ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ มิดฟิลด์ทีมชาติโปแลนด์ของ นาโปลี เปิดเผยเหตุผลที่ฉลองพิเศษกว่าปกติ หลังการทำประตูในเกมเสมอ เรอัล โซเซียดาด 1-1 บนเวทียูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมาว่าเป็นเพราะมันคือการทำประตูประวัติศาสตร์ในสังเวียน'สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า' รวมถึงการมอบให้ภรรยาที่ตั้งครรภ์ด้วย ตามรายงานจาก 'สกาย สปอร์ต อิตาเลีย'

นาโปลี เปลี่ยนชื่อสนาม 'สตาดิโอ ซาน เปาโล' เป็น 'สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า'เพื่อเป็นเกียรติแก่ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสร ก่อน เซลินสกี้ จะจารึกชื่อตัวเองเป็นคนทำประตูแรกในสังเวียนชื่อใหม่ แม้จะถูก เรอัล โซเซียดาด ตามตีเสมอในช่วงท้ายเกม แต่ทีมดังเมืองเนเปิ้ลส์ยังผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ ฐานะแชมป์กลุ่ม เอฟ 

'การทำประตูเป็นเรื่องที่น่ายินดีเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเป็นประตูแรกในประวัติศาสตร์ที่ สตาดิโอ มาราโดน่า' เซลินสกี้ กล่าวกับ สกาย สปอร์ต อิตาเลีย

'ผมมีความสุข แต่ผลการแข่งขันสำคัญกว่าใครทำประตูคืนนี้ เราบรรลุผลในการผ่านเข้ารอบและนั่นเป็นเหตุผลที่เราทุกคนมีความสุข'

'เป้าหมายหลักของเราในยูโรปาลีกคือการผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เรอัล โซเซียดาด มีผู้เล่นที่มีคุณภาพและเราถูกกดดันมากเกินไปในช่วงครึ่งหลัง แต่ท้ายที่สุดทั้งสองทีมที่แข็งแกร่งสุดในกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบต่อไป'

การเสมอกันระหว่าง นาโปลี กับ เรอัล โซเซียดาด เพียงพอต่อการจูงมือกันเข้ารอบน็อกเอาท์ หลัง อัลค์ม่าร์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนบุกพ่ายทีมที่ตกรอบไปแล้วอย่าง รีเยก้า 1-2 ในวันเดียวกัน

'ผมไม่คิดว่าโค้ชจะโกรธตอนที่ถูกตีเสมอ เพราะเราคว้าแชมป์กลุ่มอยู่ดี ผมหวังว่าจะทำประตูมากขึ้นในฤดูกาลนี้ ขณะที่เจ้านายบอกผมว่าผมต้องสับไกยิงมากขึ้นกว่าเดิม'

เซลินสกี้ ยังกล่าวถึงการฉลองการทำประตูพิเศษกว่าปกติว่า 'ภรรยาของผมกำลังตั้งครรภ์และผมมีความสุขมากที่อุทิศการฉลองนี้เพื่อเธอ ปีหน้าจะมีอีกหนึ่งเซลินสกี้ในครอบครัว'