:::     :::

คุยกับ "โค้ชโย่ง" : "ผมหนักใจสองแบบคือเอาใครออก กับ เอาใครเข้า"

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
5,252
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อัพเดทความเคลื่อนไหวการเตรียมทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย กับ "โค้ชโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ หลังประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลชุดบุกอุ่นเครื่องแดนอิเหนา แล้วเกิดเสียงวิจารณ์ทำไมคนนี้ติดคนนั้นไม่ติด และอีกหลายๆ ประเด็น ทั้งหมดนี้คือคำตอบจากปากของเฮดโค้ชชุดนี้ ที่มาพูดคุยกันแบบถามตอบในสไตล์ง่ายๆ เป็นกันเอง

แมน : สวัสดีครับพี่โย่ง ผมอยากขออัพเดทเรื่องทีมเอเชียนเกมส์หน่อยครับ

โค้ชโย่ง : ได้เลยแมน ว่ายังไง

แมน : ผมเห็นโปรแกรมที่วางไว้เดี๋ยวเราจะต้องบินไปอุ่นเครื่องกับ อินโดนีเซีย 2 นัดที่บ้านเขา ทำไมถึงเลือกอุ่นแต่กับอินโดตั้ง 2 เกมไม่ลองกับทีมอื่นบ้างครับ

โค้ชโย่ง : คือพี่อยากให้นักเตะได้ซึมซับบรรยากาศมากกว่า เพราะหลายๆ คนยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ทีมชาติ อินโดเขาอยากวัดกับเราอยู่แล้วเพราะตอนซีเกมส์เราก็ทำได้แค่เสมอเขา 1-1 เป็นเกมเดียวที่เราไม่ชนะ แล้วไปเล่นที่บ้านเขาเนี่ยแฟนบอลเขาเยอะมาก น่าจะ 5หมื่นขึ้นไป นี่แหละคือสิ่งที่พี่อยากให้เด็กๆ เจอ เพราะจะได้รู้ไปเลยว่าใครเล่นได้หรือไม่ได้ บางคนเล่นกับสโมสรดี แต่พอเล่นทีมชาติเจอกองเชียร์เยอะๆ กลายเป็นเล่นไม่ได้เลยก็มี

แมน : แล้วที่เคยคุยกันว่าจะมีเกมอุ่นกับ โรมาเนีย ยู-21 ยังมีอยู่มั้ยพี่

โค้ชโย่ง : อ๋อคงไม่มีแล้ว เพราะเราไม่มีเวลาเหลือเลย นี่ยังดีได้อุ่นเครื่อง 2 เกมเพราะลีกเลื่อนให้ คงจะต้องรอดูโอกาสที่เหมาะในปีหน้าตอนคัดเลือกโอลิมปิกมากกว่ามั้ง

แมน : เจออินโดจะเตะที่สนามไหนมีกำหนดออกมาหรือยังครับ เพราะตอนซีเกมส์ที่มาเลเซียเคยมีปัญหาเรื่องหญ้าใบใหญ่นักเตะไทยไม่ถนัด ไปอุ่นเครื่องคราวนี้เขาให้เราเล่นสนามแบบไหน

โค้ชโย่ง : ถ้าเป็นโปรแกรมเอเชียนเกมส์เกมเขาออกมาหมดแล้วนะ ว่าเตะวันไหนสนามไหนบ้าง แต่เรายังไม่รู้ว่าเราอยู่กลุ่มไหน ยังไม่ได้จับสลาก ก็เลยไม่รู้ว่าต้องเล่นสนามไหนด้วย แน่นอน คนไม่เคยเล่นอาจจะไม่เข้าใจว่ามันต่างกันเยอะกับสนามที่บ้านเรา เพราะที่เมืองไทยไม่มีใครเขาใช้หญ้าใบใหญ่ปูพื้นสนามบอลกัน ส่วนใหญ่เขาเอาไว้ทำสวนในบ้าน หรือในร่มมากกว่า เห็นมีที่เดียวมั้งคือที่เชียงใหม่ (อัลไพน์ กอล์ฟ คลับ) คือแถวนี้ฝนตกชุกทั้งปี หญ้ามันดูแลรักษายากก็เลยต้องใช้หญ้าพันธุ์มาเลย์ที่มันอุ้มน้ำดีกว่า เวลาส่งบอลหรือยิงประตูมันจะกะน้ำหนักยาก เท้าหลักจะจมทำให้บอลมันเหิน นี่พี่ก็ตั้งใจว่าจะให้เด็กได้ลองเตะสนามหญ้าใบใหญ่ด้วย พวกที่เคยเล่นซีเกมส์พี่ไม่ห่วงหรอกเพราะผ่านมาหมดแล้ว แต่คนที่ไม่เคยเล่นก็ต้องให้ลองดูว่าจะเป็นยังไง 

