โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผจก.ทีม แมนฯ ซิตี้ สมกับเป็นโค้ชหัวก้าวหน้าเมื่อนั่งอธิบายรูปแบบการเล่น- แบ็กซ้ายหุบใน - ที่ใช้อยู่ช่วงหลังๆว่านอกจากเพิ่มตัวจ่ายบอลแดนกลางแล้ว ยังเป็นอีกรูปแบบการป้องกันเพราะเมื่อไม่เสียบอล ก็ปิดโอกาสโจมตีจากคู่แข่ง
แนวทางใหม่ของบอสวัย 50 ปีงัดมาใช้บ่อยมากในฤดูกาลนี้คือให้ผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายไม่ว่า ชูเอา กานเซโล่ หรือ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จากเดิมขึ้นเกมรุกทางกราบ ก็เปลี่ยนมาช่วยต่อบอลแดนกลางแทน ส่งผลให้นอกจากเพิ่มเปอร์เซนต์ครองบอล, ปิดโอกาสคู่แข่งตั้งลำและไม่ต้องกลัวโดนโต้กลับเพราะฟูลแบ็กลอยสูง
“แนวคิดนี้เอามาจากเยอรมัน เพราะเมื่อเล่นด้วยแบ็กขึ้นสูง ถ่างกว้างตามขนบจะโดนคู่แข่งเล่นงานจากเกมโต้กลับ แล้วผมก็เรียนรู้มันตอนคุม บาร์เซโลน่า เรื่องเราสามารถควบคุมหน้าตาของเกมจากผู้เล่นเจ๋งๆที่มี” กวาร์ดิโอล่า กล่าวกับ ‘บีที สปอร์ต’
https://twitter.com/btsportfootball/status/1371953010339938305
“คุณจำเป็นต้องเอาปืนมา 3 กระบอกกระสุนอีก 100 นัดมายิง เพื่อจะเสียบอลสักหน หรือเท่ากับว่าแทบเป็นไปไม่ได้จะเปลี่ยนการครองบอล”
“ส่วนไอเดียนี้เมื่อนำมาใช้ที่เยอรมันต้องบอกว่ามันคือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับแนวคิดเดิม แกนหลักสำคัญคือแหกแนวทางที่แบ็กวิ่งขึ้นทางกราบมาเป็นหุบเข้าช่วยต่อบอลแดนกลาง เพราะต่อให้เสียบอลก็ยังมีตัวผู้เล่นมากกว่าระดับ 4-6 คนคอยซ้อน หรือเมื่อจ่ายบอลสั้นๆมันก็ควบคุมสถานการณ์ได้ นั่นคือเหตุผลเดียวว่าทำไมเล่นแบบนั้น”
“เอาจริงๆเราประเดิมเล่นไปแล้วเมื่อซีซั่น 100 คะแนนโดยมี ฟาเบียน เดลฟ์ ทำหน้าที่นั้น กระทั่งปัจจุบัน อเล็กส์ ซินเชนโก้ กับ ชูเอา กานเซโล่ มีคุณภาพพองัดมุกแบ็กซ้ายหุบในกลับมาอีก”
“ไม่ใช่ฟูลแบ็กทุกคนจะสามารถเล่นได้ อย่างเกมก่อนนั้นลองให้ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมลองบ้างก็เห็นความต่าง”
“แนวคิดเราคือเล่นป้องกันด้วยการเป็นผู้ครองบอล, ครองบอลให้มากสุดเท่าที่ทำได้ และดุดันเมื่อไม่มีบอลกับตัว”
“การครองบอลทำให้สามารถถ่ายลูกไป-มาได้ ซึ่งรูปแบบจะเข้าท่าเมื่อผ่านกระบวนการใช้งานบ่อยๆ หรืออย่างเวลาเราอยากเข้าทำฉับพลันหากใช่วิธีเดิมมันโดนจับทางแล้ว จำเป็นต้องเอาผู้เล่นไปยัดตรงกลางเยอะๆเพื่อสร้างชุดเกมบุก”
สถิติครองบอล ซิตี้ ดีกว่า 64%:36%, จำนวนการผ่านบอล (สำเร็จ) ก็ข่ม 861(790) : 410(346) คิดเป็นความแม่นยำ 92%:84% เกมชนะ มึนเช่นกลัดบัค วานนี้
