ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง 

แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 2 - กลัดบัค (เยอรมัน) 0

(รวมผลสองนัด แมนฯ ซิตี้ เข้ารอบสกอร์รวม 4-0)

สนาม : ปุสกาส อาเรน่า, ฮังการี (สนามกลาง) 

แมนฯ ซิตี้ ชนะได้ก่อน 2-0 ในนัดแรกที่ไปเยือน นัดนี้ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้าน แต่ต้องแข่งสนามกลางที่ประเทศฮังการี 

เริ่มเกมมานาที 8 กลัดบัค ทักทายได้ลุ้นจากการยิงหน้าเขตโทษของ บรีล เอ็มโบโล่ แต่ เอแดร์ซอน พุ่งปัดปลายมืออกหลังหวุดหวิด 

ทว่าอีก 4 นาทีถัดมากลับเป็น แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 ริยาด มาห์เรซ ไหลบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ หวดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมงามหยด

แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 ในนาที 18 ฟิล โฟเด้น แทงบอลให้ อิลคาย กุนโดกัน แตะซ้ายเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาผ่าน ยานน์ ซอมเมอร์ ตุงตาข่าย

นาที 35 เรือใบสีฟ้า มีโอกาสอีกครั้งจากฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา เดอ บรอยน์ ปั่นเน้นๆ ผ่านกำแพงไปได้ทำท่าว่าจะเสียบใต้คาน แต่ว่า ยานน์ ซอมเมอร์ ปัดปลายมืออกหลังไปได้

กลัดบัคเกือบตีไข่แตกได้ในนาที 41 ที่ มาร์คุส ตูราม เลี้ยงถึงหน้าเขตโทษก่อนไหลให้ บรีล เอ็มโบโล่ ยิงด้วยซ้ายมุมแคบ แต่บอลพุ่งเลยเสาไกลออกหลังแค่คืบ จากนั้นจบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี้ นำ 2-0

ครึ่งหลังเริ่มมา 3 นาที เรือใบได้ลุ้นส่องก่อนเมื่อ กุนโดกัน จ่ายบอลให้ มาห์เรซ กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาที 68 มาห์เรซ ได้ยิงเน้นๆ อีกครั้งจากการจ่ายมาให้ของ แฟร์นันดินโญ่ แต่ว่าติดเซฟของ ยานน์ ซอมเมอร์ จังหวะต่อเนื่องกัน มาห์เรซ ไปเก็บบอลได้และจ่ายไปเกือบถึง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้ยิง ทว่ามีกองหลังกลัดบัคเคลียร์ทิ้งหวุดหวิด 

กลัดบัค มีโอกาสบ้างในนาที 77 เมื่อแนวรับเรือใบเคลียร์บอลไม่เขาตกเข้าทาง ฮันเนส โวล์ฟ ได้วางเท้าซ้ายซัดเน้นๆ หน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไป

จากนั้นจบเกม แมนฯ ซิตี้ ย้ำแค้นเอาชนะไปได้ 2-0 ทำให้เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-0 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดีอาส, ชูเอา กานเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น 

มึนเช่นกลัดบัค : ยานน์ ซอมเมอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์, มัทธีอัส กินเทอร์, นิโค่ เอลเวดี้, รามี่ เบนเซไบนี่ - เดนิส ซากาเรีย, โยนาส ฮอฟมันน์ - ลาร์ส ชตินเดิ่ล, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, มาร์คุส ตูราม - บรีล เอ็มโบโล่ 

ผู้ตัดสิน : เซอร์เก คาราเซฟ (รัสเซีย)