ไมค์ ทอมลิ่น หัวหน้าโค้ช พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ยอมรับว่าเกมชนะคู่ปรับเอเอฟซีเหนือ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ 19-14 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นผลงานที่ไม่น่าประทับใจนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการสร้างสถิติแฟรนไชส์ 11-0 พร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบเพลย์ออฟเป็นทีมแรก ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค

'มันเป็นตัวแทนรุ่นหนุ่มจริงๆที่จะซื่อสัตย์กับคุณมาก' ทอมลิ่น กล่าว 'มันเป็นทั้งสามส่วน เราไม่สามารถส่งบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเราต้องการ เรารับบอลพลาดในจังหวะสำคัญมากเกินไป เราไม่ได้สร้างเพลย์สำคัญในทีมพิเศษ การคิกออฟของเราไม่ดีพอ เราเสียบอล เราไม่สร้างบิ๊กเพลย์ในช่วงสำคัญของเกมป้องกัน ไม่สามารถทำแบบนั้นได้'

แม้ เรฟเว่นส์ จะถูกทำลายความสามารถของพวกเขาจากเชื้อไวรัสโคโรน่า แต่เกมบุกของ สตีลเลอร์ส ทำคะแนนต่ำสุดของซีซั่นนี้ หลังควอร์เตอร์แบ็ก เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ทำเพียงทัชดาวน์เดียวและทำระยะบุกเพียง 334 หลา นอกจากนี้ยังดร็อปบอลหลายครั้งและเสีย 2 เทิร์นโอเวอร์ นอกจากนี้เกมป้องกันของ สตีลเลอร์ส ยังพลาดท่าให้ เทรซ แม็คซอร์ลี่ย์ ควอร์เตอร์แบ็กปีสองขว้างทัชดาวน์ระยะ 70 หลาให้ปีกนอก มาร์คีส บราวน์ ในช่วงควอเตอร์สุดท้ายช่วยให้บัลติมอร์ยังอยู่ในเกม

'ยอมรับไม่ได้' เฮดโค้ช สตีลเลอร์ส กล่าวถึงเพลย์ดังกล่าว รวมถึงความผิดพลาดอีกหลายครั้ง 

เกมระหว่าง สตีลเลอร์ส กับ เรฟเว่นส์ ถูกเลื่อนการแข่งขันมาจากวันขอบคุณพระเจ้าถึง 3 ครั้ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ'โควิด-19' ตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันอังคารและแข่งขันจริงกันในวันพุธ แต่ ทอมลิ่น ยืนยันว่านั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้ทีมฟอร์มแย่

'เราไม่มีข้อแก้ตัว' ทอมลิ่น กล่าว 'เราไม่แสวงหาความสะดวกสบาย เราเล่นไม่ดีในค่ำคืนนี้'

สตีลเลอร์ส มีโปรแกรมลงเล่นเกมต่อไปกับ วอชิงตัน ฟุตบอล ทีมในเกม 'มันเดย์ ไนท์' ซึ่งยังมีโอกาสสานฝันสู้การทำสถิติสมบูรณ์แบบ แต่เฮดโค้ชทัพคนเหล็กยอมรับว่าทีมต้องเล่นให้ดีกว่านี้ 'คืนนี้เราโชคดี มันเป็นเรื่องดีที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยการคว้าชัยชนะ ผมรู้เรื่องนั้นดี แต่คืนนี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมากมายให้ภูมิใจหรือตื่นเต้นกับเรื่องอื่นนอกจากนั้น'