ทอม เทเลสโก้ ผู้จัดการทั่วไปของ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เปิดเผยว่าพวกเขาตกลงจ้างงาน แบรนด้อน สเตลี่ย์ โค้ชทีมรับ แอลเอ แรมส์ เป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

'มันไม่ใช่แค่การที่ แบรนด้อน มีจิตใจฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นที่ทำให้เขาเป็นหัวหน้าโค้ชในอุดมคติที่จะนำพาทีมของเราก้าวไปข้างหน้า' เทเลสโก้ กล่าวในแถลงการณ์ 'มันเป็นที่เขามเก่งในความสามารถในการปรับแต่งอย่างมีประสิทธิภาพ, การประยุกต์และสื่อสารแนวคิดของเขากับผู้เล่น นั่นทำให้เขาได้รับความเคารพจากผู้เล่นที่เขาฝึกสอนตลอดเส้นทางของเขา'

สเตลี่ย์ วัย 38 ปี ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าโค้ช ชาร์จเจอร์ส หลังทำงานฐานะโค้ชทีมรับ แรมส์ เพียงปีเดียวพร้อมสร้างเกมป้องกันอันดับ 1 ของลีก ทั้งการเสียคะแนนน้อยสุด, การป้องกันรวม และ การป้องกันขว้าง ในช่วงฤดูกาลปกติของซีซั่น 2020

'มันยากที่จะบอกเป็นคำพูดว่าผมรู้สึกตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้มีโอกาสเป็นหัวหน้าโค้ชของ ลอส แอนเจลีส ชาร์จเจอร์ส' สเตลี่ย์ กล่าว 'นี่คือความฝันที่เป็นจริงแน่นอน มันเป็นความฝันที่เพิ่งเริ่มต้น มีเหตุผลว่านี่อาจเป็นงานซึ่งเป็นที่ต้องการมากสุด ตั้งแต่เจ้าของทีม, แฟนๆ, เมือง รวมถึงคนในล็อคเกอร์รูม นั่นคือแพ็คเกจทั้งหมด'

'ผมไม่สามารถขอบคุณครอบครัว สปานอส และ ทอม เทเลสโก้ มากพอสำหรับความเชื่อมั่นของพวกเขาในพวกเรา และเมื่อถึงเวลาที่ทุกคนอ่านคำพูดนี้ในข่าวประชาสัมพันธ์ เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาโปรแกรม ชาร์จเจอร์ส ที่แฟนๆทุกคนามารถภูมิใจได้'

ภายใต้การทำงานของ สเตลี่ย์ ผู้เล่นเกมป้องกันของ แรมส์ หลายคนทำผลงานยอดเยี่ยมจากสถิติแซ็คทั้ง เลนเนิร์ด ฟลอยด์ (10.5), มอร์แกน ฟ็อกซ์ (6.0) และ ทรอย รีเดอร์ (3.0) ขณะที่ ดีเฟนซีฟไลน์แมน ไมเคิ่ล บร็อคเกอร์ส ทำสถิติแซ็คมากสุดอันดับสองในอาชีพของเขา 

มันยังเป็นฤดูกาลที่ แรมส์ เล่นเกมป้องกันดีสุดตั้งแต่ปี 1975 หลังเสียเฉลี่ยเพียง 9.6 คะแนนต่อเกม และเสียระยะเฉลี่ย 237.3 หลาต่อเกม นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ ชาร์จเจอร์ส ตัดสินใจเลือก สเตลี่ย์ เป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่