รัสเซลล์ เวสต์บรู้ก การ์ด วอชิงตัน วิเซิร์ดส์ ทำใจว่าชาตินี้อาจไม่มีปัญญาเป็นแชมป์เอ็นบีเอกับเขาเพราะแก่ลงอยู่ทุกวัน ดังนั้นจึงเบนเข็มทำผลงานสุดความสามารถควบคู่การตอบแทนสังคมเต็มกำลังเพื่อหวังว่าจะถูกจดจำฐานะแชมป์ในใจคนทุกข์ยาก
‘รัสส์’ บนวัย 32 ปีตลอดอาชีพเคยเข้าใกล้แลร์รี่ โอไบรอันมากสุดเมื่อครั้งอยู่ โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ เข้าถึงเอ็นบีเอ ไฟนัลส์ 2012 ทว่าก็ปราชัยต่อ ไมอามี ฮีต 1-4 เกมซีรี่ส์ จากนั้นก็ไม่ใกล้เคียงอีกเลยต่อให้ดิ้นเทรดไป ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ หรือปัจจุบันอยู่เมืองหลวงแค่ตั๋วเพลย์ออฟยังลำบาก
นั่นทำให้เอ็มวีพี 1 สมัยเริ่มบ่นถอดใจพร้อมเบนเข็มไปเอาดีทางช่วยเหลือสังคมเข้าท่ากว่า
“ผมมีความสุขดี เพราะผมเป็นแชมเปี้ยนมาแล้วหนหนึ่งนั่นคือได้เข้ามาเล่นในลีกเอ็นบีเอ ชีวิตของผมมันโตมาข้างถนน ได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้นับเป็นแชมเปี้ยนแล้ว ไม่จำเป็นต้องลิ้มรสแชมป์เอ็นบีเอก็ได้” เวสต์บรู้ก กัดฟันพูดด้วยความปวดร้าวทาง ‘ดิ แอธเลติค’
https://twitter.com/FredKatz/status/1377092464624943105
“ก็ทราบว่าคนที่เคยเป็นแชมป์เอ็นบีเอหลายคนทำตัวน่าสมเพช เพราะเคยทำสิ่งใดตอบแทนชุมชน, ไม่เคยทำสิ่งดีใดต่อคนบนโลกเรา และสำหรับตัวผม บอกไว้เลยนะพวกมรดกที่ทิ้งไว้...มันไม่ได้วัดแค่สิ่งที่ทำบนคอร์ทบาสฯ”
“ผมไม่ต้องเล่นบาสฯไปทั้งชีวิต สิ่งที่คนจะจดจำผมคือสิ่งที่นอกสนาม ผู้คนมากมายที่ผมมีอิทธิพลสร้างแรงบันดาลใจต่อพวกเขามาตลอดอาชีพ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เลือกก้มหน้าก้มตาทำงานผลักดันตัวเองต่อไป”
“มันไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ลงไปแข่งแล้วถูกวิจารณ์ประจำแบบที่ผมโดนอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็พยายามมองในแง่บวกเพราะบางทีสิ่งที่ผมทำอยู่มันอาจถูกต้องแล้วคนในวงการจึงเอาไปพูดถึง”
ล่าสุด เวสต์บรู้ก โดน สตีเฟ่น เอ.สมิธ แห่ง อีเอสพีเอ็น ชำแหละว่าตลอด 13 ปีบนอาชีพผลงานเฉลี่ยเด่น 21.8 คะแนน, 10.5 แอสซิสต์ และ 10.1 รีบาวน์ด ทว่าขาดคุณสมบัติผู้นำเข้าเพลย์ออฟทีไรล้มเหลวเสมอ
