โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผจก.ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด และ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า เฮดโค้ช ลีดส์ ยูไนเต็ด จะเป็นกรณีท้ายๆสำหรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ไม่ผ่านคุณสมบัติอนุมัติทำงานโดยฝ่ายปกครองอังกฤษ (จีบีอี) หลังจากสหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท)
รายงานจาก ‘เมล ออนไลน์’ ว่าลีกผู้ดีมีความเข้มงวดมากขึ้นในการแต่งตั้งผจก.ทีมใหม่สักราย เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคนเข้าเมืองกระทรวงมหาดไทย และการขอใบอนุญาตทำงานของคนต่างชาติภายใต้ความดูแลกระทรวงแรงงาน
โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษร่างกฎสำคัญๆหลายประการให้สอดคล้อง ‘จีบีอี’ อย่างเรื่องแรกคือประสบการณ์คุมทีมในลีกระดับชั้นนำเป็นเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปี หรือประสบการณ์ 3 ปีในช่วงห้าซีซั่นหลังสุด
https://twitter.com/MailSport/status/1359770419599978497
แค่เรื่องนี้ โซลชา ก็ขาดคุณสมบัติแล้วเนื่องจากก่อนบอสวัย 47 ปีมารับงานต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อ ธ.ค. 2018 ทาง โซลชา คุม โมลด์ ทีมในทิปเปลิเก้น นอร์เวย์ ไม่เข้าข่ายลีกชั้นนำ
ด้าน บีเอลซ่า แม้เคยคุมทีมลีกใหญ่อย่าง มาร์กเซย, ลาซิโอ และ ลีลล์ ในรอบห้าปีก็จริง แต่เพราะจากนั้นว่างงานตั้งแต่ ธ.ค. 2017 แล้วค่อยถูก ลีดส์ จ้างในซัมเมอร์ 2018
เท่ากับเป็นการคุมทีมลีกชั้นนำยุโรป 3 จาก 6 ปีหลังสุด ตกคุณสมบัติเช่นกัน
ช่องทางอีกประการที่เข้าหลักเกณฑ์กรณีเฮดโค้ชรายนั้นๆไม่ได้มาจากสายงานคุมสโมสร ก็ต้องคุมทีมชาติในกลุ่มท็อป 50 ตามการจัดอันดับของ ฟีฟ่า ต่อเนื่องห้าปี จึงผ่านคุณสมบัติ
อนึ่งกฎเขียนไว้เพื่อป้องกันเฮดโค้ชจากต่างแดนหน้าใหม่ แต่กรณีของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ทำงานในอังกฤษอยู่ก่อนฐานะผู้ช่วยผจก.ทีม แมนฯ ซิตี้ แล้วไต่เต้าสู่บอส อาร์เซน่อล นั้นไร้ปัญหา
