หากมอบโอกาสให้หมุนเวลากลับได้ แล้วเล่นหนึ่งเกมนั้นใหม่ในชีวิต ผมเลือกย้อนไปยัง เอเธนส์ ปี 2007
เกมชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ชปล.ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอซี มิลาน ยังคงเป็นเสี้ยนตำใจอยู่ถึงทุกวันนี้ เชื่อไหมว่ามีผู้ส่วนกับแมตช์เมื่อ 11 ปีก่อนหลายรายไม่เคยเปิดไฮไลท์นัดนั้นดูอีกเลย ซึ่งผมเข้าใจว่าเพราะอะไร
ลิเวอร์พูล แพ้ในนัดชิง ยูฟ่า ชปล.2007 ให้ มิลาน 1-2
เพราะมันคือนัดที่เราสมควรชนะ มีโอกาสเหน่งๆ แต่ดันพลาด!!
มันยังมีอีกหลายเหตุผลที่เกมนั้นยังอยู่ในความทรงจำส่วนตัว ที่หวังให้มันไม่ใช่ความจริง ... จำได้ว่าเราไปเปิดแคมป์ฝึกที่ มูร์เซีย ทางตอนใต้ประเทศสเปน เพื่อกำลังสภาพอากาศ รวมถึงความชื้นสัมพัทธ์ต่างๆเพื่อให้ใกล้เคียงประเทศกรีซมากสุด แล้วทุกอย่างไปได้สวยเลย
ผจก.ทีม ราฟา เบนีเตซ ก็ดูมีความสุข เขาอนุญาตให้ทีมมีกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ ซึ่งเราเลือกแข่งรถ โก-คาร์ท ซึ่งก็มันส์มาก ...หากคิดว่าเป็นเช่นนั้นแต่ท้ายสุดมันคือหายนะ!!
เคราช์ ลงมาเป็นสำรองท้ายเกม ทั้งที่เจ้าตัวหวังออกสตาร์ต
เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อมีรถสองคันชนกันอย่างแรงอัดเข้ากำแพงเซอร์กิตใกล้ๆที่รถผมจอดอยู่ เดชะบุญไม่มีใครเจ็บอันใดแต่บอสหัวเสียมากด่าเราว่าไม่รู้จักโต
นั่นคือเรื่องร้ายอย่างเดียวที่แคมป์ มูร์เซีย แต่ภาพรวมการเตรียมทีมด้านอื่นยอดเยี่ยม ผมได้สตาร์ตตัวจริงทั้งสองเลก รอบก่อนรองชนะเลิศกับ พีเอสวี, สตาร์ต เกมสอง รอบรองชนะเลิศกับ เชลซี จำได้ว่ายิงไปรวม 6 เฉพาะรายการ ยูฟ่า ชปล. หนนั้น แน่นอนคิดว่าคงมีโอกาสสูงจะได้ออกสตาร์ตนัดชิงชนะเลิศพบ เอซี. มิลาน
แต่เชื่อไหมวินาทีที่ทราบว่าเป็นแค่สำรองมันทำให้ผมใจตกที่ตาตุ่ม 'ราฟา' ไม่เคยแง้มเงื่อนงำแผนของเขามาก่อน เพียงแค่เรียกประชุมช่วงเช้าก่อนแมตช์เดย์ กางแผ่นแจงแท็คติคของ 11 ตัวจริงออกมา
ไฮไลท์จากเมื่อ พ.ค.2007
แน่นอนว่าตัวเองนิ่งไปเลยเมื่อเห็นว่าเป็นสำรองข้างสนาม อันที่จริงผมควรได้ออกสตาร์ตก่อน เคาท์ !!!
ทั้งนี้สิ่งที่ทำได้คืออย่าตีอกชกลม ทีมต้องมาก่อนแม้มันจะเป็นเรื่องจากในการเก็บความรู้สึกผิดหวังเอาไว้ สิ่งที่ทำได้คือเตรียมตัวจนพร้อม รอเวลาให้ ราฟา เรียกใช้งาน
แม้ได้เวลาเพียง 12 นาที เพื่อลงแข่ง ซึ่งพอลงสนามปุ๊ป ฟิลิปโป้ อินซากี้ ก็ยิงประตูที่ 2 ให้ มิลาน ไม่กี่อึดใจจากนั้น
ส่วนตัวพยายามลงไปพลิกเกม จำได้ว่ามีโอกาสสับไกใส่ ดีด้า แล้วถูกเซฟ กระทั่งก่อนหมดเวลา 1 นาที เคาท์ สามารถโขกตีไข่แตกให้เราแต่ก็สายเกินไป ... เป็นอีกครั้งที่เสียงนกหวีดทำให้ตัวเองรู้สึกขมขื่นเหลือเกิน
ฉะนั้น! ผมหวังว่ากับทีม ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันจะไม่ต้องจบด้วยความช้ำเหมือนเมื่อ 11 ปีก่อน
นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ชปล.2018 ระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ลิเวอร์พูล
ในใจเข้าข้างรุ่นน้องอยู่แล้ว แต่ในสมองมันก็อดกังวลไม่ได้ รอบที่แล้วเราเสีย 6 ประตูให้กับ โรม่า ซึ่งพวก เรอัล มาดริด เจ๋งกว่า 'จัลโล่รอสซี่' หลายเท่า
'ราชันชุดขาว' เป็นทีมจองหอง จะงัดเอาจุดเด่นของตัวเองมาสร้างปัญหาให้ ลิเวอร์พูล - ยังจำได้เมื่อครั้งเป็นนักเตะ สเปอร์ส เจ้า มาร์เซโล่ มันกวนประสาทมาก มาเยาะเย้ยตอนผมโดนไล่ออกเกมเจอ มาดริด ที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว
เรื่องที่ต้องระวังคือ เรอัล มาดริด ถนัดการทำให้คู่แข่งเสียสมาธิ แถมยังรู้วิธีชนะเพื่อขึ้นสู่แชมป์
เคราช์ มองว่า ลิเวอร์พูล อาจยืนระยะไม่ครบ 90 นาที
กับ ลิเวอร์พูล? ภาพรวมยังเต็มไปด้วยคำถาม พวกเขาอาจจะมีผู้เล่นที่สามารถเล่นงาน เรอัล มาดริด ทว่ากับการยืนระยะ 90 นาที มันต่างออกไป น้องๆจำเป็นต้องงัดฟอร์มที่ดีสุดชีวิตหากหวังเป็นผู้ชนะในบั้นปลาย
สิ่งที่สามารถบอกได้แน่นอนคือหาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปสมัยหก มันจะเป็นความภูมิใจของพวกเขาไปทั้งชีวิต
จำได้ตอนนั้นผมย้ายไปเล่นที่ แอนฟิลด์ 2 เดือนหลังจากพวกเขาประสบความสำเร็จที่ อิสตันบูล บอกเลยว่าแม้มันจากผ่านนัดชิงชนะเลิศปี 2005 มาแล้วแต่บรรยากาศรอบเมืองยังคงยอดเยี่ยม
ขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล กับนัดสำคัญที่สุดอาชีพ
ผมกล้าพูดแบบไม่อายเลยว่ารู้สึกอิจฉาน้องๆชุดปัจจุบันที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ นี่คือโมเมนต์ของชีวิตคุณเลย มันคือเกมที่จะตอบแทนความทุ่มเทเสียสละตัวเองมาตลอดอาชีพ
เป็นโอกาสดีของพวกนายแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์ พี่อวยพรให้คว้ามันมาจงได้
จาก.ปีเตอร์ เคราช์
