ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งตกรอบก่อนรองฯ. ชปล.เมื่อรวมผลสองนัดแพ้ เรอัล มาดริด 1-3 เท่ากับมือเปล่าซีซั่นนี้ผิดกับฤดูกาล 2019-20 กดแชมป์สามรายการ (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ) 

เรื่องช่วงเวลาแห่งความสำเร็จที่สั้นเพียงฤดูกาลเดียวของ ‘หงส์แดง’ ทาง เฟอร์ดินานด์ มองว่าต้นเหตุเพราะวิธีการเล่นแบบ ‘เฮฟวี่ เมทัลฟุตบอล’ ที่ต้องบ้าพลังถึงขีดสุด แล้วมันถูกเหยียบคันเร่งจนน้ำมันหมดเมื่อปลายซีซั่นก่อนแล้ว 

“เราตั้งคำถามนี้กันตั้งแต่เกมเริ่ม - ที่พวกเขาล้มเหลวฤดูกาลนี้สาเหตุจาก ‘เฮฟวี่ เมทัลฟุตบอล’ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เองหรือเปล่า?” ‘เฟอร์ดี้’ กล่าวหลังจบแมตช์เจ๊า 0-0 ที่แอนฟิลด์  

“เขาคุมทีมนั้นมา 4-5 ปี … บอลบ้าพลังมันจะเล่นมั่นคงไปได้ตลอดไหม? รักษาระดับแบบที่เคยทำไปตลอดไหวหรือเปล่า? แล้วนี่ก็แข่งช่วงโรคระบาด? ไหนจะปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นหลักอีก?”

https://twitter.com/btsportfootball/status/1382454068078116865

ด้าน โอเว่น เสริมว่า ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จเพราะเล่นบอลแบบบ้าพลัง ดังนั้นหากไม่สามารถเร่งเครื่องไปสู่จุดยอดมนุษย์ได้ ก็ยากจะรักษาโทรฟี่ไว้ที่แอนฟิลด์ มันจึงถึงทางสามแพร่งว่าจากนี้วิธีการเล่นของ ‘หงส์แดง’ จะคลี่คลายไปทางไหน 

“ผมคิดว่าคำจำกัดความที่ชัดเจนในการปั้นทีมนี้คือบี้อย่างเข้มข้นและทุ่มพลังลงไป - นั่นคือสิ่งที่เราอยากเห็นจากทีม ลิเวอร์พูล” ‘เบบี้โกล’ แสดงความเห็นบ้าง 

“มันคือพื้นฐานที่ทำให้ ‘หงส์แดง’ ประสบความสำเร็จ ยิ่งใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งมันยกโทษให้ไม่ได้หากคุณไม่เห็นว่าทีมสามารถทำมันออกมา”

“คุณอาจบอกผลจากปัญหาผู้เล่นเจ็บ หาอีกสารพัดเหตุผลการหลุดฟอร์ม” 

“เมื่อไม่เห็นว่าเป็นทุกปัจจัยถูกติ๊กถูก การจุดระเบิดผลงานก็กลับไปเริ่มต้นใหม่... ง่ายๆแบบนั้น” 

เท่ากับว่า ‘หงส์แดง’ เหลือเป้าหมายเดียวฤดูกาลนี้คือทำอันดับท็อป 4 ขณะเหลือคิวแข่งอีกแค่ 7 นัด