สถิติอันน่าภูมิใจที่กินเวลายาวนานกว่า 500 วันสิ้นสุดลงจากลูกโหม่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ อันโตนิโอ ซานาเบรีย นำทีมเบตีโก้บุกมาพลิกล็อกโค่น เรอัล มาดริด ถึงสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
    เรอัล มาดริด คลำเป้าคู่แข่งไม่เจอครั้งสุดท้ายตั้งแต่เกมเสมอ แมนฯซิตี้ 0-0 ในการเล่นรอบตัดเชือกนัดแรกบนเวทียูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2016
    นับจากวันนั้นทีมชุดขาวของ ซีเนดีน ซีดาน เดินหน้ายิงประตูคู่แข่งทุกนัดติดต่อกันถึง 73 เกมเทียบเท่าผลงานของ ซานโตส ยุค 'ไข่มุกดำ'เปเล่ ซึ่งเคยทำได้ในช่วงปี 1963
    จาก 73 เกมก่อนหน้านี้ทีมชุดขาวกระทุ้งรวมกันถึง 200 ประตู ซึ่งเป็นผลงานของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึง 49 ประตู ก่อนที่สกอร์บอร์ดที่เบร์นาเบวเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาจะจบลงด้วยเลข 0 ของฝั่งมาดริด

    เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า 60% มีโอกาสทำประตูถึง 27 ครั้ง ซึ่งเป็นการยิงตรงกรอบ 12 หน แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้เมื่อทุกอย่างไม่เข้าทาง...
    'ฟุตบอลมันไม่เข้าทางเรา'ซีดานเผยหลังเกม'ถ้าคุณยิงได้สักประตูจากโอกาสที่มีอยู่เกมคงเปลี่ยนไป แต่เมื่อมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ผลการแข่งขันแบบนี้จึงสามารถเกิดขึ้นได้'
    อดีตแชมป์ลีกา 33 สมัยและแชมป์เก่าซีซั่นก่อนออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานย่ำแย่โดยเฉพาะการลงเล่นบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' หลังทีมของซีดานเก็บได้เพียง 2 แต้มจาก 9 คะแนนเต็มจากการเสมอ บาเลนเซีย (2-2), เลบันเต้ (1-1) ก่านพลาดท่าพ่าย เรอัล เบติส เกมล่าสุด
    'เรามีเกมที่ไม่ดีนักแต่ก็ไม่ได้แย่เช่นเดียวกัน เรามีโอกาสทำประตูแต่บอลมันไม่อยากเข้า แต่ยังไงเราต้องนิ่งไว้และต้องอย่าลืมว่าฤดูกาลยังเหลืออีกยาวไกล'
    'ผมรู้สึกเหมือนนักเตะที่พวกเขาพยายามจะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย เมื่อคู่แข่งทำประตูได้ตอนท้ายเกม มันจึงรู้สึกเจ็บปวด'

    ทีมชุดขาวมีคิวลงเล่นลีกาเกมต่อไปคือแมตช์เยือน'เอสตาดิโอ เมนดีซอร์โรซ่า'ของ อลาเบส ในวันเสาร์นี้ต่อด้วยการยกพลบุก'ซิกนาล อีดูน่า พาร์ค'ของ ดอร์ทมุนด์ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มช่วงกลางสัปดาห์ จากนั้น เรอัล มาดริด จะกลับมาลงเล่นบนสังเวียนเบร์นาเบวอีกครั้งเพื่อรับมือ เอสปันญ่อล ในวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคมก่อนพักให้โปรแกรมทีมชาติ ซึ่งซีดานหวังว่าเกมต้อนรับทีมนกแก้วจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทัพชุดขาวฟื้นคืนชีพกลับมา
    'ครั้งต่อไปที่เราจะเล่นในบ้าน เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อคว้าชัยชนะและเปลี่ยนผลงานที่ไม่ดีนี้สำเร็จ'
    เรอัล มาดริด กระทุ้งประตูคู่แข่งติดต่อกัน 73 แมตช์เทียบเท่าสถิติโลกของ ซานโตส ยอดทีมของบราซิลซึ่งเคยทำผลงานนี้ไว้เมื่อ 54 ปีก่อน ทีมชุดขาวยังสร้างโอกาสทำประตูหลายครั้งหลายหนเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แต่ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารทีมเบตีโก้ซึ่งเป็นเด็กเก่าปฏิเสธทุกความพยายามของนักเตะมาดริด
    'มันไม่ใช่เรื่องปกติในเกมที่เล่นกับทีมแบบนี้ในบ้านซึ่งตามปกติแล้วจะออกไปจากเบร์นาเบวด้วยผลการแข่งขันที่ต่างไปจากนี้'เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมชุดขาวกล่าวด้วยความเซ็ง
    'เราจำเป็นต้องกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งและก้าวเดินต่อไป'
    'หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นปัญหาที่จะแก้ไขได้ เราจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ แต่มันคงจะไม่ใจไม้ไส้ระกำเหมือนการจบสกอร์ของเราในวันนี้'
    'ถ้าหากเป็นวันอื่นมันคงจะจบด้วยสกอร์ 4-0 หรือ 4-1 และทุกอย่างคงจะโอเค'รามอสกล่าวทิ้งท้าย