แมน : ทำไมทีมอื่นที่ไม่ใช่ย่านอาเซียนเขาไม่มีปัญหากันล่ะพี่ เกิดเราปรับตัวกันไม่ได้ มีปัญหาเรื่องหญ้า เดี๋ยวแฟนบอลก็จะตำหนิพี่อีกว่าโทษดินโทษฟ้า

โค้ชโย่ง : ทีมอื่นพี่เข้าใจว่าเขาก็มีปัญหานะ ถ้าไม่ใช่ทีมในอาเซียน เดี๋ยวพอใกล้ๆ เขาก็ต้องมาอุ่นเครื่องที่สนามจริงเหมือนกัน พี่ก็ไม่อยากต้องโทษดินโทษฟ้าโทษสนามเหมือนกัน แต่ถ้ามันมีปัญหาจริงๆ ก็ต้องยอมรับ 

แมน : เขาจะจับสลากแบ่งสายกันเมื่อไหร่นะพี่ 

โค้ชโย่ง : ไม่แน่ใจแฮะ น่าจะประมาณซักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก่อนแข่งน่ะล่ะมั้ง

แมน : ถ้าเกิดแข่งจริงเจ้าภาพจับเราไปอยู่กลุ่มเดียวกับเขา เจอกันก่อน 2 นัดแบบนี้เขาจะจับทางเราได้หรือเปล่า

โค้ชโย่ง : พี่ไม่ห่วงเรื่องนี้หรอก เพราะยังไงต้องมีทีมอื่นเข้ามาตามสเกาท์ทั้งเราและอินโดอยู่แล้ว พี่มองว่าเจออินโดในบ้านเขาแบบนี้แหละได้ประโยชน์ที่สุดทั้งเรื่องคุณภาพทีมเพราะเขาใช้ผู้เล่นอายุเต็ม 23 และมีโควตาอาุยุเกิน 3 คนด้วย แล้วยังได้เล่นในสนามจริง ในบรรยากาศที่แฟนบอลเข้ามาเต็มความจุด้วย 

แมน : พูดถึงโควตาอายุเกิน สรุปว่าครั้งนี้พี่จะไม่ใช้ใช่มั้ยครับ

โค้ชโย่ง : เอาจริงๆ นะ พี่ขอถามว่า ถ้าไม่ใช่ ธีรศิลป์, ธีราทร, ชนาธิป หรือ กวินทร์ ที่เล่นอยู่ต่างประเทศกันหมด ในบ้านเราเองมีใครที่สามารถยกระดับทีมชนิดที่ว่าเปลี่ยนผลการแข่งขันได้มั้ย คือพี่มองว่าในไทยลีกเนี่ยคนอายุเกินกับเด็กที่ไม่เกิน 23 ฝีเท้าไม่ได้ต่างกันมากแล้ว ดังนั้นถ้าเกิดเรียกมาแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ พี่ก็ขอให้เด็กๆ ที่เล่นด้วยกันมาได้โอกาสต่อเนื่องดีกว่า

แมน : เห็นพี่เฮง (วิทยา เลาหกุล) บอกผมว่าพี่โย่งใส่ ชนาธิป, ธีรศิลป์, ธีราทร, กวินทร์ ไว้ในพูลที่ส่งให้สมาคมด้วย 

โค้ชโย่ง : 555 ก็ใส่ไว้อย่างนั้นแหละ คือถ้าได้พี่ก็เอานะ แต่โอกาสมันเป็นไปได้ยาก เพราะไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์สโมสรเขาคงไม่ปล่อยอยู่แล้ว 

