แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี ยอมรับว่าได้อิทธิพลในการเป็นเฮดโค้ชหลายๆอย่างจากลูกพี่เก่า คาร์โล อันเชล็อตติ แต่กับการต้องดวลกึ๋น อันเช่ ซึ่งคุม เอฟเวอร์ตัน เวลานี้ คงไม่สามารถออมแข้งได้ต่อให้มีบุญคุณกันมา
อันเชล็อตติ คุมทีม เชลซี ระหว่างปี 2009-2011 ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ อังกฤษ และ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ อย่างละหน ซึ่งล้วนมี แลมพาร์ด เป็นขุนขวานคนสำคัญทั้งสิ้น
ดังนั้นการชิงไหวชิงพริบกันที่ กูดิสัน พาร์ค เสาร์นี้ (12 ธ.ค.) ทางหนึ่งก็เหมือนบูชาครู จึงอยากสร้างผลงานให้ดีสุดให้อาจารย์ภูมิใจ
“ผมได้รับอิทธิพลจากเขาอย่างมากสมัยเป็นนักเตะและฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่ง” บอสวัย 42 ปี กล่าวกับเว็บไซต์ทางการ
“แกจะอยู่ในอันดับต้นๆ เวลาที่ผมพูดเกี่ยวกับผู้จัดการทีมที่เคยร่วมงานด้วย เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพการทำงานกับหลายสโมสร โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเขาเป็นโค้ชที่วิเศษและเป็นคนนิสัยดีมาก เฝ้ารอการได้ดวลกึ๋นกับเขาตลอดทุกครั้ง รวมถึงการได้พูดคุยกับเขาด้วย”
https://twitter.com/bartseeboob/status/1337318424746229760
ส่วนการปิดจ๊อบแชมป์กลุ่ม ชปล.แต่หัววันทาง แลมพาร์ด ยอมรับว่าส่งผลต่อความมั่นใจทีม สามารถพุ่งสมาธิไปยังบอลลีกเต็มที่
“สำคัญมากสำหรับพวกเราในการคว้าแชมป์กลุ่ม ชปล.เพราะมันสร้างความมั่นใจไปจนถึงปีใหม่ ตอนนี้เราสามารถตั้งสมาธิไปที่โปรแกรมลีกหนักๆ 4 เกมหลังจากนี้ - เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟส์, เวสต์แฮม และ อาร์เซนอล คู่เอกบ็อกซิ่ง เดย์ คุณจะเห็นเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายแค่ไหนในระยะเวลาสั้นๆ”
“มันสำคัญที่เราต้องแน่วแน่ และมันก็สำคัญสำหรับขุมกำลังในการทำความเข้าใจว่าพรีเมียร์ลีกนั้นโจทย์หิน หากช่วงไหนฟอร์มแกว่งคู่แข่งไม่ออมเท้าให้ แล้วอาจส่งผลให้เราไม่ได้ไปอยู่ในจุดที่ต้องการ”
เชลซี หากเก็บสามแต้มที่ กูดิสัน พาร์ค จะขึ้นจ่าฝูงเพราะสองทีมนำอย่าง สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล เตะวันอาทิตย์
