ไม่เฉพาะ เดอะ ค็อป ที่เมืองไทยซึ่งศรัทธาว่าทีมรักจะสามารถหักปากกาเซียนได้อีกครั้ง เพราะแม้แต่ฝรั่งที่ชูธงหลักวิทยาศาสตร์ มันยังไปอ้างสมมุติฐานบ้าๆบอๆหลายอย่างมาเอี่ยว
ย้อนเมื่อครั้งล่าสุดที่ 'หงส์แดง' ครองเจ้ายุโรปปี 2005 มีเหตุการณ์สำคัญระดับโลกเกิดขึ้น
นับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้วตื่นเต้นจริงๆกับนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ชปล.
ทั้งการสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2, งานอภิเษกสมรสระหว่าง เจ้าฟ้าชายชาลส์ กับ คามิลลา พาร์เกอร์ โบลส์ และ รักบี้ทีมชาติ เวลส์ คว้าตำแหน่งแชมป์ '6 ชาติ' ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมแรกประวัติศาสตร์
มายังศักราชปัจจุบัน ท่านโป้ปฟรานซิสคงสุขภาพแข็งแรงดี, นักปล้ำลูกหนำเลี้ยบ เวลส์ พลาดตำแหน่งแชมป์
อย่างไรก็ตามยังมีพิธีเสกสมรสราชวงศ์อังกฤษระหว่างเจ้าชาย แฮร์รี่ กับ แมแกน มาร์เคิ่ล ไปเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา
งานแต่งรางวงศ์อังกฤษถือเป็นฤกษ์มงคลกับการคว้าแชมป์ยุโรปของ ลิเวอร์พูล
ประจวบเหมาะกับในปี 1981 ซึ่ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ เรอัล มาดริด 1-0 เป็นแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ก็มีงานอภิเษกสมรสระหว่าง เจ้าชายชาลส์ กับ เลดี้ ไดอาน่า ปลายเดือน ก.ค.ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชบิดา และพระราชมารดา พรินซ์ แฮร์รี่
จึงน่าคิดไหมล่ะ? 2 งานแต่งราชวงศ์ หงส์แดง ตีปีกเป็นเจ้ายุโรปทั้งหมด ... อาจจะมีหนสามได้ไหม?
อีกเรื่องที่น่าสนใจให้พอแถเข้าข้างว่า ลิเวอร์พูล จะได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์สมัยหก ก็เพราะผลการแข่งที่ เยอรมัน โดยเฉพาะตำแหน่งแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต หลังจากพลิกล็อคโค่น บาเยิร์น มิวนิค 3-1
ทั้งนี้มันคือการได้โทรฟี่นี้ปีเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล โค่น 'ราชันชุดขาว' เมื่อค.ศ.1981 ... ว้าว!!!
ของแปลกกับตำแหน่งแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ของ แฟร้งค์เฟิร์ต มักเกิดปีเดียวกับ หงส์แดงเจ้ายุโรป
สมมุติฐานข้างๆคูๆยังไม่จบ เรามาดูที่แนวบันเทิงบ้าง กับการแข่งขันร้องเพลงรายการใหญ่ยุโรปอย่าง 'ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์' ที่จะเวียนเจ้าภาพจัดรอบสุดท้ายในทุกๆปี
แล้วมันดันลงล็อคอีกว่าหากศักราชก่อนนั้นจัดที่เมืองใด ใน ค.ศ.ต่อมา ลิเวอร์พูล ต้องได้เข้าชิงฯแชมป์ ยูฟ่า ชปล.!
ย้อนกลับไปปี 2004 การประกวดไมค์ทองคำยุโรปจัดที่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี หมุนเข็มนาฬิกามา 1 ปี 'หงส์แดง' ฝ่าฟันมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้วขึ้นถึงแชมป์
ค.ศ. 2006 'ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์' มีกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ รับหน้าเสื่อจัด แล้วเช่นกันอีกทีมของ ราฟาเอล เบนีเตซ ได้ดวลแข้งกับ เอซี.มิลาน น่าเสียดายฉากจบเป็นแค่พระรอง
สมมุติฐานเรื่องเมืองเจ้าภาพ'ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์' มักเข้าทาง เมอร์ซี่ย์ไซด์ เร้ดส์
ล่าสุดการแข่งขันตามหานักร้องเสียงคุณภาพยุโรปจัดขึ้นที่กรุงเคียฟ ประเทศ ยูเครน ...
ให้ตายสิ! ลิเวอร์พูล ในยุค ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เข็นลูกน้องที่ถูกบ่อนวางไว้เป็นแชมป์ในเรต 30/1 เข้ามาลุ้นความสำเร็จระดับทวีป
มันจึงชวนให้มีความมั่นอกมั่นใจขึ้นไปกว่า 2-3 เท่า ว่าเราได้เฮแน่
ผนวกกับสถิติอันไม่น่าอภิรมย์จากฝั่ง เรอัล มาดริด ว่าในปีที่ทีมฟุตบอลได้ชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ชปล. พร้อมทีมบาสเกตบอลชิงแชมป์ ยูโรลีก ต้องมีอย่างน้อยไม่ค่ายลูกหนัง ก็ขุนพลยัดห่วงอกหัก
ทีมฟุตบอล และบาสเกตบอล เรอัล มาดริด ชิงเจ้ายุโรปปีเดียวกันไม่เคยซิวแชมป์พร้อมหน้ามาก่อน
ตามสถิติเก่าๆ 3 ครั้งที่ผ่านมาย้อนไปปี 1962 ที่ทั้งคู่ได้ชิงชนะเลิศก็นัดกันปราชัย ทีมบอลแพ้ เบนฟิก้า ทีมบาสแพ้ ดินาโม ทิบลิซี่
ครั้งต่อมาปี 1964 ทีมบาสเกตบอลชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก ทว่า 'โลส บลังโกส' โดน อินเตอร์ มิลาน อัดที่ผล 1-3
อีกครั้งคือ ค.ศ. 2014 เรอัล มาดริด ฟุตบอลชนะ แอต.มาดริด ก็จริง ทว่าทีมบาสฯพ่าย มัคคาบี้ เทล อาวีฟ
https://twitter.com/RMBaloncesto/status/998576250175328257
คงเป็นทีมกีฬาเดียวของ เรอัล มาดริด ที่ได้อวดถ้วยแชมป์กลางเมืองในปีนี้
ซึ่งเกมบาสเกตบอล ยูโรลีก นัดชิงชนะเลิศวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด ยัดห่วงสามารถโค่น เฟเนร์บาห์เช่ ลงได้ 85-80 คะแนน ซิวเจ้ายุโรปสมัย 10 มากสุดประวัติศาสตร์
หึๆ...เมื่อคิดเช่นนี้ก็มีโอกาสสูงที่ ลูกหนัง 'ราชันชุดขาว' จะพ่ายต่อ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ค.นี้ แล้วเราก็จะได้เฮสนั่นลั่นทุ่งกัน
พี่มั่นใจแบบไม่กลัวเงิบพูดเลย
