:::     :::

จับเข่าคุย "จานลุยจิ บุฟฟ่อน" ในวันอำลายูเวนตุส (ตอนจบ)

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม 2561 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,031
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เดินทางมาถึงตอนจบของบทสัมภาษณ์ "จานลุยจิ บุฟฟ่อน"

หลังจากตอนที่แล้ว เคราร์ด ปิเก้ รับหน้าที่สัมภาษณ์ยอดนายทวารระดับตำนาน ถึงเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นกับปาร์ม่า และการย้ายมาเป็นตำนานกับยูเวนตุส

โดยบทสัมภาษณ์ตอนจบนี้ บุฟฟ่อน จะมาบอกถึงความคาดหวังหลังจากแขวนถุงมือไป และมุมมองต่อวงการฟุตบอลลีกอิตาลี ซึ่งมีหลายประโยคที่น่าสนใจเอามากๆ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปอ่านพร้อมกันเลยครับ

ปิเก้

"ย้อนกลับไปช่วงฟุตบอลโลก 2010 และ 2014 ทีมชาติอิตาลี ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก นอกจากนี้ ยังไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายได้ด้วย คุณคิดว่า วงการฟุตบอลอิตาลี จำเป็นต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ เพื่อมองหาแนวทางการแก้ปัญหา ในการกลับมาสู่ระดับสูงอีกครั้งหรือไม่"


บุฟฟ่อน

"ผมคิดว่ามีบางอย่างที่ผิดพลาด ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อิตาลี จะไม่ได้ผลิตนักเตะพรสวรรค์สูงแบบนี้มาก่อน เมื่อผมก้าวมาติดทีมชาติ เรามีนักเตะอย่างบาจโจ้, เดล ปิเอโร่, ต๊อตติ, อินซากี้, มอนเตลล่า, วิเอรี่ รวมถึงบรรดานักเตะชั้นยอดมากมายด้วย ในรอบทศวรรษ อิตาลี คือทีมที่ยอดเยี่ยม เราไม่ได้เป็นทีมที่ขี้เหร่เลยนะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรากลับไม่ได้มีผู้เล่นพรสวรรค์สูงอย่างที่เราเคยมี มันจึงเป็นเรื่องยากในการเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการ แม้จะมีผลงานที่เลวร้าย แต่เราก็ยังเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในศึกยูโร 2012 และทำผลงานได้ดีในยูโร 2016 (ทะลุไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ) มันทำให้เราสามารถคาดหวังกับมันได้"


ปิเก้

"อยากถามคุณเรื่องกัลโช่ เซเรีย อา ในแง่ของการแข่งขัน ลีกสูงสุดของอิตาลี ยังเป็นรองทั้งพรีเมียร์ลีก และลาลีกา แน่นอนว่า ยูเวนตุส ถูกมองว่าเป็นเพียงทีมเดียวจากอิตาลี ที่มีโอกาสซิวแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก"


บุฟฟ่อน

"บางทีมันอาจเป็นแบบนั้น แต่ผมคิดว่านักเตะหลายๆทีม อาทิแข้งฝรั่งเศส หลายคนออกไปเล่นต่างแดน สเปน ก็เป็นเหมือนกัน ดังนั้น ปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ลีกการแข่งขัน แต่อยู่ที่รายละเอียดด้านบุคคลมากกว่า โดยเฉพาะความสามารถของผู้เล่น"


ปิเก้

"เรื่องขาดความสามารถ ?"


