ตำแหน่งดาวยิงในยุคปัจจุบัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ถูกยกให้อยู่ในระดับสูงมาอย่างยาวนาน ซึ่งถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ทั้งคู่รักษาฟฟอร์มการเล่นพร้อมทั้งยืนระยะได้เป็นสิบปี

โดยปกตินักบอลแต่ละคนจะมีช่วงพีคที่สุดในอาชีพไม่ว่าช่วงใดช่วงหนึ่ง (หรือบางคนอาจจะไม่มีเลย) นับทำให้ทั้งสองคนที่กล่าวมาเป็นสุดยอดนักเตะของโลก ไม่ใช่เพราะเรื่องของฝีเท้าเพียงอย่างเดียว แต่เพราะพวกเขาท๊อปฟอร์มมาอย่างยาวนานตะหาก

คงยากที่จะตอบว่าใครเก่งกว่ากัน ให้คิดเอาดีกว่าว่าคุณชอบใครมากกว่ากัน

สำหรับคนที่ติดตามลูกหนังกลมๆที่เรียกว่าฟุตบอลคงเคยได้ยินชื่อของ ดาบิด บีย่า กันบ้างแหละน่า

ไม่ใช่แค่ได้ยินแต่คงต้องเคยเห็น เคยดู เคยชื่นชมฝีเท้าของดาวเตะรายนี้ไม่ว่าจะในฐานะนักเตะของสโมสรหรือทีมชาติ เพราะนี่คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลเลยทีเดียว

           

ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์, ซูเปร์โกปา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, สโมสรโลก คือถ้วยในระดับสโมสรที่คว้ามาครบถ้วนในรายการที่ลงเล่น

หรือจะในระดับชาติกับทัพสเปนเขาก็คือส่วนสำคัญของทีมกระทิงดุที่พาให้ทีมก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจลูกหนังของโลกด้วยแชมป์ยุโรปในปี 2008 ต่อด้วยฟุตบอลโลก 2010 

จากจุดเริ่มต้นที่ สปอร์ติ้ง คิฆอน ก่อนจะเริ่มสร้างชื่อกับ เรอัล ซาราโกซ่า กระทั่งกลายเป็นกองหน้าระบือนามกับ บาเลนเซีย และประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมกับ บาร์เซโลน่า คือเส้นทางที่ ดาบิด บีย่า ค่อยๆไต่ขึ้นไปทีละระดับอย่างยอดเยี่ยม

แม้กระทั่งกับ แอตเลติโก มาดริด ยังหาญกล้าช่วยทีมฝ่าด้านสองยักษ์อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ขึ้นไปคว้าแชมป์ลา ลีกาอย่างยอดเยี่ยม

           

หลังจากนั้นกับระยะเวลาช่วงสั้นๆในเอ ลีก ออสเตรเลีย กับ เมลเบิร์น ซิตี้ ก่อนอยู่กับ นิวยอร์ค ซิตี้ ในปัจจุบัน

เขาคือนักเตะที่ยิงในนามทีมชาติมากที่สุดด้วยจำนวน 59 ประตู แน่นอนว่าสถิตินี้จะยังคงอยู่ไปอีกนานเพราะคนที่ตามมาเป็นอันดับสองอย่าง ราอูล กอนซาเลซ (44) เลิกเล่นไปนานแล้ว ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ยิงไป 38 ลูกก็อยู่ในช่วงปลายอาชีพเต็มที

และล่าสุด บีย่า เพิ่งสร้างอีกหนึ่งสถิติที่ยากที่จะหาใครเทียบได้ด้วยการยิงประตูทะลุหลัก 400 ลูกในเส้นทางลูกหนัง

ที่ผ่านมามีเพียง 5 คนที่ยิงผ่านหลักไมล์นี้ประกอบด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ ซามูเอล เอโต้

ต่อไปนี้หากจะให้นึกถึงกองหน้าระดับโลก อย่าลืมใส่ชื่อของ ดาบิด บีย่า เอาไว้ด้วย

           

ถาม : คุณเพิ่งยิงประตูที่ 400 ในอาชีพมา คุณอธิบายความรู้สึกของช่วงที่ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายให้ฟังหน่อย

ตอบ : ในฐานะนักฟุตบอล มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากทีเดียวที่ผ่านหลักไมล์นั้นมา มันเป็นประตูที่เยอะทีเดียว แต่เอาจริงๆนะ ผมหวังที่จะยิงประตูต่อไปเรื่อยๆ เพราะผมยังคงค้าแข้งอยู่ มันไม่มีอะไรเปลี่ยน แน่นอนว่าผมภูมิใจ แต่ในหัวของผม ผมตั้งเป้ายิงให้ได้มากกว่านี้

ถาม : ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นกันหน่อย คุณเติบโตในลานเกรโอ อัสตูริอาส, ผมเข้าใจว่าคุณเกือบจะล้มเลิกการเป็นนักฟุตบอลตอนอายุ 14 แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? อะไรทำให้คุณเปลี่ยนใจ?

