รายงานจาก ‘เมล ออนไลน์’ ว่าแผนเดิมของ อาลีสซง คือจะหอบลูก-เมียไปร่วมพิธีทางศาสนาคริสต์ของบิดาที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตในเขื่อนที่เมืองบาเก้ ห่างไป 220 ไมล์ จากมาตุภูมิเมือง โนโว ฮัมเบอร์กู ทางตอนใต้ของบราซิล 

โดย อาลีสซง หวังไปให้ทันตั้งแต่สวดศพ, ขั้นตอนการนำร่างผู้เสียชีวิตลงโลงศพ, ขั้นตอนพิธีมิสสา และขั้นตอนพิธีฝังศพที่สุสาน 

อย่างไรก็ตามอุปสรรคการเดินทางคือเรื่องสำคัญประการแรกคือไม่มีเที่ยวบินจากอังกฤษไปยังรัฐ ริโอ กรานเด้ โด ซูล ยิ่งไปกว่านั้นรัฐนี้เพิ่งประกาศล็อคดาวน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะการระบาดเพิ่มขึ้นของโควิด-19 

เหตุผลต่อมาคือแม้สามารถหาเครื่องเจ็ตบินไปเองได้ ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโคโรน่าไวรัสทางรัฐบาลบราซิลสั่งกักผู้เดินทางมาจากต่างชาติอย่างน้อย 10 วัน เมื่อคำนวณว่าศพของมิสเตอร์ โชเซ่ อากอสตินโญ่ เบ็คเกอร์ วัย 57 ปี จะมาถึงเช้าวันศุกร์ (ท้องถิ่น) แล้วต้องประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไม่เกินสัปดาห์จากนั้น 

เท่ากับว่าต่อให้โกล ‘หงส์แดง’ ไปถึงบ้านเกิดแล้วจะไม่สามารถร่วมพิธีได้ทันที ไหนยังมีการเดินทางกลับอังกฤษที่ต้องกักตัวอีกร่วม 10 วันเช่นกัน 

ประการที่สามคือ นาตาเลีย เมียของ อาลีสซง ก็กำลังตั้งครรภ์ทายาทของพวกเขาได้ 28 สัปดาห์ การหอบทั้งเมียท้องกับลูกน้อยไปเสี่ยงติดโควิด-19 ก็คือความน่ากังวลในใจจอมหนึบบราซิเลี่ยน 

https://twitter.com/MailSport/status/1365213787117260801

ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดครอบครัวเผยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ อาลีสซง จะอยู่ที่อังกฤษแล้วไม่ได้เดินทางไปร่วมพิธีฝังศพบิดา 

“เขาพยายามหาทางอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อทางกลับไปร่วมงานทว่าติดปัญหาไม่มีเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักร ไหนจะมาตรการโควิดที่เข้มงวดของรัฐซึ่งจะเดินทางเข้า” แหล่งข่าวแสดงความเห็น

“ญาติทางบราซิลก็รอดูว่า อาลีสซง สามารถกลับมาถึงบ้านเกิดได้เมื่อไหร่ ค่อยตัดสินใจว่าให้เก็บศพไว้ที่ ลาฟราส โด ซูล ก่อนหรือนำกลับมาบ้านที่ โนโว ฮัมบูร์โก”

“แต่ท้ายที่สุดดูว่ามันอาจสิ้นหวังเมื่อ นาตาเลีย เมียของเขากำลังตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์, หรือไปถึงที่นั่นก็ต้องกักตัวชั่วคราวในโรงแรมอีก 10 วัน”

“เวลาที่ ลิเวอร์พูล อนุญาตจัดการธุระคือภายในสามสัปดาห์, แล้วไปประกอบพิธีต่างๆที่บราซิล 5 วัน ซึ่งมันคงเหมือนฉีก อาลีสซง เป็นชิ้นๆหากไม่สามารถไปร่วมงานศพบิดาได้ เพราะพวกเขาสนิทสนมกันมาก” 

อนึ่งพี่ชายอาลีสซง อย่าง มูเรียล เบ็คเกอร์ นายด่าน ฟลูมิเนนเซ่ เดินทางจาก ริโอ เดอ จาเนโร ไปถึงบ้านบุพการีแล้วเมื่อเช้าพฤหัสบดี (ท้องถิ่น)