โค้ชโย่งใส่ชื่อ 3 แข้งอายุเกินไว้เผื่อแล้วทั้ง เจ, มุ้ย, อุ้ม 

แมน : ตำแหน่งที่พี่หนักใจที่สุดในการเลือกทีมครั้งนี้คือตำแหน่งไหน

โค้ชโย่ง : มันมีหนักใจอยู่สองแบบนะ คือแบบไม่รู้จะเลือกใครออกกับไม่รู้จะเอาใครเข้ามา อย่างกองหน้าเนี่ยหายากจริงๆ แต่กองกลางกับประตูนี่พี่มีให้เลือกเยอะมาก

แมน : กองหน้าที่พี่เลือกไปอุ่นกับอินโด มีแค่ ปรเมศย์ อาจวิไล กับ เสฏวุฒิ วงค์สาย เข้าใจว่า เจนรบ ถูกเรียกติดชุดใหญ่แต่เดี๋ยวพอเอเชียนเกมส์เริ่มก็ต้องกลับมาติดอยู่แล้วถูกมั้ยครับ ดูจากรายชื่อแค่นี้พอแล้วหรอพี่

โค้ชโย่ง : พิชา อุทรา กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา พี่ก็ใส่ไว้เป็นกองหน้านะ คือพี่ก็ไปดูมาหลายคนที่อายุยังไม่เกินเกณฑ์ "ไอซ์" สิทธิโชค กันหนู ไปอยู่แบงค็อก ก็แทบไม่ได้เล่นเลย "เอ็กซ์" กิตติพงษ์ วงมา ก็แทบไม่ได้เล่นให้สุโขทัย คือปกติตอนได้เล่นบ่อยๆ ก็ยังไม่ค่อยดี ยิ่งไม่ได้เล่นแบบนี้จังหวะความมั่นใจอะไรก็หายหมด

แมน : ครั้งก่อนที่พี่กับพี่เฮงไปดู บางกอก เอฟซี เห็นพี่เฮงบอกว่าถูกใจ "เจ้าซัน" กรวิชญ์ ทะสา จะไม่ดันขึ้นมาชุดเอเชียนเกมส์หรอครับ

โค้ชโย่ง : พี่มองว่า "ซัน" มันบางไป คือถ้าเป็นระดับเอเชียแล้วรูปร่างแบบนี้อาจจะเจาะเข้าไปทำประตูยาก แล้วแบกอายุค่อนข้างเยอะด้วย เพราะเขาเพิ่ง 19 เองเลยอยากให้เล่นในรุ่น 19 ปีของ "หระ" (อิสระ ศรีทะโร)ไปก่อน คืออย่าง "ฟร้องซ์" (ปรเมศย์ อาจวิไล) ประสบการณ์ระดับชาติอาจจะน้อย แต่พี่ว่ารูปร่าง ทรงบอลมันได้ ส่วน "บาส" (เสฏวุฒิ วงค์สาย) มันมีความเร็วและยิงประตูได้ดี ถ้าส่งลงไปในช่วงซัก 20 นาทีสุดท้ายน่าจะป่วนกองหลังได้

แมน : เจนรบ ยังเจ็บอยู่เลยครับ ผมคุยกับน้องเขาบอกว่ายังไม่มั่นใจเลยว่าจะหายทันเอเชียนเกมส์หรือเปล่า อันนี้จะแก้ปัญหายังไงดี เป็นเรื่องใหญ่เลยมั้ยถ้าขาด เจนรบ

โค้ชโย่ง : คงต้องรอดูอาการเจ้าเจนก่อน ถ้าขาดเขาไปก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะเจนมันมีความเป็นลูกพี่ของทีม กระตุ้นเพื่อนๆ น้องๆ ได้ พี่ว่าน่าจะทันนะเพราะแข่งตั้งสิงหา แต่ถ้าหายไม่ัทันจริงๆ ก็คงหาคนอื่นไปแทน อาจจะเป็นเจ้าไอซ์ (สิทธิโชค กันหนู)

ขาดกัปตันเจนก็เรื่องใหญ่อยู่เหมือนกัน

แมน : ศุภชัย ใจเด็ด เป็นไงบ้างพี่ น่าจะมีโอกาสมั้ย

โค้ชโย่ง : อาร์มพี่เคยลองแล้วตอนไปอุ่นเครื่องกับจีน คือถ้าเป็นกองหน้าในระดับนี้มันยังเล่นไม่ได้อะ ถ้าเอาเล่นกลางก็ล้นทีมแล้ว

แมน : พวกที่ติดชุดใหญ่คนอื่นๆ อย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน, นพพล พลคำ, เควิน ดีรมรัมย์ นี่จะมาสมทบกับชุดเอเชียนเกมส์ด้วยทั้งหมดใช่มั้ยพี่

