ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งการทยอยฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสมรณะเป้าหมายคือครอบคลุมประชากร 2 ล้านคนก่อนสิ้นปี 2020 โดยทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ออกเกณฑ์ว่าระยะแรกฉีดให้กับผู้ปฏิบัติงานสาธารณะที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูงกับผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไปนั้น 

อย่างไรก็ตามแม้ชื่อว่าดินแดนเสรี แต่สหรัฐฯก็มีเรื่องทำนองล็อบบี้เอาประโยชน์เข้าตัว, ใช้อิทธิพล และยอมเอื้อประโยช์ทางใดทางหนึ่งเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอยู่เป็นนิจ จนเกิดคำถามต่อองค์กรเอ็นบีเอว่าจะเล่นเส้นหรือไม่? 

ซึ่งทางคอมมิสชันเนอร์ อดัม ซิลเวอร์ ยืนยันหนักแน่นเรื่องฉีดวัดซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ดำเนินตามคิว ไม่ใช้เส้นสายเข้าแทรกแซงกระบวนการแจกของ ‘ซีดีซี’

“ลีกไม่ใช้อำนาจเพื่อแทรกแซงช่วยนักกีฬาหรือสตาฟฟ์ทีมล้ำเส้นของส่วนรวม” ซิลเวอร์ กล่าวกับ ‘อีเอสพีเอ็น’

“อย่างไรก็ตามสตาฟฟ์เอ็นบีเอที่ทำงานบริการตามสนามต่างๆ, ผู้สูงวัยเข้าเกณฑ์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ พวกเขาเหล่านั้นก็สมควรอยู่ในข่ายผู้จำเป็นเร่งด่วนรับวัคซีน”  

ทำให้เชื่อว่า เกร็กก์ โพโพวิช เฮดโค้ช ซาน แอนโทนิโอ สเปอร์ส วัย 71 ปีจะเป็นกุนซือคนแรกของลีกที่ฉีดวัคซีน รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของทั้ง 30 แฟรนไชส์ เนื่องจากล้วนอยู่ข่ายความเสี่ยง 

https://twitter.com/wojespn/status/1342259293811335169

อย่างไรก็ตามมีความเห็นจากศัลยแพทย์ เจโรม อดัมส์ ผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุขเสนอว่าควรให้นักบาสฯทรงอิทธิพลอย่าง เลอบรอน เจมส์ ทีม แอลเอ เลเกอร์ส ลัดคิวฉีดวัคซีนก่อนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่คนอเมริกันบางส่วนซึ่งยังกังขากับประสิทธิภาพของสิ่งที่รัฐจะฉีดเข้าร่างกายพวกเขา  

“สำหรับ เลอบรอน เจมส์ ผมทราบว่าคุณคือตัวตั้งตัวตีสนับสนุนการสวมหน้ากากป้องกันไวรัส” นพ.อดัมส์ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น แอลเอ

“ผมอยากทราบว่าเมื่อคุณจัดสักช็อต ไม่ใช่ช็อตบาสเกตบอล แต่เป็นช็อตเข็มวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากพวกผมผลิตมันขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย เราจึงอยากให้คนหมู่มากมั่นใจต่อมัน อยากทำความเข้าใจแก่สาธารณชนว่ารับมือโรคระบาดอย่างไร”

ปัจจุบันลีกเอ็นบีเออนุมัติวัคซีนจาก 2 บริษัทเวชภัณฑ์คือ ไฟเซอร์-ไบโอเทค กับ โมเดน่า ว่าปลอดภัยและรับประกันผล