ตอบ : ตอนที่ผมยังเด็ก ผมฝันที่จะเป็นนักบอลมาตลอด ความทรงจำครั้งแรกของผมที่มีคือลูกฟุตบอลที่เท้าและผมคิดเสมอว่าจะต้องเป็นนักฟุตบอล แน่นอนมีเด็กมากมายที่ฝันในแบบเดียวกันและทำไม่สำเร็จ แต่ผมรู้สึกลึกๆในใจเสมอว่าผมจะทำมันได้

           

ถาม : ถ้าคุณไม่ได้เล่นฟุตบอล กีฬาอื่นที่คุณจะเล่นคืออะไร?

ตอบ : ผมไม่รู้จริงๆ เพราะว่าเราต้องการจะเป็นนักฟุตบอลเท่านั้น (ยิ้ม)

ถาม : คุณเคยพยายามไปอยู่กับ เรอัล โอเบียโด้ แต่เข้าบอกว่าคุณตัวเล็กเกินไป อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้คุณพยายามลองอีกครั้งที่ สปอร์ติ้ง คิฆอน?

ตอบ : ก็ไม่เชิลนะ ตอนนั้นผม 9 ขวบ ดังนั้นตอนที่โอเบียโด้บอกว่าพวกเขาไม่ต้องการผมเป็นส่วนหนึ่งของทีม พวกเขาคิดถึงคนอื่นที่ดีกว่าผม นั่นคือเรื่องจริง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตอนที่ผมอายุ 18 ผมเก่งกว่าคนที่พวกคนที่เคยดีกว่าผมสัมยที่ผม 9 ขวบ แต่ในโลกฟุตบอลตอนที่คุณยังเด็กมันเป็นเรื่องยาก แต่มันเป็นอะไรที่เยี่ยมมากสำหรับผม เพราะว่าผมได้เล่นกับ สปอร์ต้ง คิฆอน ผมรักสโมสรแห่งนี้

           

ถาม : อะไรคือกุญแจสำคัญในเกมฟุตบอลที่เปลี่ยนเกมของคุณ ทำให้คุณเติบโตขึ้น?

ตอบ : ผมพยายามทำอย่างดีที่สุดเสมอ ผมพยาามอย่างเต็มที่ในการซ้อม ในแต่ละวัน และในเกมการแข่งขัน มันไม่ใช่แค่นั้น มันอยู่ที่การสนับสนุนของครอบครัวด้วย รวมถึงความช่วยเหลือของทุกคนรอบข้างผม ความช่วยเหลือจากโค้ช คุณจะมีประสบการณ์มากขึ้น และคุณจะปรับตัวได้ดีขึ้น แต่หัวใจสำคัญคือความทุ่มเทเต็มร้อยอยู่เสมอ

ถาม : ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองภาพคุณสมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด แต่สโมสรที่คุณค้าแข้งยาวนาที่สุดก็คือ บาเลนเซียการลงเล่นในเมสตาย่า และสโมสรแรกในลา ลีกาก็คือ เรอัล ซาราโกซ่า สโมสรไหนและตอนไหนที่คุณรู้สึกพอใจมากที่สุด?

ตอบ : ผมไม่อาจจะที่จะตอบได้นะ ชัดเจนว่าในใจผมมีความชอบอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่แฟร์นักที่จะบอกว่าที่ไหนดีกว่าที่ไหน ผมต้องขอบคุณทุกสโมสรเป็นอย่างมากที่ให้โอกาสผมในการลงเล่น ในการกลายเป็นคนที่ดี เป็นนักฟุตบอลที่ดี ช่วยให้ครอบครัวผมมีชีวิตที่ดีขึ้น ในการได้รับความรักจากพวกเขา

           

ถาม : ใครคือไอดอลฟุตบอลของคุณ

ตอบ : สมัยที่ผมเป็นเด็ก ผมมักจะโฟกัสกับ หลุยส์ เอ็นรีเก้, ผมคิดว่าคุณต้องมีแนวทางเป็นของตัวเอง ในการเป็นนักเตะที่ดี ไม่ใช่คอยคิดว่า 'ฉันจะเป็นเหมือน เมสซี่','ฉันจะเป็นเหมือย คริสเตียโน่ โรนัลโด้', 'ฉันจะเป็นเหมือน ดาบิด บีย่า' คุณจะต้องเป็นตัวเอง ผมเรียนรู้จากนักเตะมากมาย และคนที่ผมโฟกัสมากที่สุดก็คือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เพราะผมชอบแนวทางการเล่นของเขา แต่ผมก็มุ่งมั่นในการเป็น ดาบิด บีย่า นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

          

ถาม : ย้อนกลับไปสมัยที่คุณเล่นในลา ลีกา มีช่วงไหนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในการเป็นนักฟุตบอลบ้างไหม?

ตอบ : ไม่นะ ช่วงเวลาที่เยี่ยมที่สุดคือการที่ผมได้ขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ตอนที่ผมร่วมทีม สปอร์ติ้ง คิฆอน พวกเขาอยู่ในเซกุนด้า เบ ผมก้าวข้าวจากการเป็นนักเตะสมัครเล่นสู่ความเป็นมืออาชีพ มันอาจจะเป็นแค่การก้าวผ่านแต่มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ มันเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

           

ถาม : ช่วยอธิบายว่าอะไรคือความตื่นเต้นที่สุดในการค้าแข้งในลา ลีกา?

ตอบ : การคว้าแชมป์ นั่นคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด