หากเปรียบเทียบฟุตบอลเป็นความรัก “พรีเมียร์ลีก” คงเป็นอดีตคนรักที่ชายหนุ่มนาม “ลิเวอร์พูล” มิอาจพิชิตใจได้สักที

แม้ว่าในหลายสิบปีนี้ลิเวอร์พูลได้เคยคว้าสาวรูปงามอย่าง “ยูฟ่า” มาควงแขนได้สักระยะหลังจากหักอกหนุ่มหน้าหล่อเชื้อสายอิตาลีนามว่า “มิลาน” ไปชนิดจะเคาะระฆังแต่งงานอยู่รอมร่อ

แต่สุดท้ายภาพจำของสาวนาม “พรีเมียร์ฯ” ก็ยังคงชัดเจนมิอาจลบเลือนไปจากใจได้สักที

ที่เริ่มอรัมภบทแบบนิยายน้ำเน่า...ก็เพราะเรื่องราวความพยายาม (พิชิตใจ) คว้าแชมป์ลีกของ “ลิเวอร์พูล” มันเป็นเหมือนนิยายน้ำเน่านั่นแหละ

ใกล้เคียงอยู่หลายครั้งหลายหน ฉิวเฉียดอย่หลากครั้งหลายครา แต่ก็มักจะมี “ดราม่า” มาคอยสกัดกั้นไม่ให้ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ

หลายคนบอกว่าอาจเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเกิด โดยเฉพาะเหตุการณ์ “ลื่น” ที่มักโดนเอามาล้ออยู่เป็นประจำ

นั่นเป็นเพียงผลที่ตามมาจากปัญหาใหญ่ที่แท้จริงต่างหาก ...

ปัญหาใหญ่ที่แท้จริง คือหงส์แดงมีนักเตะที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในตำแหน่ง “แนวรุก” แต่ก็จะมี “ดราม่า” และทำให้จำต้องปล่อยให้พวกเขาหลุดมือไปจากทีม

แม้ว่าจะแลกมากับเงินจำนวนมหาศาล มาปลอบใจโดยการเอาไปซื้อนักเตะใหม่ บ่มเพาะให้สุกงอมจนพร้อมที่จะคว้าแชมป์ แต่แล้วก็ก็มี “ดราม่า” ทำให้ปล่อยนักเตะฝีเท้าดีไปอีกครั้ง

ส่งผลให้นักเตะที่เหลืออยู่จำต้อง “แบก” ทีม ชนิดที่ขาดไม่ได้ และส่งผลต่อการแย่งแชมป์ลีค โดยเฉพาะ “พรีเมียร์ลีก” ลีคมีการแข่งขันที่เข้มข้น ตารางแน่น และดุเดือด อันดับต้นๆ ของโลก

พูดกันอย่างตรงไปตรงมาที่สุดการที่หงส์แดงจะหลุดพ้นการนี้ได้ อันดับแรกต้องหลุดพ้นจาก “วังวน” นี้ให้ได้

เพื่อที่จะมีขุมกำลังที่แกร่งพอ และไม่มีใครจำเป็นที่จะต้อง “แบก” คนเดียวอีกต่อไป

เพราะหากเราลองมองย้อนกลับไป ลิเวอร์พูลมีนักเตะฝีเท้าระดับพระกาฬมากมาย ไล่เรียงมาตั้งแต่ ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ , สตีฟ แม็คมานามาน, ไมเคิล โอเว่น

หากจะนับในช่วงเวลาที่เฉียดฉิวแชมป์ลีคในยุคสมัยปัจจุบัน ก็จะพบนักเตะในกรณีเดียวกันอย่าง เฟอร์นันโด ตอเรส , หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูติญโญ่ รายชื่อเหล่านี้หากอยู่ทีมต่อไประยะยาว เชื่อว่าพร้อมเป็นตำนานของทีมได้ทั้งนั้น

รวมไปถึงรายชื่อล่าสุดอย่าง “โม-ซาลาห์” ที่เหล่าแฟนๆ ต้องมาลุ้นอีกครั้งว่าจะย้ายหรือไม่ย้ายหลังจบศึกฟุตบอลโลก (แม้ว่าผมจะไม่เชื่อว่าโมจะย้ายช่วงซัมเมอร์นี้ก็ตาม)

และไม่รู้จะมีเรื่อง “ดราม่า” อะไรมาทำให้เกิดการย้ายทีมแบบไม่น่าจะเกิดอีกหรือไม่

ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้วิเคราะห์โดยคร่าวๆ และสำรวจจากคอมเมนต์ของแฟนลิเวอร์พูลหลายต่อหลายคน แบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ เป็น 3 หัวข้อได้แก่

1.สภาพเศรษฐกิจของทีม แม้ว่าปัจจุบันหงส์แดงจะมีรายรับที่เพิ่มมากขึ้น และมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา แต่ถามว่าหากเทียบกับเหล่าทีมมหาเศรษฐี ลิเวอร์พูลยังที่ไม่สามารถให้ค่าเหนื่อยแก่นักเตะในกรณีเหล่านี้ได้เทียบเท่ากับทีมอื่นๆ

2.การดูแลนักเตะจากเรื่องดราม่า อย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับหลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งถามว่าทำได้ดีหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าดีในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่เพียงพอในการซื้อใจนักเตะให้อยู่กับทีมต่อได้

3.ความสำเร็จ แม้ว่าผลงานส่วนตัวจะดีแค่ไหน แต่นักเตะส่วนใหญ่ต้องการความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในหลายรายการ เป็นผลงานไว้สำหรับตนเองยามเลิกเล่น

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลุดออกจาก “วังวน” นี้และคว้า “พรีเมียร์ลีก” มาครองให้ได้

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด ณ วินาทีนี้คือ ลิเวอร์พูล จะต้องทำทุกทางเพื่อคว้าแชมป์ “บิ๊ก เอียร์” มาครอบครองให้ได้ เพื่อตัดกรณีในข้อที่ 3 ทิ้ง ออกไป สร้างเป็นแรงจูงใจให้นักเตะระดับท๊อปของทีม รวมไปถึง ซาลาห์ พร้อมใจและกระหายที่จะอยู่กับทีมต่อเพื่อคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลหน้า

จากนั้น หากเสริมทัพได้เด็ดดวงเหมือนอย่างฤดูกาลนี้ ทำให้ทีมมีขุมกำลังแกร่งทั่วแผ่นได้

ฤดูกาลหน้าก็มีสิทธิ์ พิชิตใจ รักแรกอย่าง “พรีเมียร์” คว้าเธอกลับมาครอบครองได้เหมือนกัน!