นัดนี้ เอาก์สบวร์ก ส่ง โฟลเรียน นีเดอร์เลชเนอร์ เล่นหน้าร่วมกับ โทเบียส สโตรเบิ้ล ขณะที่ ชาลเก้ ที่ไม่ชนะในลีกมา 26 นัดติด วาง มาร์ค อูธ ค้ำหน้าเป้า 

ในครึ่งแรกมีเพียงสกอร์เดียวเกิดขึ้นและเป็น เอาก์สบวร์ก ที่ได้ประตูนำ 1-0 จากฟรีคิกทางฝั่งซ้ายในนาที 32 ดาเนียล คาลิจิวรี่ เปิดโด่งไปหน้าประตู ซูอัต แซร์ดาร์ พยายามโหม่งเคลียร์แต่เหลี่ยมไม่ดี กลายเป็นบอลเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย 

แต่ก่อนหน้านั้นในนาที 20 ชาลเก้ ต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อ มาร์ค อูธ กองหน้าของทีมได้รับบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว ชาน บอซโดกาน จึงได้ลงเล่นแทน 

ครึ่งหลังนาที 52 ชาลเก้ ตามตีเสมอ 1-1 ได้จากจังหวะที่ คาร์ลอส กรูเอโซ่ ของเจ้าถิ่นสกัดบอลคืนหลังไม่ดีกลายเป็นทำให้ เบนิโต้ รามัน ได้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนชิพบอลข้ามตัว ราฟาล กีคีวิชซ์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น

อีก 2 นาทีถัดมา เอาก์สบวร์ก เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ โฟลเรียน นีเดอร์เลชเนอร์ ได้ใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงหลังทำฟาวล์ ซาลีฟ ซาเน่ แนวรับ ชาลเก้ 

นาที 61 ชาลเก้ มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ซูอัต แซร์ดาร์ เปิดบอลให้ นาสซิม บูเยลแล็บ ยิงด้วยขวาในเขตโทษเข้าไป 

เกมทำท่าว่า ชาลเก้ จะปลดล็อกเฮในรอบเกือบปีได้สำเร็จ แต่แล้วช่วงทดเจ็บ เอาก์สบวร์ก ที่คนน้อยกว่าสามารถตามตีเสมอ 2-2 จากลูกโหม่งของ มาร์โค ริชเตอร์

ทำให้จบเกม เอาก์สบวร์ก ที่เหลือ 10 คน ตามตีเสมอ ชาลเก้ 2-2 ส่งผลให้ราชันสีน้ำเงินไม่ชนะคู่แข่งในลีกยาวนาน 27 นัดติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่เปิดบ้านชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 2-0 เมื่อวันที่ 18 มกราคม ของฤดูกาลที่แล้ว