    มันเป็นการต้อนรับการกลับมาลงเล่นลีกานัดแรกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังพ้นโทษแบนยาว 5 นัด ตั้งแต่ที่ถูกไล่ออกจากเกมสแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดแรกที่'คัมป์ นู'ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีแม้แต่ประตูเดียวสำหรับการคัมแบ็กของซุปตาร์ชาวโปรตุกีสแม้ว่าจะมีโอกาสหลายครั้งหลายหนก็ตาม
    'ผมไม่มีอะไรจะต้องพูดถึง'ซีดานกล่าวหลังถูกถามเกี่ยวกับฟอร์มของโรนัลโด้
    'ในทางตรงกันข้าม เรายินดีที่มีคริสเตียโน่อยู่กับเราและต้อนรับการกลับเข้าสู่ทีมของเขา'

    ซีดานขยับจาก เรอัล มาดริด กาสตีย่า ก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ของมาดริดแทน ราฟาเอล เบนีเตซ โดยคุมทีมชุดขาวลงประเดิมสนามเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2016 ด้วยการเปิดรังเบร์นาเบวทุบ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ขาดลอย 5-0
    เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสพิสูจน์ให้เห็นถึงบารมีและฝีมือในการคุมทีมที่อุดมไปด้วยบรรดาแข้งซุปตาร์ รวมถึงการมีโชควาสนาเกื้อหนุนจนทำให้เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่ย่างก้าวแรกจากการนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์ยุโรปสมัย 11
    ก่อนที่ซีดานจะตอกย้ำว่าการนำทีมชุดขาวสอยแชมป์ยุโรปทั้งที่ก้าวขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่เพียง 6 เดือนไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด หลังทีมของเทรนเนอร์วัย 45 ปีต่อยอดด้วยการเดินหน้าคว้าแชมป์อีก 6 รายการต่อจากนั้น
    เรอัล มาดริด ยุคซีดานเป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ยุโรปสำเร็จนับจากเปลี่ยนชื่อและระบบการแข่งขันมาเป็นยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกและมิลานเป็นสโมสรสุดท้ายที่คว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 1989-1990
    ซีดานยังนำทีมชุดขาวโค่นบัลลังก์แชมป์ลีกาของ บาร์เซโลน่า พร้อมกระชากแชมป์ลีกเมืองกระทิงกลับสู่อ้อมอกของสาวกมาดริดิสต้าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีด้วย
    ช่วงเวลาประมาณ 20 เดือน ซีดานนำทีมชุดชาวโกยความสำเร็จถึง 7 รายการทั้งแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (2 สมัย), แชมป์ลีกา (1 สมัย), แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (2 ครั้ง), แชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ (1 ครั้ง) กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (1 ครั้ง)
    คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะสาวกมาดริดิสต้าต่างชื่นชมผลงานของซีดานและจำนวนไม่น้อยยกขึ้นหิ้งไปอยู่ระดับเดียวกับอดีตเทรนเนอร์คนดังของมาดริดยุคก่อนหน้านี้อย่าง มิเกล มูนญอซ
    มิเกล มูนญอซ เป็นเทรนเนอร์ระดับตำนานของมาดริดหลังนำทีมชุดขาวสอยแชมป์ลีกา 9 สมัยระหว่างปี 1961-1972 พร้อมด้วยแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (2 สมัย), ยูฟ่า คัพ (2 สมัย) กับ แชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัลอีกหนึ่งครั้ง

    บ้างก็เปรียบเปรยว่าซีดานมีมนตร์ขลังจนช่วยดลบันดาลความสำเร็จมาสู่สโมสรในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ หรือ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ด้วยการเอาชนะทีมคู่ปรับสำคัญอย่างทีมอาซูลกราน่าแบบราบคาบด้วยสกอร์รวม 5-1
    หลังเกมสยบคู่แค้นจากแคว้นกาตาลุนย่าด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่า'ใครจะหยุดมาดริดของซีดาน?'
    ถึงตอนนี้สาวกมาดริดิสต้าคงจะได้คำตอบแล้วว่าเขาคนนั้นคือ อันโตนิโอ ซานาเบรีย หลังกองหน้าทีมชาติปารากวัยของทีมเบตีโก้โขกประตูดับทีมชุดขาวในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกมคืนวันพุธที่ผ่านมา
    มันอาจเป็นเพราะเทพีแห่งโชคไม่ได้อยู่เคียงข้างมาดริดเหมือนที่ผ่านมา หรือเป็นเพราะซีดานสิ้นมนตร์ขลัง หรือเป็นเพราะการจบสกอร์ที่ไร้ประสิทธิภาพของแนวรุกทีมชุดขาว หรือมาจากความเหนียวหนึบของ อันโตนิโอ อาดาน ก็ตาม
    ซีดานคงต้องทำทุกอย่างเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาสู่ทีมอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินเยียวยา....