพวกเขา 

'มันไม่ง่ายเลยที่จะแข่งขันในลีกสเปนตามปรัชญาของแอธเลติก'ปูโยลกล่าวยกย่องทีมดังแคว้นบาสก์ 

'คุณต้องให้เครดิตกับสิ่งที่พวกเขาทำและวิธีที่พวกเขาลงแข่งขันในลีกดีที่สุดในโลก เราทุกคนรู้สึกภูมิใจมากกับ แอธเลติก' 

นอกเหนือจากอดีตนักเตะ 4 คนข้างต้นยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ลงเล่นกับสโมสรเดียวตลอดอาชีพของพวกเขา อาทิ ไรอัน กิ๊กส์ (แมนฯยูไนเต็ด), พอล สโคลส์ (แมนฯยูไนเต็ด), แกรี่ เนวิลล์ (แมนฯยูไนเต็ด), ฟรานเชสโก้ ต็อตติ (โรม่า) เคล้าส์ เอเกนธาเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค), จูเซ็ปเป้ แบร์โกมี่ (อินเตอร์ มิลาน) หรือ เจมี่ คาร์ราเกอร์ (ลิเวอร์พูล) เป็นต้น