โค้ชโย่ง : เควิน นี่พี่ยังไม่แน่ใจนะ เพราะตัวริมเส้นทางซ้ายพี่มีหลายคนแล้ว เควินเขาเกมรับยังไม่เขี้ยวเท่าไหร่ บุกแล้วไม่ค่อยลงมา แต่ก็ยังไม่แน่ ขอดูไปก่อน นพพลเป็นตัวหลักของพี่อยู่แล้ว "เป้" มันดีขึ้นเยอะจากที่เคยไล่ตัดบอลและส่งง่ายๆให้เพื่อน ตอนนี้ก็มีจ่ายทะลุช่องทำเกมเองได้ด้วย ส่วนเจ้าพี (ศศลักษณ์) พี่ก็คงเอาไปด้วยอยู่แล้ว

แมน : พี่จะใช้พีเล่นแบ็กขวาเหมือนในทีมบุรีรัมย์หรือเปล่าครับ ตอนนี้ได้ัรับคำชมเยอะมากเพราะเล่นได้ดี มีกระชากลากเลื้อย เลี้ยงตัดนงตัดใน ครอสบอลใช้ได้ด้วย

โค้ชโย่ง : พี่ไม่เคยมองว่าพีเป็นแบ็กเลยนะ มันต้องเล่นปีกมากกว่า ถามว่าถ้าบุรีรัมย์ไม่มีตูเนซไม่มี ดิโอโก้ จะเป็นยังไงล่ะ ถ้าตัวไทยล้วนๆ พีอาจจะยืนแบ็กไม่ได้ขนาดนั้น แบ็กซ้ายแบ็กขวาตอนนี้พี่ก็มี "เทค" (สุริยา สิงห์มุ้ย) กับ "ไอซ์" (จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์) จริงๆ ก็มี วันชัย (จารุนงคราญ) อีกคนที่พี่สแตนด์บายไว้เหมือนกัน "เจ้าไช้" เนี่ยพี่เสียดายที่ แอร์ฟอร์ซ ใช้เขาในบทบาทที่เขาไม่ถนัด เพราะมันจะเป็นสไตล์วิงแบ็คไม่ใช่ฟูลแบ็ค ถ้าให้มันได้วิ่งเติมเกมขึ้นลงจะใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่าให้ไปไล่ตามประกบปีกคู่แข่งแบบนั้น

สำหรับ "พี่โย่ง" แล้ว "เจ้าพี" คือปีกไม่ใช่แบ็ก

แมน : ตำแหน่งประตู ตอนนี้นอกจาก นนท์ ม่วงงาม แล้ว อีกคนนึงที่พี่จะเอาไปด้วยตัดสินใจได้หรือยังครับ

โค้ชโย่ง : นนท์น่าจะเป็นมือหนึ่งล่ะ เพราะได้ลงต่อเนื่องแล้วก็มีประสบการณ์ในซีเกมส์ด้วย อีกหนึ่งตำแหน่งพี่จะรอดู รัตนัย (ส่องแสงจันทร์), ขวัญชัย (สุขล้อม) แล้วก็ อภิรักษ์ (วรวงษ์) เกมที่อุ่นกับอินโด พี่คงจะให้นนท์ลงแค่เกมเดียวแล้วลองคนอื่นอีกเกม อาจจะเล่นคนละครึ่ง ถึงตอนนั้นน่าจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอาใคร 

แมน : มีเสียงไม่เห็นด้วยเรื่องการเรียกนักเตะรอบนี้บ้างมั้ยพี่

โค้ชโย่ง : มีอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ทุกทีมก็อยากให้นักเตะของตัวเองติดทีมชาติ จะได้เป็นโปรไฟล์ เป็นเกียรติประวัติของทั้งนักเตะและสโมสร แต่พี่เรียกทุกคนมาติดไม่ได้ไง พี่ว่ารอบนี้พี่เรียกค่อนข้างทั่วถึงแล้วนะ เป็นตัวที่ดีที่สุดแล้ว คนเก่งกับคนเล่นได้ไม่เหมือนกันนะ บอลทัวร์นาเม้นต์แบบนี้มันไม่ได้มีโอกาสให้แก้ตัว แพ้เกมนึงก็อาจตกรอบแล้ว ไม่เหมือนบอลลีกที่นัดนี้เล่นไม่ดีนัดหน้าเล่นดี คนก็มองว่าเก่ง พี่เลยต้องดูที่คาแร็คเตอร์ด้วยว่าใครเล่นได้ พี่เคยผ่านมาทั้งการเป็นนักเตะและโค้ชทีมชาติ มองดูก็รู้ว่าบุคลิกแบบไหนที่เล่นทีมชาติได้หรือไม่ได้

แมน : ตำแหน่งไหนที่ถูกวิจารณ์เยอะสุดครับ

โค้ชโย่ง : หลัง, กลาง, หน้า มีหมดแหละ คืออย่างกองหลัง คนอาจจะถามว่าทำไมพี่เรียก "เหน่ง" (ศฤงคาร พรมสุภะ) ที่เล่นที2 กับระยอง ทำไมไม่เรียก นิรันด์ มีมาก ของ เทโร ที่ตัวสูงใหญ่กว่าและเล่นในไทยลีกเป็นตัวจริงทุกนัด พี่ไปดูนิรันด์เล่นมาหลายนัดแล้ว ก็โอเคแต่ประสบการณ์ระดับชาติน้องมันยังไม่เคยเลย พี่ไปดูมาหมดแหละทุกลีก T4 ก็ไปดูอย่างวันก่อนก็ไปดู "เจ้าหนึ่ง" (วรวุฒิ นามเวชย์) ที่เล่นให้ท่าเรือบี ก็ถือว่าเล่นได้ดี พี่ก็เรียกมาติดทีมแล้ว

แมน : คือแฟนบอลอาจจะมองว่าพี่เรียกตัวใน T2 กับ T4 มาแต่กลับไม่เอาคนที่เล่นตัวจริงใน T1 

โค้ชโย่ง : ใช่แต่ต้องมองว่าทุกทีมโอกาสมันไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเจ้าเหน่งหรือเจ้าหนึ่งอยู่เทโรก็อาจจะเป็นตัวจริงก็ได้นะ แล้วพวกนี้ผ่านซีเกมส์ เจอความกดดันมาแล้วด้วย

แมน : ได้ดูฟอร์ม มาร์โก บัลลินี่ กองหลังลูกครึ่งอิตาเลียนที่สูง 2 เมตรของ ชัยนาท มั้ยพี่ เห็นช่วงนี้ลงตัวจริงตลอดแล้วทีมไม่แพ้เลย

โค้ชโย่ง : อ๋อของชัยนาทใช่ัมั้ย พี่เคยไปดูแล้ว ยังออกบอลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พี่ตั้งใจว่าจะเรียกไปติดชุดยู-21 ก่อนช่วงเดือนกรกฎาคมก่อนเอเชียนเกมส์ 

แมน : มาร์โก เกิดปี 2541 ก็เล่นยู-19 ไม่ได้แล้ว ยู-21นี่รายการอะไรพี่ มีด้วยหรอ อันนี้พี่ก็คุมใช่มั้ยครับ

โค้ชโย่ง : ใช่น่าจะเป็นพี่คุมเอง แข่งที่พม่าไง เห็นมีโมร็อคโคมาเตะด้วย รายละเอียดยังออกมาไม่ครบหรอก เดี๋ยวต้องรอดูก่อน

แมน : อย่างนี้พี่ก็อาจจะได้ลองตัวที่จะเอาไว้ใช้ในเอเชียนเกมส์ในทัวร์นาเม้นต์นี้ด้วยเลยสิครับ

โค้ชโย่ง : น่าจะคนละชุดกันเลย เพราะช่วงนั้นเอเชียนเกมส์ต้องเก็บตัวแล้ว เดี๋ยวเจ็บขึ้นมาจะยุ่ง แต่ มาร์โก เนี่ยพี่ดูแล้วยังมีอนาคตอีกไกลเพิ่ง 19 เอง ยังต้องฝึกมันหน่อย เรื่องจับบอลออกบอลด้วยเท้า แต่เรื่องลูกกลางอากาศมันเก็บกินหมด เพราะมันสูงตั้ง 2 เมตร

มาร์โก บัลลินี่ อายุ 19 สูง 2 เมตร อนาคตกองหลังทีมชาติไทย

แมน : กองกลางชุดนี้เห็นชื่อ เรืองยศ จันชัยชิต กลางรับของ อุดรธานี ด้วย คนนี้เด็กอัสสัมชัญ ธนบุรี นี่พี่ ที่เรียกมานี่เพราะ นพพล พลคำ ต้องไปเล่นชุดใหญ่หรือเปล่าครับ