บุฟฟ่อน

"ใช่แล้ว ต้องยอมรับว่ากัลโช่ เซเรีย อา อาจจะยังอยู่ในระดับที่ด้อยกว่า เมื่อคุณพัฒนานักเตะขึ้นมา นักเตะเหล่านั้นก็จะมุ่งหน้าไปยังสโมสรอย่างเรอัล มาดริด หรือเปแอสเช ยกเว้นแวร์รัตติ ที่เล่นกับเปแอสเช เราก็ไม่ค่อยมีนักเตะแบบนี้ ซึ่งนักเตะฝีเท้าดีส่วนมาก ที่จะได้เจอกับยอดทีมในยุโรป ส่วนมากจะกระจุกตัวอยู่กับยูเวนตุส นั่นแหล่ะปัญหา"

ปิเก้

"พูดถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตนักเตะของคุณ ตอนที่ยูเวนตุส หล่นชั้นไปเล่นระดับเซเรีย บี ทว่าคุณก็ตัดสินใจลงตามไปด้วย ดูเหมือนว่าคุณจะอยู่กับสโมสรแห่งนี้ด้วยความรัก แต่มันก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก พร้อมกันนี้ คุณมีโอกาสเลือกย้ายไปทีมอื่น และมีโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่คุณเลือกที่จะไปเซเรีย บี มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่"


บุฟฟ่อน

"เมื่อผมตัดสินใจไปเล่นเซเรีย บี ผมยินดีที่จะทำแบบนั้น ผมคิดว่า ในฐานะของลูกผู้ชาย และนักเตะคนหนึ่ง มันเป็นโอกาสที่จะแสดงให้เห็นถึงความหวังผ่านการตัดสินใจ เพื่อสังคม และแฟนบอล ผมอยากส่งข้อความไปยังผู้คนเหล่านั้นว่า บรรดาผู้เล่นก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน มีอะไรในชีวิตที่สำคัญมากกว่าชื่อเสียง และเงินทอง หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะทำแบบเดิมอีกครั้ง"

"จากนั้น เราสามารถคว้าแชมป์เซเรีย บี มาครอง มันเป็นฤดูกาลที่สนุกมาก แต่หลังจากนั้น 2-3 ปี มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมากเลย ยูเวนตุส ทำผลงานได้ไม่ดี เราสูญเสียสปิริต, จิตวิญญาณ และเอกลักษณ์ บางปีเราจบอันดับ 6 หรือ 7 ด้วยซ้ำ ผมถามตัวเองว่า ทำไมผมเองต้องเลือกเส้นทางนี้ ทว่าผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมเชื่อในเรื่องของการทำงานหนัก และการทำในสิ่งดี หลังจากเราตกชั้น มันกินเวลา 6 ปี (2005-2011) กว่าที่เราจะกลับมาได้แชมป์เซเรีย อา อีกครั้ง ผมมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็น 6 ปีแห่งความยากลำบาก และมันเป็น 6 ปีที่ผมไม่ค่อยได้เล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากนัก แต่สุดท้าย เราก็กลับมาได้"


ปิเก้

"6 ปีที่คุณกล่าวมา คุณคิดจะย้ายทีมบ้างหรือเปล่า มันน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะตลอดเวลา  23 ปี คุณเล่นให้กับ 2 สโมสรในบ้านเกิดอย่างปาร์ม่า และยูเวนตุส เท่านั้น คุณคิดอยากไปเล่นต่างประเทศบ้างมั้ย"


บุฟฟ่อน

"มันน่าสนใจเหมือนกันนะ กับการย้ายไปเล่นท่ามกลางผู้คนที่แปลกใหม่ และชีวิตที่แตกต่างออกไป อย่างไรก็ตาม ลึกๆแล้วผมยังมีความเป็นอิตาเลี่ยน แบบเต็ตัว ซึ่งมันยังมีข้อจำกัดบางอย่าง ทว่าอิตาลี ก็เป็นโลกที่ทำให้ผมยิ้มได้ และผมก็ชื่นชอบมันนะ ในฐานะของนักกีฬา ผมไม่ต้องการย้ายออกจากดินแดนแห่งนี้"

ปิเก้

"คุณเล่นฟุตบอลอาชีพมา 23 ปี ฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ในฐานะของผู้รักษาประตู คุณจะเห็นได้ชัดเลยว่า นายทวารสมัยใหม่เล่นด้วยเท้ามากขึ้น"


บุฟฟ่อน

"สำหรับผม มันถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะ เพราะฟุตบอลต้องมีการพัฒนา มันก็ทำให้ผมต้องพัฒนาตามไปด้วยเช่นเดียวกัน นั่นเพราะผู้รักษาประตูมีการใช้เท้ามากขึ้น และมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างออกไป คุณต้องสามารถเตะเปิดเกมได้ มันถือเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าแต่ก่อน ตอนนี้ผมอายุ 40 และยังคงเล่นอยู่ นั่นเพราะผมชอบการแข่งขัน และพัฒนาตัวเอง"


ปิเก้

"เรามีโอกาสได้เห็นคุณลงเฝ้าเสาไปอีก 1-2 ปีหรือเปล่า"


บุฟฟ่อน

"ผมคิดว่าด้วยอายุของผมเอง คุณต้องมานั่งประเมินสถานการณ์ในแต่ละครั้ง สิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬา คือการเล่นในระดับสูง และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณจำเป็นต้องมีสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณคงไม่ต้องการผลลัพธ์ที่ไม่ดีหรอก ผมคือบุฟฟ่อน ชายที่ต้องการสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย เมื่อผมไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้แล้ว ผมก็จะเดินออกไป ผมยังรักในการลงเล่น และหลงรักในบรรยากาศ ผมรู้ว่าผมยังทำอะไรได้ในสนามแข่งขัน จนกระทั่งวันที่ผมทำไม่ได้แล้ว ผมก็จะไปอย่างไม่มีปัญหาเลย ผมได้มีเส้นทางลูกหนังที่ยอดเยี่ยมแล้ว"


ปิเก้

"คุณกลัวการแขวนถุงมือหรือไม่"


บุฟฟ่อน

"ผมคงเป็นคนโกหก หากบอกว่าผมไม่กลัว แต่ลึกๆแล้ว ผมค่อนข้างเป็นคนสงบนะ วันที่ผมเลิกเล่นฟุตบอล ผมจะหาเส้นทางที่ไม่น่าเบื่อ และทำตัวเองให้ยุ่ง เพราะปัญหาก็คือ ผมเล่นฟุตบอลมาตลอด 23 ปี ทุกเช้าจะมีกิจวัตรเหมือนเดิม แต่เมื่อจะไม่มีอะไรให้ทำแบบนั้นแล้ว มันอาจจะเป็นปัญหาได้"

ปิเก้

"หลังเลิกเล่นฟุตบอล คุณจะอยู่ในวงการฟุตบอลต่อไปหรือเปล่า"


บุฟฟ่อน

"ผมต้องการเรียนรู้ ในการก้าวมาเป็นผู้อำนวยการ , ผู้จัดการทีม หรือเทรนเนอร์ จากนั้นค่อยมาเลือกว่าจะทำอะไร โดยที่ไม่ต้องเร่งรีบตัดสินใจ"


ปิเก้

"คำถามสุดท้ายแล้ว, เคยคิดบ้างมั้ยว่า หากไม่ได้เป็นนักฟุตบอล คุณจะไปทำอะไร”


บุฟฟ่อน

"ผมคงไปเป็นครูสอนวิชาพลศึกษา เหมือนกับครอบครัวของผม แน่นอนว่า ผมคงมุ่งไปในเส้นทางดังกล่าว เพราะผมรักกีฬา และชอบอยู่ท่ามกลางเด็กๆ แต่ฟุตบอลทำให้ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ผมคิดว่า การทำงานเป็นทีมเป็นอะไรที่สำคัญมาก มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ได้แบ่งปันชัยชนะ และความพ่ายแพ้ร่วมกัน ฟุตบอลทำให้คุณมีความเห็นแก่ตัวน้อยลง ผมค้นพบสิ่งที่สวยงาม การเห็นแก่ผู้อื่น และการแบ่งปัน เป็นอะไรที่งดงามจริงๆ"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด