เป็นอีกครั้งที่แล้วนะครับที่ เรอัล มาดริด กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการแตกหัก

บทสัมภาษณ์หลังคว้าเจ้ายุโรปสมัยที่ 13 ของดาวเตะโปรตุกีสที่เปรยว่าจะตัดสินอนาคตตัวเองเร็วๆนี้ ถูกตอกย้ำให้ยิ่งน่าเชื่อถือขึ้นกว่าเดิมว่าการ ‘แยกทาง’ ใกล้ที่จะเกิดขึ้นจริงด้วยพาดหัวหน้าหนึ่งของสื่อบ้านเกิดของเจ้าตัวอย่าง 'Record' 

หลังเกมนัดชิงที่กรุงเคียฟ โรนัลโด้ ทิ้งบอมบ์เป็นภาษาสเปนว่า "Fue muy bonito estar en el Real madrid, en los próximos días yo hablo daré una respuesta"."  (มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากที่ได้อยู่กับ เรอัล มาดริด,อีกไม่กี่วันข้างหน้า, ผมจะพูด ผมจะให้คำตอบ) ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมอย่างแรง จนแทบจะกลบบรรยากาศอันชื่นมื่นของการฉลองแชมป์เสียสนิท

มาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หน้าหนึ่งของนสพ. 'Record' พาดหัวเป็นภาษาโปรตุกีสว่า 'RONALDO VAI SAIR DO REAL' ซึ่งถอดความได้ว่า "โรนัลโด้ จะออกจาก เรอัล" 

ก็อย่างที่ 'นับเบอร์โฟร์' ได้จั่วไปข้างต้นว่า "เป็นอีกครั้งแล้ว"  

มาคราวนี้ เมื่อสื่อโปรตุกีสนำข่าวนี้กลับมาเป็นประเด็นร้อน จึงมีการตั้งคำถามอย่างกว้างขวางว่า "ครั้งนี้ไปแน่หรือ ?" 

หากใครยังจำได้ สองปีที่แล้ว ก่อนศึกยูโรที่ ฝรั่งเศส จะเริ่มขึ้น ก็มีข่าวว่า โรนัลโด้ จะย้ายทีม ซึ่งก็เป็นสื่อโปรตุกีสนี่เองที่เป็นผู้จุดชนวน ต่างกันแค่คราวนั้นเป็น 'A BOLA' 

ส่วนสาเหตุนั้น ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมก็คือ "มันเรื่องของเงินที่ไม่เกี่ยวกับเงิน" 

"งงมั๊ยครับ ?"  

อธิบายกันง่ายๆอย่างนี้...

โรนัลโด้ ไม่พอใจที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ไม่ยอมปรับปรุงสัญญาให้ตามที่ได้เคยรับปากเขาเอาไว้ 

ปรับปรุงสัญญา ความหมายคือ "ขึ้นเงิน" นั่นแหละครับ แต่งานนี้ระบุว่าประเด็นสำคัญคือมันไม่ใช่เรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องของ 'สัจจะ'

ต้นสายปลายเหตุของการเตรียมย้ายออกในครั้งนี้ของ โรนัลโด้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีก่อน หลังเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูเวนตุส ที่ คาร์ดิฟฟ์ 

ด้วยฟอร์มอันสุดยอดของ โรนัลโด้ ในขณะนั้นทำให้ เปเรซ รับปากว่าจะทำการขึ้นค่าเหนื่อยให้ จาก 21 ล้านยูโร เป็น 30 ล้านยูโรต่อปี

30 ล้านยูโร ต่อปี เอาเข้าจริง ตัวเลขนี้แม้ว่าจะมากกว่านักเตะทั่วไปอยู่หลายเท่าตัว  แต่ก็นับว่าน้อยกว่า เนย์มาร์ ซึ่งรับอยู่ 37 ล้าน กับ เปแอสเช แล้วก็ยังตามหลังรายรับเกือบๆ 50 ล้านต่อปี ของ ลิโอเนล เมสซี่ ไกลสุดกู่

กระนั้นจนแล้วจนรอด ค่าเหนื่อยใหม่ของ CR7 ก็ถูก เปเรซ ผัดผ่อนเรื่อยมา

ย่างเข้ากันยายนซึ่งเป็นช่วงที่ โรนัลโด้ ฟอร์มตก การเจราจาจึงถูกแช่แข็งไปโดยปริยาย กระทั่งถึงปลายปี ช่วงเดือนธันวาคม 2017 ข่าวความไม่พอใจของ โรนัลโด้ จนขอย้ายทีมก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง 

หนนั้นเป็นนักข่าวสเปนชื่อ เอดู อากีร์เร่ ที่ออกมาแฉผ่านทาง 'ชีริงกีโต้' (Chiringuito) รายการลูกหนังทางทีวีชื่อดังของสเปนว่า โรนัลโด้ นั้นสุดจะทนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่แล้ว 

ข่าวของ อากีร์เร่ สร้างความฮือฮาได้ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

โรนัลโด้ ยังเล่นอยู่กับทีมต่อไป และฟอร์มก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาพีคเต็มตัวในเกมรอบ 16 ทีมกับ เปแอสเช และรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ ยูเวนตุส

โดยเฉพาะเลกแรก ที่ ตูริน โรนัลโด้ ซัดคนเดียว 2 ประตู ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการตีลังกายิงอย่างสุดสวย จนได้รับเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมของ แชมเปี้ยนส์ลีก ปีนี้ ส่วนเลกสอง ก็ยิงจุดโทษตีไข่แตก 1-3 ให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบหวุดหวิด 

ท่ามกลางฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โรนัลโด้ เก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ไม่บอกใคร จนกระทั่งเขามาเปิดอกหลังเกมกับ ลิเวอร์พูล

ส่วนหน้าหนึ่งจาก 'Record' นั้น มาจากข่าววงในเกี่ยวกับข้อเสนอล่าสุดที่บอร์ดบริหาร เรอัล มาดริด ยื่นให้  

แหล่งข่าวใกล้ชิดบอกว่าจากตัวเลข 30 ล้านยูโรที่สัญญาไว้ ภายในห้องประชุมเมื่อวันอังคารที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ (ประธาน),โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ (กรรมการบริหาร) และ ฮอร์เก้ เมนเดส (เอเยนต์ของ โรนัลโด้) ผลปรากฏออกมาว่าข้อเสนอที่ เรอัล มาดริด สามารถยื่นให้สูงสุดคือค่าเหนื่อย 25 ล้านยูโรต่อปีบวกโบนัส  

คำว่า 'บวกโบนัส' นั้น สามารถที่จะทำให้รายได้ในสัญญาฉบับใหม่ของดาวยิงโปรตุกีสขยับไปถึงตัวเลข 30 ล้านยูโรได้ ทว่าก็ยากแสนยาก เมื่อตั้งอยู่ในข้อแม้ที่ว่าเขาจะต้องช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าทั้งแชมป์ ลา ลีกา,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ โกปา เดล เรย์ ในหนึ่งฤดูกาล นอกจากนี้ยังรวมไปถึงรางวัลส่วนตัวที่บีบบังคับว่า โรนัลโด้ จะต้องคว้ามาให้ได้ทั้ง 'บัลลงดอร์' และ 'THE BEST' 

เช่นนี้แล้ว ค่าเหนื่อยระดับ 30 ล้านยูโรต่อปีจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับ โรนัลโด้ ซึ่งทำให้เขาหัวเสียอย่างมาก จนเกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย 

นอกจากนี้ ข่าวการไล่ล่า เนย์มาร์ ที่ เรอัล มาดริด พร้อมทุ่มเงินสุดตัวก็กลายเป็นอีกหนึ่งความเกี่ยวพันที่ทำให้ โรนัลโด้ ยิ่งมองว่า สโมสรไม่ยุติธรรมกับเขา เพราะอิดออดไม่ยอมเพิ่มเงินตามสัญญา แต่กลับพร้อมเทหมดหน้าตักเพื่อไล่ล่าอีกคน 

กับเรื่องนี้พอข่าวออกมา แว่บแรกในความคิด เชื่อเลยว่าส่วนใหญ่มักจะมอง โรนัลโด้ ในแง่ลบ

เรื่องมากบ้างล่ะ โลภมากบ้าล่ะ..เงินก็มีให้ใช้ไม่หมดแล้วชาตินี้ ยังจะเอาอะไรอีก

อย่างไรก็ดี 'นัมเบอร์โฟร์' อยากให้คุณๆมองให้รอบด้าน เพราะหากทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลที่ 'Record' รายงานจริง นั่นหมายความว่าคนผิดก็คือตัวท่านประธานอย่าง เปเรซ เพราะ "ไม่ยอมทำตามสัญญา"

ว่ากันตรงๆ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวว่า โรนัลโด้ มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ แต่มันเกี่ยวที่ว่าการผิดสัญญาของคนระดับนี้ นั่นหมายถึงการไม่ให้เกียรติกัน ดังนั้นเขาจึงมีความชอบธรรมที่จะโวยเพื่อทวงสิทธิของตัวเอง 

ทีนี้ปัญหาก็มาอยู่ที่ว่า เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ตกลง "โรนัลโด้ จะตัดใจย้ายได้จริงหรือ ?"

เรื่องการย้ายออกจาก มาดริด นั้น ความคิดส่วนตัวของ นัมเบอร์โฟร์ มองว่ามีความเป็นไปได้พอสมควรทีเดียว หรืออย่างน้อยๆก็มีโอกาสสูงกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน

เหตุผลแรกเลยคือเวลานี้คนที่เขาผูกพันด้วยในทีม เรอัล มาดริด ก็ทยอยหนีหายไปทีละคนสองคน ไล่ตั้งแต่ เปเป้,ฟาบิโอ โกเอนเตรา สองเพื่อนร่วมชาติ,รุ่นน้องคนสนิทอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ กระทั่งมาถึง ซีเนดีน ซีดาน กุนซือที่คอยหนุนหลังเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งนั่นหมายถึง เรอัล มาดริด ไม่เหมือนเดิมแล้ว 

เหตุผลที่สอง การที่ เรอัล มาดริด พยายามไล่ล่าตัว เนย์มาร์ ทำให้ โรนัลโด้ ตระหนักว่าทีมไม่ต้องการที่จะพึ่งพาเขาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งการที่ไม่ยอมขึ้นค่าเหนื่อยให้ทั้งๆที่เคยตกลงกันไว้ มันคือสัญญาณบ่งบอกที่ชัดเจนเอามากๆ 

ขณะเดียวกัน ฝั่ง เรอัล มาดริด เองคราวนี้ก็มีทีท่าว่าจะไม่รั้งไว้เหมือนกัน เพราะพิจราณาแล้ว แม้ โรนัลโด้ จะกอบโกยความสำเร็จมาอย่างมากมาย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ฝีเท้าก็เป็นที่ยอมรับ ทว่าด้วยค่าเหนื่อยมหาศาลแถมยังร้องขอเพิ่มทุกฤดูกาล สวนทางกับวัยที่มากถึง 34 ปี มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมต่อไปได้ 

ระหว่าง โรนัลโด้ กับ เรอัล มาดริด มันจึงเหมือนการเดินทางไกลที่ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของกันและกัน

โรนัลโด้ เองก็ต้องการไปอยู่กับทีมที่เห็นคุณค่าเขามากกว่านี้ ส่วน เรอัล มาดริด ก็ต้องเริ่มวงจรใหม่เช่นกัน มันถึงคราวเปลี่ยนแปลงผู้นำแล้ว  

เมื่อ ซีดาน ยังจากไป มันจะอีกซักแค่ไหนเชียวถ้าคราวนี้เป็น โรนัลโด้ 

บทสรุป...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเสมอ ไม่วันใดก็วันนึงเมื่อทุกอย่างมันไม่สามารถไปต่อ เมื่อนั้นก็ถึงคราวต้องแยกย้าย 

สุดท้ายก็จะเหลือประเด็นที่เราๆท่านๆต้องขบคิดและคาดเดากันต่อคือ 

1...โรนัลโด้ จะ "ย้ายไปไหน ?" 

2..ผู้นำคนใหม่ของ เรอัล มาดริด จะใช่ 'เนย์มาร์' หรือเปล่า ? 

สองประเด็นนี้ นัมเบอร์โฟร์สัญญาว่าจะกลับมาคุยกับคุณๆต่อแน่นอน หากว่า โรนัลโด้ กับ เรอัล มาดริด ได้กลายเป็นอดีตกันไปแล้ว

              'นัมเบอร์โฟร์'