โค้ชโย่ง : อ๋อ "เจ้าเก้า" พี่เคยเอาไปอุ่นเครื่องที่จีน แล้วมันเล่นได้เลย มีอีกคนที่เล่นแบ็กซ้าย "เจ้าโอ" (มารุต บุตรรักษ์) ก็ใช้ได้ "ธร" (ธร สอระภูมิ เฮดโค้ชอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด) เขาแนะนำมา ถ้าเกิดไปอุ่นเครื่องที่อินโดครั้งนี้ เก้ามันเล่นได้ก็อาจติดทีมไปแข่งเอเชียนเกมส์ด้วยก็ได้

แมน : นี่เดี๋ยวต้นเดือนหน้ามีน้องผมชื่อ "แทน" ธรรมนูญ สาลี จะไปเทสต์กับทีมเจ3 ที่ญี่ปุ่น พี่รู้จักมั้ยครับ อายุเพิ่ง 23 ก็อยู่ในเกณฑ์เอเชียนเกมส์นะพี่ เล่นกลางรับด้วย

โค้ชโย่ง : ใครนะ

แมน : ที่ไปเล่นเคลีก3 เกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว ที่เคยไปเล่นลีกกานา, เซอร์เบีย, โปรตุเกส ไม่คุ้นเลยหรอพี่

โค้ชโย่ง : อ๋อถ้าบอกว่าไปเกาหลีก็คุ้นๆ แล้ว พี่ว่าเด็กแบบนี้ต้องชื่นชมนะ เพราะเด็กไทยมีไม่เยอะหรอกที่จะกล้าออกไปเล่นต่างประเทศ คือคนอาจไม่รู้กัน จริงๆ ทีมในญี่ปุ่นเขาติดต่อหาเด็กไทยไปเล่นเยอะมาก แต่ไม่ยอมไปกันเพราะค่าเหนื่อยน้อยกว่าอยู่เมืองไทย บางคนก็คิดแค่ว่าเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ อาชีพก็คือต้องทำเงินให้ได้เยอะๆ อยู่เมืองไทยเขาเรียกว่าอะไรนะ อ๋อค่าครองชีพมันก็ถูกกว่า ถ้าไปต่างประเทศแล้วได้น้อยกว่าหรือพอๆ กันเด็กไทยก็ไม่ค่อยอยากไป เพราะต้องไปปรับตัวอะไรอีกเยอะแยะ

แมน : มีติดต่อมาเยอะเลยหรอครับ

โค้ชโย่ง : มีเยอะ อย่างพี่เฮงเขาก็คุยกับคนที่ญี่ปุ่นอยู่ตลอด บางทีแกก็ไม่อยากส่งไปเพราะรู้ว่าชั้นยังไม่ถึง แต่พี่อยากจะฝากบอกอย่างหนึ่งถึงเจ้าอะไรนะ ที่ว่าจะไปญี่ปุ่นน่ะ คือถ้าไปที่ไหนแล้วก็อยากให้อยู่ที่นั่นยาวๆ ไปเลย ไม่ต้องรีบกลับไทย พออายุซัก 28-29 ค่อยกลับมาก็ได้ มีโอกาสแล้วต้องไปให้สุด อย่างอแง อย่าเกเร จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง ย้ายทีมบ่อยๆ คนก็จะมองได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จซักที่ แต่อย่างน้อยถึงไม่ประสบความสำเร็จ ต่อไปเกิดเลิกเล่นก็อาจเป็นโค้ชก็ได้ ประสบการณ์ผ่านมาเยอะเรียนรู้จากเขาแล้วเอามาปรับใช้ 

"แทน" ธรรมนูญ สาลี กำลังจะไปทดสอบฝีเท้าที่ญี่ปุ่นกับทีมใน J3

แมน : เดี๋ยวไว้ผมบอกน้องมันให้ครับว่าพี่โย่งแนะนำมา ยังไงวันนี้ขอบคุณมากครับพี่ ไว้โอกาสหน้ามารบกวนใหม่นะครับ

โค้ชโย่ง : ได้ๆ หวัดดีๆ แมน


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ ด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด